
ความเคลื่อนไหวของการคุมขัง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เรือนจำกลางคลองเปรมวันนี้เป็นวันที่ 12 ตามคำสั่งบังคับโทษ หลังจากมีรายงานว่า เรือนจำได้ส่งตัวนายทักษิณไปตรวจสุขภาพร่างกายที่ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.เนื่องจากพบว่ามีอาการอ่อนเพลีย รวมถึงมีอาการปวดตามร่างกาย ซึ่งเป็นการตรวจตามอาการของโรคประจำตัวและนำตัวกลับมาเรือนจำไม่ได้นอนค้างคืน
21 กันยายน 2568 ล่าสุดวันนี้ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า วันนี้อาการของนายทักษิณยังคงอ่อนเพลีย และปวดตามร่างกายอยู่บ้าง ตามปกติของผู้สูงอายุ โดยอาการคงที่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และยังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรม
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ที่เรือนจำเปิดทำการ ก็จะมีแพทย์เข้ามาตรวจผู้ต้องขังในเรือนจำตามปกติ ซึ่งนายทักษิณก็มีคิวนัดพบแพทย์ ตรวจสุขภาพและโรคประจำตัวในวันพรุ่งนี้ด้วย
กลุ่มคนเสื้อแดงจากเครือข่ายสตรี 20 จังหวัด จัดกิจกรรม ให้กำลังใจ ‘ทักษิณ’ หน้าเรือนจำ
ช่วงเช้าวันนี้ ที่หน้าเรือนจำกลางคลิงเปรม ริมถนนงามวงศ์วาน นายแพทย์เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยกลุ่มคนเสื้อแดงจากเครือข่ายสตรี 20 จังหวัดภาคอีสานเดินทางมาทำกิจกรรมให้กำลังใจ อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกคุมขังในเรือนจำตามคำสั่งบังคับโทษ โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า ‘ร้อยกำลังใจมอบให้ดร.ทักษิณ ชินวัตร’
โดยนายแพทย์เชิดชัย บอกว่า วันนี้ต้องการให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ต่อสู้ต่อไป เพราะกลุ่มสตรีเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่มคนเสื้อแดงมีหลายกลุ่ม ปัจจุบันนี้ผู้หญิงเก่งกว่าผู้ชาย มีนายกผู้หญิง 2 คนแล้วมีผลงานดีด้วย อยู่ในตระกูลชินวัตร เมื่อถูกกระทำกลุ่มสตรีจึงต้องมาให้กำลังใจ และปัจจุบันนี้มีข่าวไม่ดีเยอะ เช่น เขากระโดง สว.ฮั๊วประมูลด้วย
ทั้งนี้มองว่า นายทักษิณ ยังได้ตัดสินด้วยตัวเองอย่างกล้าหาญไม่ได้กระทำผิด ทำประโยชน์ให้ประเทศมากมายและเศรษฐกิจดีขึ้นทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรค แต่ถูกแกล้งเมื่อกลับมาบ้าน ทั้งที่ได้รับอภัยโทษจาก 8 ปีเหลือ 1 ปี แล้วถูกกลั่นแกล้งว่ายังไม่ถูกจำคุก ตนเองจคงอยากแย้งว่าต้องไปถามหมอผู้เชี่ยวชาญอย่างโรคหัวใจ
พร้อมยอมรับว่า คนเสื้อแดงมีความเป็นห่วงนายทักษิณที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เพราะในอดีตคนที่อยู่ในเรือนจำก็เคยติดเชื้อในกระแสเลือดไม่รู้สาเหตุ และท่านก็อายุเยอะแล้วจึงเป็นห่วง ที่งนี้กระบวนการยุติธรรมดีขึ้นเรื่อยๆเพราะให้โอกาสคนที่อายุเกิน70ปีไปรักษาตัวนอกเรือนจำได้ ให้สิทธิทุกคนแต่กลับไม่ให้สิทธินายทักษิณ แต่พอมาเกิดแบบนี้ อาจจะทำให้ต่างประเทศไม่เชื่อกระบวนการยุติธรรมไทยได้ ดังนั้นเมื่อคนดีถูกรังแกถ้าเราไม่มาให้กำลังใจก็จะดีแต่พูด
ด้านผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน บอกว่า เราต่อสู้มาตั้งแต่ปี 2552 และต่อสู้กันมาจนปี 2554 ที่นายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีมีนโยบายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จึงทำให้สตรีได้มีบทบาท วันนี้เห็นความไม่ถูกต้องที่นายกทักษิณ และครอบครัวถูกกระทำ ในฐานะผู้หญิงด้วยกันจึงให้กำลังใจนายกทักษิณ /คุณหญิงพจมาน /นายกยิ่งลักษณ์ /และนายกแพรทองธาร ให้อดทนเข้มแข็งและสู้ต่อไป พวกเราจะไม่ทิ้งกัน จะเป็นนักรบในสนามเลือกตั้งทุกพื้นที่ทั้งในภาคอีสานและทั่วประเทศ เราจะเอาชนะคืนมาให้กับท่านทักษิณและเพื่อไทย
ทั้งนี้เครือข่ายสตรี 20 จังหวัดภาคอีสานได้เตรียมพวงมาลัยมาด้วย 3พวง เพื่อแสดงิอกเชิงสัญลักษณ์สื่อ ถึงความรัก ความเคารพ ความศรัทธาที่มีความกล้าหาญอดทน นำตัวเข้ามาสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยของประเทศไทย /และน้ำใจสตรีและผู้รักประชาธิปไตยในภาคอีสานเหนือ /รวมถึงเป็นน้ำใจของกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน และผู้รักประชาธิปไตยของอีสานใต้ และในฐานะที่พวกเราเป็นสตรีหัวอกของภรรยาที่ถูกกลั่นแกล้งให้สามีติดคุก เราขอให้กำลังใจคุณหญิงพจมาน ขอให้ทั้งครอบครัวสู้ๆ เราจะเป็นพลังในพื้นที่ต่อไป