
6 ตุลาคม 2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผู้รับมอบอำนาจจาก นายเบน สมิธ หรือ เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์(Benjamin Mauer berger) นักธุรกิจชาวต่างชาติ เดินทางมา ยื่นฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในข้อหาหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา พร้อมทั้งฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท
นายธนดล กล่าวว่า ในวันนี้ตนมายื่นฟ้องหมิ่นประมาท จากกรณีเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา นายรังสิมันต์ อภิปรายในสภา กล่าวหานายเบน ว่า เป็นแก๊งสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้เกิดความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องเรียบร้อย โดยจะนัดไต่สวนวันที่ 24 พ.ย.2568
เมื่อถามว่า เรื่องนี้นายรังสิมันต์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า มาใช้ทีมทนายทีมเดียวกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและรมว.เกษตรฯ ตรงนี้จะเตรียมแก้ต่างยังไงบ้าง นายธนดล กล่าวถึงความสัมพันธ์ว่า ทั้ง ร.อ.ธรรมนัส และนายเบนจามิน รู้จักกันผ่านทางนายทักษิณ ชินวัตร และเคยมีการลงทุนที่นครดูไบด้วย อีกทั้งตนยังได้รับมอบหมายให้ดูเรื่องข้อกฎหมายของนายเบนจามิน เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ
เมื่อถามว่า ไม่กลัวที่สังคมมองว่ามาใช้ทีมทนายความของ ร.อ.ธรรมนัส นายธนดล กล่าวว่า กฎหมายไม่ได้ห้ามในเรื่องการทำหน้าที่เป็นทนาย แต่ในเรื่องของความรู้สึกของพี่น้องประชาชน ตรงนี้ตนไม่สามารถก้าวล่วงหรือห้ามความรู้สึกดังกล่าวได้ และตนยืนยันว่าตนทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น
ส่วนเรื่องการฟ้องอาญา แต่สภามีเอกสิทธิ์คุ้มครองอยู่นั้น ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 124 บอกไว้ว่า ถ้าเป็นการประชุมรัฐสภาแบบปิด เป็นเอกสิทธิ์คุ้มครองทั้ง สส.และ สว. แต่ถ้าเกิดถ่ายทอดออกไปให้แก่บุคคลที่ 3 ไม่ได้คุ้มครองตรงนั้น
ส่วนเรื่องเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ตนได้ยื่นฟ้องต่อศาลเเพ่งไปเเล้ว ศาลมีคำสั่งรับฟ้องเเละนัดชี้ 2 สถานเเล้วเช่นกัน นายเบนจามินทำธุรกิจทั้งในประเทศไทยและสิงคโปร์ค่อนข้างเยอะ และสิ่งที่นายรังสิมันต์ อภิปรายไปทำให้เกิดความเสียหาย จนถูกตรวจสอบอย่างละเอียดที่ประเทศสิงคโปร์ แต่ก็ยังไม่พบความผิดทั้งในประเทศไทยและที่สิงคโปร์ การฟ้องเรียก 100 ล้านบาทถือว่าน้อยไป เเต่ตนก็อยู่ในความเป็นจริงเพราะที่ผ่านมาศาลก็สั่งไม่เคยถึง
