
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางเยือนประเทศภูฏาน ให้สัมภาษณ์กรณีหน่วยงานโฆษกรัฐบาลกัมพูชา รายงานกรณีนายปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ในการหารือ 4 ฝ่ายที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ฝ่ายกัมพูชาร่าง 9 เงื่อนไขฟื้นฟูสันติภาพและไทยต้องรับทุกข้อเสนอว่า ไม่เป็นความจริง เพราะไม่เคยคุยกันเรื่องเงื่อนไข เพราะคุยกันเพียงว่า จะตกลงกันว่าจะดำเนินการอะไรบ้างที่จะคลี่คลายปัญหาต่าง ๆ เพื่อจะเดินหน้าเรื่องความสัมพันธ์ เพราะถ้าไม่มีการแก้ไขปัญหา 4 เรื่องหลัก ความสัมพันธ์ก็ยังเดินหน้าไม่ได้ รวมทั้งเชลยศึก 18 คนด้วย ซึ่งก็ได้ตกลงกันแล้วว่า จะมีการหารือถึงแผนงานในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC เพราะไทยต้องการเห็นแผนงาน และการดำเนินการอย่างจริงจังใน 4 เรื่องหลัก เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ เพราะฉะนั้นในการประชุม GBC ที่จะมีขึ้นหลังการหารือ 4 ฝ่าย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย คือ 1.แผนงานที่จะเคลื่อนย้ายอาวุธหนักกลับสู่ที่ตั้งเดิม เพื่อลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน 2.แผนงานในการกู้ทุ่นระเบิดและเริ่มมีการดำเนินการด้วย 3.แผนงานในการร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ 4.เรื่องการรุกล้ำก็ต้องมานั่งคุยอย่างจริงจังว่าจะทำอย่างไรโดยเน้นสันติวิธี เพื่อให้เกิดเหตุการณ์ตามชายแดน เมื่อมีการดำเนินการให้เห็นผลแล้ว ฝ่ายไทยก็จะพิจารณาในเรื่องการปล่อยเชลยศึก 18 คน นั่นเป็นสิ่งที่เราตกลงกัน และผมอยากจะชี้แจงตามข้อเท็จจริง ว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ
นายสีหศักดิ์ ยังไม่ทราบว่า ทำไมกัมพูชาออกข่าวว่า ฝ่ายกัมพูชามีการกำหนดเงื่อนไข 9 ข้อ ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นไม่ใช่ ซึ่งอาจเป็นการเสนอข่าวที่คลาดเคลื่อน หรือเป็นการเสนอข่าวเพื่อให้เกิดความได้เปรียบ ซึ่งไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะขณะนี้อยู่ระหว่าง ที่แต่ละฝ่ายต้องดำเนินการภายใน รวมถึงยังต้องมีการประชุม GBC ที่ต้องการให้ทุกอย่างเดินหน้า และคืบหน้าตามที่ได้คุยกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์
เมื่อถามว่าการที่รัฐมนตรีกัมพูชาให้ข้อมูลไม่เป็นไปตามผลการหารือในเวที 4 ฝ่าย จะทำให้ก้าวต่อไปเดินไปตามสิ่งที่หารือไว้ได้หรือไม่ นายสีหศักดิ์ ยืนยันว่า ลำบากแน่นอน เพราะการเสนอข่าว ควรหลีกเลี่ยงการเสนอข่าวที่ถูกตีความในลักษณะคลาดเคลื่อน หรือมีการเสนอข่าวที่สร้างความได้เปรียบฝ่ายเดียว ไม่ควรกระทำ เราต้องระมัดระวัง อย่างตนพยายามเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา เพราะเรามุ่งหวังผลที่จะเดินหน้าความสัมพันธ์ ดังนั้น ตนเป็นห่วงตรงนี้ว่า การเสนอข่าวของฝ่ายกัมพูชาที่ผ่านมา บางอย่างต้องรอให้มีการหารือกันเป็นที่เรียบร้อยเสียก่อน เพราะเราอยากเห็นการบรรลุถึงเอกสารความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ในช่วงการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์
ส่วนไทยจะไม่เปลี่ยนทิศทางต่อจากนี้ใช่หรือไม่ นายสีหศักดิ์ ระบุว่า ถ้าทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะพูดคุยกันในการประชุมระดับ GBC ให้ได้ผล มีแผนงานในเรื่องต่างๆ เราก็เดินหน้าต่อไป แต่ถ้าเกิดมีการออกข่าวแบบนี้ ก็ต้องมีการชี้แจงกันไปมา ตอบโต้กันไปมา ไม่ได้เกิดประโยชน์อันใดทั้งสิ้น เราควรมุ่งสร้างบรรยากาศที่ดี ให้การทำงานของคณะเจ้าหน้าที่ ที่ต้องประชุมต่อไป ได้ทำงานบรรลุผล เพื่อบรรลุข้อตกลง ที่การประชุมสุดยอดอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์
เมื่อถามว่าจะไม่ทำให้การประชุมระดับ GBC สะดุดใช่หรือไม่นั้น นายสีหศักดิ์ ย้ำว่า ฝ่ายไทยดำเนินการด้วยความจริงใจ ก็ขอให้กัมพูชามาด้วยความจริงใจ และเรายังยึดในสิ่งที่ได้มีการตกลงกัน โดยขอให้ฝ่ายกัมพูชายึดมั่นกับสิ่งที่ได้พูดคุยกันในการหารือ 4 ฝ่าย
ส่วนการที่กัมพูชามักนำเรื่องไปร้องเวทีระหว่างประเทศ และกรณีล่าสุดที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา ร้องไปยังข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนยูเอ็น ว่าไทยทำสงครามจิตวิทยาคุกคามกรณีบ้านหนองจานนั้น นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นตรงกันว่า หากมีปัญหาควรจะแก้ไขในกลไกระดับทวิภาคี อีกทั้งสหรัฐฯ และมาเลเซีย ก็เห็นว่า การแก้ไขที่ดีที่สุด คือการพูดคุยระหว่างสองฝ่าย ไม่ต้องนำไปสู่เวทีระหว่างประเทศ เพราะไม่ได้เป็นการช่วยแก้ไขปัญหา