“บิ๊กดุล” แจงทหารกินมาม่า-ปลากระป๋อง ในแนวหน้าถือว่าดีแล้ว

30 กันยายน 2568 ที่อาคารรัฐสภา การประชุมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานในที่ประชุม ในวาระพิจารณาการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดย พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงเรื่องปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ว่า ตนนั้นจบการศึกษาและรับราชการอยู่ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งแต่จบ และปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนตลอด จนเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 และขณะเป็นผู้การกรมทหารพราน ได้นำกำลังเข้าปะทะกับกัมพูชาด้วยตัวเอง

ตนทราบดีว่า ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชามีบริบทอย่างไร ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า เปลี่ยนแปลงไปจากสมัยที่ตนเจอมากมาย ปัญหาความมั่นคงชายแดนไทยกัมพูชาในเวลานี้ เกินกว่ากำลังทหารและหน่วยงานด้านความมั่นคงหน่วยเดียว ที่จะแก้ปัญหาได้ตามลำพัง ยังมีอีกหลายมิติที่ต้องมาพูดคุยกันเพื่อแก้ปัญหา

มิติแรกที่อยากบอกและทำความเข้าใจคือ มิติด้านการฑูตหรือการต่างประเทศ ที่เราต้องทำต่อเนื่อง มิติที่ 2 คือข้อมูลข่าวสาร ซึ่งอยู่ในยุคโซเซียลมีเดีย ปัญหาปัจจุบันประเทศที่เป็นคู่ขัดแย้งใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการโฆษณาชวนเชื่อ บ่อนทำลาย บิดเบือนข้อมูลสร้างสถานการณ์ยั่วยุ เก็บหลักฐานต่าง ๆ ไปใช้ในเวทีโลก หากเชื่อและคิดตามที่เขาบอกให้คิดยืนเคียงข้างเขาโดยที่ไม่รู้ตัว นั่นแปลว่ากำลังทำลายชาติของเรา

พลโท อดุลย์ ได้เปิดภาพข้อความของนางสาววาสนา นาน่วม ที่ฝากดูแลทหารไทยรอบภูมะเขือ ฝนตกหลัก รถเสบียงไม่ส่ง พร้อมชี้แจงว่า มาม่าปลากระป๋อง ที่บริเวณชายแดนในสถานการณ์ที่เผชิญหน้ากัน ตนถือว่าดีที่สุดแล้วเพราะเคยผ่านมาเอง
 

"ไม่มีใครที่จะเอาเสบียงไปส่งโดยรถ น้ำวันละขวดก็ถือว่าเยอะแล้ว ความภาคภูมิใจไม่อยู่ที่การกินอาหารดี ๆ  ความภาคภูมิใจมันอยู่ที่ การได้รับใช้ชาติปกป้องอธิปไตยของชาติมากกว่า ไม่มีใครไปเรียกร้องอาหารดี ๆ หรอกในสถานการณ์แบบนั้น" พลโทอดุลย์กล่าว 

พลโท อดุลย์ ยังกล่าวว่า ในมิติเศรษฐกิจปัจจุบันเรากดดันประเทศกัมพูชาด้วยการปิดด่านชายแดน ที่มีบ่อนการพนัน ซึ่งบ่อนเหล่านี้คือที่ตั้งของสแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์ และเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับหน่วยทหารของกัมพูชา ถ้าไม่มีบ่อนเกิดขึ้นอีกไม่นาน เงินซื้อกระสุนไม่มี น้ำมันไม่มี อาหารการกินจะอยู่ลำบาก ซึ่งการปิดบ่อนจะส่งผลกระทบต่อประชาชนบางส่วนที่อยู่ตามแนวชายแดน แต่เรื่องนี้ช่วยกันได้
 

"เรา 70 กว่าล้านคนต้องช่วยกันในลักษณะไทยช่วยไทย ชาวบ้านเดือดร้อนเรื่องสินค้า เราช่วยกันซื้อช่องทางในการจำหน่ายการขายทั้งออนไลน์ ผมได้เคยประสานกับท่านรัฐมนตรีพาณิชย์ไปว่า ช่วยกันได้ไม่ใช่เรื่องยาก ไทยต้องช่วยไทย" พลโท อดุลย์ กล่าว
 

พลโทอดุลย์ ยังกล่าวว่า ปัจจุบันสงครามไม่ใช่แบบเดิม แต่เป็นลูกผสม แบบกำลังทหารและไม่ใช่ทหาร ทำสงครามกันเพื่อเอาชนะโดยไม่ต้องรบ เดินสายบิดเบือนข้อเท็จจริงยั่วยุ ไม่เคยจริงใจในการแก้ปัญหาตามข้อตกลง ทั้งใน RBC GBC ไปเล่นบทเหยื่อในเวทีโลก ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของไทย ได้ไปชี้แจงได้อย่างยอดเยี่ยม
 

"ผมเข้าใจในความอึดอัดของพี่น้องประชาชน มึงทำไมไม่ทำอะไรกันสักที ท่านใจเย็น ๆ ครับ เพราะความอดทนมีขีดจำกัดอยู่แล้ว เราคงไม่ต้องพูดกันในที่นี้ ผมยืนยันว่า การรบกันไม่ใช่เรื่องยาก อาชีพทหารไม่ใช่อาชีพนักธุรกิจ กำไรขาดทุนปีหน้าเริ่มใหม่ แต่ทหารแพ้คืออธิปไตยของชาติ ตาย บาดเจ็บ ลูกเมียอยู่ลำบาก นี่เป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจก็ขอให้ท่านเข้าใจ ผมขอให้ความเชื่อมั่นว่า กองทัพจะไม่ยอมเป็นอันขาดแผ่นดินไทยต้องเป็นของไทยเปลี่ยนแปลงไม่ได้ " พลโทอดุลย์กล่าว
 

สุดท้าย พลโท อดุลย์ ยังกล่าวว่า ตนขอกำลังใจ ฝากไปถึงทหารชายแดน อย่าไปเห็นคลิปแล้วบอกว่า ทำไมไม่ดูแลลูกน้อง จะบั่นทอน ความรู้สึกของผู้บังคับหน่วย พร้อมเปิดภาพขณะตนเองเคยปฏิบัติการ และทิ้งท้ายว่า ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด