
2 พฤศจิกายน 2568 ที่บ้านโล่สถาพรพิพิธ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำภาคใต้ของพรรค ได้เดินทางมาเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ตรัง ในนามพรรคภูมิใจไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ หรือ "โกหนอ" อดีต สส.ตรัง และบิดาของ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ประชาธิปัตย์ นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ผู้นำท้องถิ่นและผู้สนับสนุนกว่า 500 คนให้การต้อนรับ
นอกจากนี้ยังเปิดตัวผู้สมัคร สส.ครบทั้ง 4 เขต รายชื่อ ประกอบด้วย เขต 1 นายเอกพล ณ พัทลุง นายก อบต.ควน , เขต 2 นายทวี สุระบาล สส.พรรคพลังประชารัฐ , เขต 3 น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.พรรคประชาธิปัตย์ , เขต 4 นายพิชัย เจริญศิริสุนทร หรือ สจ.ล้าน สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง อ.กันตัง เขต 1 หลานนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวในตอนหนึ่งว่า พื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ที่ตนให้ความสำคัญมาก ตนไม่เคยเชื่อเลยว่าพรรคตนจะเกิดขึ้นในพื้นที่นี้ จนการเลือกตั้งปี 2566 พรรคตนก็ได้ สส.เข้ามา ปีหน้าเลือกตั้งก็หวังคว้าโควต้า สส.ภาคใต้เพิ่ม วันนี้ตั้งแต่ลงเครื่องที่สนามบินนานาชาติตรัง ก็มีแต่พี่น้องขอกอดท่านนายกฯ ตนก็ว่ากอดได้ "ท่านขอกอด ผมขอกา"
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า เราก็ได้บ้านโล่สถาพรพิพิธ บ้านสุระบาล และพี่น้องผู้สมัครในจ.ตรัง มาร่วม ขอสัญญาจะทำงานเพื่อพี่น้อง ชาวตรัง ชาวใต้ ชาวไทย ทำงานตอบแทนอย่างสุดความสามารถ
ทั้งนี้ ภายหลังจากกล่าวกับผู้ที่มาให้การต้อนรับเสร็จ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้สวมเสื้อแจ็กเกตมีตราโลโก้พรรคภูมิใจไทย ให้กับนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ หรือ โกหนอ พร้อมทั้งกล่าวว่านี่คือสมาชิกใหม่พรรคภูมิใจไทย ก่อนหน้านี้นายสมชาย ได้เปิดใจถึงการตัดสินใจที่เคยลั่นวาจาไว้ว่า หากมีชื่อนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ปรากฏในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะไม่มีชื่อนายสมชาย ในพรรคอีกต่อไป
พอสวมเสื้อเสร็จนายสมชาย ได้ยกนิ้วโป้งทั้ง 2 ข้าง พร้อมรอยยิ้ม ก่อนหันหลังโชว์ข้อความหลังเสื้อ "พูดแล้วทำ" เรียกเสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องอย่างกึกก้อง และสวมเสื้อให้ว่าที่ผู้สมัคร สส. เขต จำนวน 2 คน ประกอบด้วย นายเอกพล ณ พัทลุง และนายพิชัย เจริญศิริสุนทร หรือ สจ.ล้าน ส่วนว่าที่ผู้สมัครอีก 2 คน ทั้งนายทวี สุระบาล และน.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ไม่ได้มีการสวมเสื้อเนื่องจากยังสังกัดพรรคเดิมอยู่