
ไหวมั้ย อนุทิน แบกดีลสันติภาพ แถมทรัมป์เล่นใหญ่พ่วง MOU แร่หายาก ค่ายน้ำเงินเหนื่อยหนัก โดนกระแสชาตินิยมตีกลับ พลังมวลชนปีกขวา คปท.ยุติการชุมนุม ปานเทพ-วีระ รุกต่อ ยกเลิก MOU43 ค้านดีลสันติภาพ เสี่ยงเสียดินแดน
28 ตุลาคม 2568 อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้หารือแบบทวิภาคี ไทย-กัมพูชา ที่ศูนย์ประชุม KLCC กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย หลังทั้งคู่ได้ลงนามประกาศความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา หรือดีลสันติภาพไปแล้ว
เนื่องจากกระแสชาตินิยมยังเชี่ยวกราก “อนุทิน” และรัฐบาลเฉพาะกาลจึงเจอทัวร์ลง ดีลสันติภาพไทย-กัมพูชา ถูกตีความว่า จะทำให้ไทยเสียดินแดน แถมอาจจะต้องเสียแร่ธาตุหายากให้สหรัฐฯ เมื่อมี MOU แบบฉุกละหุกโผล่มาชนิดแปลกใจกันทั้งแผ่นดิน
ในบริบทภูมิรัฐศาสตร์การเมืองโลก รัฐบาลไทยตกอยู่หว่างเขาควาย ข้างหนึ่งคือสหรัฐ และอีกข้างหนึ่งก็จีน
เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางมามาเลย์เที่ยวนี้ พร้อมกับข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้ “อนุทิน-ฮุนมาเนต” จึงร่วมประกอบฉากอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงได้
ไทยในวงล้อมมหาอำนาจ
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางมาเป็นสักขีพยานในการลงนามประกาศความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ในวันอาทิตย์ 26 ต.ค. ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพราะมีเหตุผลในปัจจัยเชิงภูมิรัฐศาสตร์การเมืองโลกมากกว่า
เหมือนที่นักวิชาการไทยคนหนึ่งบอกว่า ทรัมป์เล่นบทขับรถปาดและแซงหน้ามหาอำนาจจีนในกรณีไทย-กัมพูชา
ที่ผ่านมา สหรัฐฯก็มีข้อมูลจีนสนับสนุนเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับกัมพูชา และความสัมพันธ์ทางทหารระหว่าง “พนมเปญ” กับ “ปักกิ่ง”แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน จนกลายเป็นภัยคุกคามความมั่นคงในระดับภูมิภาค
ดังนั้น ในสายตาของทรัมป์วันนี้ ปัญหาสแกมเมอร์ในเขมร ไม่สำคัญเท่ากับการที่สหรัฐฯต้องเข้ามาถ่วงดุลจีนในภูมิภาคนี้
สงคราม 5 วันระหว่างไทย-กัมพูชา จึงได้รับความสนใจจากทรัมป์ และกระโจนเข้ามาเป็นพระเอกในฉากดีลสันติภาพ
ที่สร้างความประหลาดใจให้คนไทยคือ MOU ว่าด้วยความร่วมมือด้านแร่ธาตุหายาก หรือแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earths) ระหว่างนายกฯอนุทินกับ ทรัมป์
ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก รัฐบาลอนุทินเจอทัวร์ลงกรณีดีลสันติภาพไม่ทันข้ามวัน ก็เจอเรื่อง MOU แร่หายาก ซึ่งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต้องออกดาหน้าออกมาชี้แจงพัลวัน
กระแสชาตินิยมตีกลับ
จะว่าไปแล้ว กระแสชาตินิยมตีกลับในช่วงนี้มาจากอินฟลูฯ ที่เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นหลัก
ขณะที่ “เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย” (คปท.) ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งในกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ที่เคยจัดการชุมนุมใหญ่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ได้ประกาศยุติการชุมนุมที่ข้างสะพานชมัยมรุเชฐ คืนพื้นที่ให้กรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมแสดงความอาลัยในช่วงเวลาสำคัญของชาติ
พิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. แถลงว่า ทุกคนทราบดีว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในประเทศขณะนี้ เป็นที่เสียใจของคนไทยทั้งประเทศ แต่ปัญหาชายแดน ก็ต้องเฝ้าติดตามกันต่อไป หลังมีดีลสันติภาพไทย-กัมพูชา
ตรงกันข้ามกับภาคประชาชน ที่นำโดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และวีระ สมความคิด ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับดีลสันติภาพ เพราะพื้นที่ที่ไทยเคยเสียไปแล้วอย่าง ปราสาทตาควาย, ปราสาทคนา, ช่องอานม้า ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้คืน
ประเด็นเรื่องแผนที่ เมื่อนายกฯอนุทิน และกระทรวงต่างประเทศอ้างว่าจะใช้เทคโนโลยี LiDAR มาทดแทนแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ภาคประชาชนไม่เห็นด้วย เนื่องจาก LiDAR เป็นแค่เส้นสำรวจ
การที่รัฐบาลไทย พยายามอ้างเทคโนโลยีใหม่มากลบเกลื่อนความผิดพลาดของแผนที่เก่า จึงเป็นเพียงการขายฝัน หรือเป็นการหลอกตัวเอง เพื่อเลี่ยงการยกเลิก MOU ที่เป็นปัญหา
ด้วยเหตุนี้ ในวันที่ 31 ต.ค.2568 วีระ สมความคิด และชาวบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จะมีการเข้าไปผลักดันคนกัมพูชาออกจากพื้นที่ประเทศไทยที่รุกล้ำเข้ามากว่า 71 ไร่
สถานการณ์บ้านหนองจาน ในวันที่กระแสชาตินิยมยังคุกรุ่นอยู่ จะส่งผลต่อดีลสันติภาพมากน้อยแค่ไหน ก็น่าติดตามยิ่งนัก