นายธนดล กล่าวต่อว่า ตนได้รับมอบหมายจาก ร.อ.ธรรมนัส ให้ดูแลเรื่องกฎหมายให้กับ นายเบนจามิน อยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะแค่คดีนี้ ซึ่งตนก็ทำหน้าที่ตามวิชาชีพของตน โดยยอมรับว่าอาจจะโดนทัวร์ลงด้วย แต่ตามที่นายรังสิมันต์ อภิปรายไปนั้น ถ้าเกิดนายเบนจามินเป็นสแกมเมอร์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริง สามารถไปแจ้งความได้ทันที และตนจะออกจากทีมกฎหมายของนายเบนจามินอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ก่อนจะได้รับมอบอำนาจเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2568 มาเป็นทนายของนายเบนจามิน ตนก็ได้ตรวจสอบแล้วว่าตัวลูกความไม่เคยมีการต้องโทษในคดีต่างๆ และอยากเรียนให้ทราบว่า นายเบนจามิน ถูก กลต.ดำเนินคดีเมื่อปี 2564 แต่ตนไปตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นคนละคนกัน เพียงแต่มีชื่อคล้ายกันเท่านั้น ปัจจุบันตัวนายเบนจามิน อยู่ในประเทศไทยมีการเดินทางเข้าออกต่างประเทศบ่อยครั้ง เนื่องจากทำธุรกิจ ไม่มีหมายเเดงหรือหมายจับใดๆ ธุรกิจที่ทำคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซื้อขายเรือยอร์ช เเละเครื่องบินด้วย
ส่วนความสัมพันธ์ของนายเบนจามิน กับสมเด็จ ฮุนเซน ตนเคยถาม นายเบนจามิน เล่าว่า เคยไปลงทุนที่กัมพูชาและชวนนักลงทุนไปลงทุนที่กัมพูชาจริง อีกทั้งเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลจริง แต่ไม่เคยเข้าร่วมประชุมและได้รับเงินเดือนจากรัฐบาลกัมพูชาเลย
นายธนดล กล่าวอีกว่า ตนขอตั้งคำถามไปถึงนายรังสิมันต์อีกว่า ถ้าความจริงไม่เป็นตามที่อภิปรายไปจะรับผิดชอบกับชื่อเสียงของนายเบนจามินอย่างไร ก่อนหน้านี้นายรังสิมันต์ ก็เคยอภิปรายเรื่อง สว.ทรงเอ ที่เกี่ยวกับ นายอุปกิต ปาจรียางกูร มาแล้วจนศาลก็ยกฟ้องนายอุปกิตด้วย ขอถามว่าใครจะออกมารับผิดชอบชื่อเสียงที่เสียไปของนายอุปกิต และจะให้ชื่อเสียงของนายเบนจามิน เสียไปเพราะเรื่องนี้ด้วยหรือไม่
ในส่วนนัดไต่สวนมูลฟ้องนายเบนจามิน จะเดินทางมาไต่สวนด้วยตนเองหรือไม่นั้น ตรงส่วนนี้ตนขอปรึกษากับทีมทนาย แต่ในเบื้องต้นจะเป็นตน และพยานบุคคล 2 ราย ซึ่งเป็นคนธรรมดาที่ได้รับฟังการอภิปรายเเล้วรู้สึกอย่างไร
ในส่วนที่มีคนชื่อคล้ายนายเบนจามิน ที่โดนคดีอาญา ทั้งตน และ ร.อ.ธรรมนัสไม่รู้จัก รวมถึงไม่ทราบด้วยว่าเจ้าตัวเป็นใครเพราะไม่ได้มีหน้าที่ไปสืบตรงส่วนนั้น
ส่วนการออกมาฟ้องในครั้งนี้ สังคมอาจจะตั้งคำถามว่าเป็นการฟ้องเพื่อปกป้องสิทธิ์หรือปิดปากนายรังสิมันต์ตนมองว่า นายรังสิมันต์ จะพูดอะไรก็ได้เหมือนเดิม ยืนยันว่าไม่ได้ฟ้องปิดปาก แต่ถ้าพูดอะไรอย่าทำให้ผู้อื่นเสียหาย ซึ่งนายรังสิมันต์ ก็ยอมรับว่าเอาข้อมูลมาจากนายทอม ไรท์ ตนขอถามกลับว่า ถ้าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลปลอมจะรับผิดชอบได้ไหม จึงมีความจำเป็นที่ต้องมาฟ้องศาลเพื่อพิสูจน์
ในส่วนคดี ร.อ.ธรรมนัส ที่ให้สัมภาษณ์ว่าจะฟ้องนายรังสิมันต์ โรม ตนก็ให้ความเห็นท่านไป อยากให้รอก่อนเพราะดูเเล้วคำพูดอาจจะยังไม่เข้าองค์ประกอบชัดเจน ไม่เหมือนกรณีนายเบนจามิน ที่ระบุว่าไปเกี่ยวกับแก๊งสแกมเมอร์