
27 กันยายน 2568 เจอเกมรับน้องในสภาฯ เข้าแล้ว สำหรับ “รัฐบาลภูมิใจไทย” รัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่ค้ำด้วยเสียงพรรคสีส้ม พรรคประชาชน ด้วยการเจอ "สภาล่ม" เป็นครั้งแรก ในการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาลงมติวาระแรก ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด เมื่อวันที่ 25 ก.ย.68 ที่ผ่านมา แม้ร่างกฎหมายฉบับนี้ จะไม่ได้มีความสำคัญ หรือกระทบอะไรต่อเสถียรภาพ "รัฐบาลอนุทิน" ก็เป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ดีในสภา เนื่องจากรัฐบาลมีคิวสำคัญ ต้องแถลงนโยบายฯ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ โดยจากการวิเคราะห์สิ่งที่เกิดสามารถบอกได้ว่า
- เหตุการณ์สภาล่มไม่เป็นท่า ในวันแรกที่มีรัฐบาลภูมิใจไทย เป็นสัญญาณร้ายทางการเมือง
- เพื่อไทยเตรียมใช้เกมสภาเล่นงานทั้ง “ฝ่ายรัฐบาล” (ภูมิใจไทยและคณะ) กับ “ฝ่ายค้ำ” (พรรคประชาชน)
- สภาล่มบ่อยๆ ส่งผลต่อเครดิตของรัฐบาล แม้จะเป็น “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” แต่ประชาชนหรือคอการเมืองไม่ได้สนใจรายละเอียด แต่สภาล่ม ส่งผลทางจิตวิทยาว่า การเมืองมีความไม่แน่นอน และรัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ
- ส่งผลดิสเครดิตรัฐบาลภูมิใจไทย และพรรคประชาชน
- เกมล่มสภา มีการฉวยโอกาสใช้เหตุการณ์ถนนทรุดครั้งรุนแรง เชื่อมโยงกระแทกถึงบริษัทรับเหมาของครอบครัวนายกฯ
- เป็นสัญญาณว่า การอภิปรายนโยบายวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ รัฐบาลเจอแรงเสียดทานหนักแน่
**ประเด็นธุรกิจครอบครัวของนายกฯ น่าจะถูกหยิบยกขึ้นมาพาดพิง
**ประเด็นรันเวย์สนามบินที่ขนงพระ ปากช่อง จะถูกหยิบยกขึ้นมาขยี้ โจมตีอีกระลอก
**ประเด็นฮั้ว สว. และที่ดินเขากระโดง มี สส.จองกฐินหลายคน ทั้งพรรคประชาชาติ และเพื่อไทย
**จะมีการเปิดข้อมูลเอกสาร “ข้อกล่าวหา” ที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ส่งถึงแกนนำพรรคภูมิใจไทย
**ตั้งคำถามว่า โดนกล่าวหาแบบนี้ยังมีความสง่างาม หรือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์อยู่หรือไม่
- ประเด็นคุณสมบัติรัฐมนตรีหลายๆ คนจะถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวหา พาดพิง และโยงถึง “คนเสนอตั้ง” คือ นายกฯอนุทิน
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการ สมช. ในฐานะนักวิเคราะห์การเมือง ประเมินว่า รัฐบาลภูมิใจไทยจะเผชิญกับความยากลำบาก ไม่ได้อยู่สบาย 4 เดือนแล้วยุบสภา ปัญหาแรกที่ต้องเจอ คือ โดนอภิปรายเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรี และโยงถึงนายกฯอนุทิน
พล.ท.ภราดร ประเมินต่อว่า กรอบเวลา 4 เดือน คือ กรอบเวลานานที่สุดของรัฐบาลอนุทิน แต่แนวโน้มอาจอยู่ไม่ถึง 4 เดือน และอาจมีการปรับ ครม.ในเร็ววันนี้ รวมถึงมีโอกาสโดนยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย