
6 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (5 ต.ค. 68) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการมาตรการป้องกันอุทกภัยของนิคมอุตสาหกรรม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม
นายธนกร เปิดเผยภายหลังรับฟังบรรยายสรุปและตรวจเขื่อนป้องกันน้ำท่วมของนิคมฯ บางปะอิน ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญสูงสุดกับการป้องกันผลกระทบจากอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจ เราทุกคนต่างมีบทเรียนจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยในปี 2554 การลงพื้นที่ในวันนี้จึงไม่ใช่เพียงการตรวจเยี่ยม แต่เป็นการมาเพื่อสร้างความมั่นใจว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย
"ผมได้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของนิคมฯ บางปะอิน ทั้งแนวคันดินคอนกรีตเสริมเหล็กที่ได้มาตรฐานสากล ระบบสูบน้ำขนาดใหญ่ และแผนเผชิญเหตุที่รัดกุม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่ประมาทและการเตรียมตัวที่ดีเยี่ยม" นายธนกร กล่าว
พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบนโยบายและสั่งการเพิ่มเติม ให้มีการบูรณาการข้อมูลสถานการณ์น้ำเป็นหนึ่งเดียว (Single Command) จัดทำช่องทางการสื่อสารฉุกเฉินที่เข้าถึงง่ายสำหรับผู้ประกอบการ และสนับสนุนการจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง 3 นิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมนครหลวง นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และนิคมอุตสาหกรรมบางหว้า (ไฮเทค) เพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากรและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามฉุกเฉิน สถานการณ์ปัจจุบันของ 3 นิคมฯ ดังกล่าวมีการเฝ้าระวังผ่านการพยากรณ์ปริมาณน้ำฝนสะสมจากแบบจำลองบรรยากาศ และปริมาณระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระรามหกสูงสุดย้อนหลัง 3 ปี เปรียบเทียบกับปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ปกติ ทั้งนี้ ได้กำหนดเกณฑ์เตือนภัยเป็น 4 ระดับ คือ ระดับปกติธงสีเขียว ระดับเฝ้าระวังธงสีเหลือง ระดับเสี่ยงธงสีส้ม และระดับวิกฤตธงสีแดง มั่นใจว่าปีนี้น้ำจะไม่ท่วมนิคมฯ แน่นอน
“ผมขอให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนทุกท่านมั่นใจว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและรัฐบาลจะทำ ทุกวิถีทางเพื่อดูแลและปกป้องการลงทุนของท่านให้ปลอดภัย การเตรียมความพร้อมในวันนี้ คือหลักประกันที่ดีที่สุดสำหรับความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศในวันข้างหน้า ในส่วนพื้นที่รอบนอกเขื่อนกั้นน้ำ ผู้ประกอบการในนิคมฯ จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยร่วมสนับสนุนงบประมาณ ถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเพื่อมอบให้กับชุมชน” นายธนกร กล่าว
ด้าน นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวเสริมว่า นิคมฯ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ทำงานร่วมกับกรมชลประทานและหน่วยงานท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และยืนยันว่านิคมฯ มีความพร้อมปฏิบัติตามข้อสั่งการของท่านรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด ในการสร้างความมั่นคงและปลอดภัยสูงสุดให้แก่ผู้ประกอบการทุกราย ในภาพรวม กนอ. ได้วางมาตรการป้องกันอุทกภัยของนิคมฯ โดยมีมาตรการสำคัญ 8 มาตรการเพื่อป้องกันอุทกภัยของนิคมฯ ได้แก่
สำหรับนิคมอุตสาหกรรมบางปะอินที่ รมว.อุตสาหกรรม และคณะฯ ลงพื้นที่ ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ ทางเศรษฐกิจที่มีโรงงานอุตสาหกรรมชั้นนำกว่า 100 แห่ง โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยานยนต์ มีการจ้างงานหลายหมื่นอัตรา การป้องกันพื้นที่แห่งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยนิคมฯ ได้นำเสนอแผนความพร้อมในมิติต่างๆ ที่ถูกพัฒนาและซักซ้อมอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย