svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

อสส.-กรมการกงสุล เซ็น MOU รับปรึกษากฎหมาย คุ้มครองคนไทยต่างแดน

อสส.-กรมการกงสุล ลงนาม MOU รับปรึกษากฎหมาย คุ้มครองคนไทยในต่างแดน “โกศลวัฒน์” อธ.อัยการ สคช. เล็งตั้งอาสาอัยการช่วยได้ ในต่างประเทศ

10 ก.ย.2568 ที่ชั้น 9 สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนเเจ้งวัฒนะ  สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จัดทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่คนไทยในต่างประเทศ ให้คนไทยได้รับการคุ้มครองสิทธิอย่างเป็นธรรมสามารถดำเนินชีวิตอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนไทยแม้อยู่ห่างไกลในต่างแดน ยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองคนไทยในต่างประเทศให้ดียิ่งขึ้น

 

อสส.-กรมการกงสุล เซ็น MOU รับปรึกษากฎหมาย คุ้มครองคนไทยต่างแดน

 

มี นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่คนไทยในต่างประเทศ ระหว่างสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด กับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ 

 

อสส.-กรมการกงสุล เซ็น MOU รับปรึกษากฎหมาย คุ้มครองคนไทยต่างแดน

 

พร้อมด้วยนายณัฐพล ขันธหิรัญ ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน นายมังกร ประทุมแก้ว อธิบดีกรมการกงสุล พร้อมด้วยผู้บริหารของทั้งสองหน่วยงานเข้าร่วมในพิธี

 

อสส.-กรมการกงสุล เซ็น MOU รับปรึกษากฎหมาย คุ้มครองคนไทยต่างแดน

นายไพรัช อัยการสูงสุด กล่าวว่า เมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุด ได้มีโอกาสหารือกับเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในคราวที่เดินทางไปราชการที่สหพันธรัฐมาเลเซีย เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือและเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายแก่คนไทยในสหพันธรัฐมาเลเซีย โดยสำนักงานอัยการสูงสุดมีความมุ่งมั่นในการคุ้มครองและการดูแลสิทธิไม่เพียงเฉพาะแต่ของคนไทยในประเทศ แต่รวมไปถึงคนไทยในต่างประเทศ เพื่อให้คนไทยได้รับการคุ้มครองสิทธิอย่างเป็นธรรมและความช่วยเหลือทางกฎหมาย สามารถดำเนินชีวิตอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพในต่างแดน ตลอดจนเพื่อให้คนไทยกลุ่มดังกล่าว มีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนไทยในต่างแดน

 

อสส.-กรมการกงสุล เซ็น MOU รับปรึกษากฎหมาย คุ้มครองคนไทยต่างแดน

 

ต่อมาเมื่อได้ขึ้นดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด จึงได้จัดตั้งคณะทำงานกำหนดแนวทางการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายและช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศขึ้น เพื่อศึกษาและดำเนินการจัดทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่คนไทยในต่างประเทศ ระหว่างสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและคุ้มครองสิทธิของประชาชน กับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการดูแลผลประโยชน์และให้ความช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทั้งสองหน่วยงานให้การคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่คนไทยในต่างประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมหลากหลายมิติ

ซึ่งการทำงานเชิงรุกและการประสานงานอย่างใกล้ชิดจะช่วยลดอุปสรรคในการเข้าถึงความช่วยเหลือ ตลอดจนเสริมสร้างความเชื่อมั่นในกลไกการคุ้มครองสิทธิของรัฐไทย อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและส่งเสริมศักดิ์ศรีของคนไทยในต่างประเทศ

 

อสส.-กรมการกงสุล เซ็น MOU รับปรึกษากฎหมาย คุ้มครองคนไทยต่างแดน

 

ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน กล่าวถึงรายละเอียดของบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ว่า สำนักงานอัยการสูงสุด และกรมการกงสุล จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ภายใต้กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องของหน่วยงานทั้งสอง ในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและช่วยเหลือทางกฎหมายภายใต้กฎหมายไทยแก่คนไทยในต่างประเทศ หรือคนไทยที่มีนิติสัมพันธ์กับคนต่างประเทศ โดยดำเนินการจัดทำโครงการบรรยายความรู้ด้านกฎหมายร่วมกับกรมการกงสุลในรูปแบบต่างๆ ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันในการส่งต่อเรื่องขอรับความช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองดูแลรักษาผลประโยชน์ และช่วยเหลือคนสัญชาติไทยและนิติบุคคลสัญชาติไทยในต่างประเทศ เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ โดยหาแนวทางร่วมกันในการลดขั้นตอนอันเป็นภาระสำหรับประชาชน

 

ทั้งนี้ นอกจากพนักงานอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน แล้วยังมีพนักงานอัยการของสำนักงานต่างประเทศ สำนักงานคดีแรงงาน และสำนักงานคดีค้ามนุษย์ ร่วมกันเป็นคณะทำงานตามบัญชาของอัยการสูงสุดอีกด้วย

 

ที่ผ่านมาเราร่วมมือกันยู่แล้วอย่างไม่เป็นทางการ พี่น้องคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ  เวลามีปัญหากังวลเรื่องใดก็สามารถที่จะเข้าไปหาสถานกงสุลไทย ไปปรึกษา วันนี้เรามี MOU เเล้วเราจะได้ยกระดับการคุ้มครองสิทธิประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ อัยการ สคช.มี 122 สาขาทั่วประเทศ เราก็จะส่งไปช่วยกันแก้ปัญหาอย่างไร ตัวอย่างเช่น บางทีคนไทยอยู่ต่างประเทศโอนเงินมาต้องการซื้อทรัพย์สินในไทย เเต่เมื่อซื้อแล้วติดขัด หรือซื้อแล้วโดนรอนสิทธิ์ไปปรึกษาทางกงสุลขอให้ช่วย ทางสถานทูตกงสุลก็สามารถจะบอกให้มาหาญาติของคนอยู่ต่างประเทศมาหาเรา อัยการคุ้มครองสิทธิ์ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ สามารถลงไปจังหวัดที่เกิดปัญหาได้ทันที เพื่อเป็นการยกระดับการช่วยเหลือประชาชนทั้งในประเทศไทยเเละต่างประเทศ

 

อสส.-กรมการกงสุล เซ็น MOU รับปรึกษากฎหมาย คุ้มครองคนไทยต่างแดน

 

นโยบายของอัยการสูงสุดได้ให้ไว้ว่าให้คุ้มครองสิทธิ์คนไทยไปทั่วโลก วันนี้เรามีอาสาสมัครอัยการช่วยได้ทุกตําบล ตําบลละ 2 คนแล้วทั่วประเทศ ต่อไปเราก็จะมีอาสาสมัครอัยการช่วยได้ในต่างประเทศที่จะขยายเครือข่ายไปทั่วโลก ที่กรมการกงสุลได้มาเซ็นบันทึกความร่วมมือกับเราในวันนี้ เพื่อยกระดับการช่วยเหลือประชาชน และเราก็จะสามารถทํางานกันให้ใกล้ชิดขึ้นยิ่งขึ้น ประสานข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และให้ความรู้ประชาชน ขอฝากประชาชนที่อยู่ต่างประเทศ เดือดร้อนอะไรในต่างประเทศมีสายด่วน  ไม่ว่าจะถูกล้วงกระเป๋าหมดตัว สามารถนั่งแท็กซี่ไปที่สถานกงสุล เจ้าหน้าที่ของรัฐสถานกงสุลเขาจะหาทางช่วยเหลือได้ครับ

 

ตอนนี้เราทําห้องประชุมออนไลน์ ซึ่งต่อไปเราจะช่วยรัฐประหยัดงบประมาณด้วย เช่น สถานทูตไทย สถานกงสุลทั่วโลก มีประชาชนมาปรึกษากฎหมาย หรือกฎหมายไทย เช่นปัญหาเช่นว่า มีลูกเป็นผู้ชายเเละติดตามแม่ไปอยู่ต่างประเทศ พออายุครบ 20 ต้องเกณฑ์ทหารหรือไม่ หรือแม่ที่ไปอยู่ต่างประเทศไปแต่งงานกับคนต่างชาติแล้วจะรับโอนทรัพย์สมบัติกลับมาได้หรือไม่ หากเข้าไปพบ ทางกงสุลจะติดต่อเข้ามาหาเราอัยการ สคช.แล้วเปิดจอออนไลน์คุยกันได้โดยตรงเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาให้ถูกต้อง ทั้งกฎหมายไทยและกฎหมายปลายทาง

 

นายมังกร ประทุมแก้ว อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวว่า ในแง่ที่จะให้ความช่วยเหลือกับคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ที่มีความประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือ หรือสนับสนุนหรือคุ้มครองทางกฎหมายโดยที่ว่าการกงสุล มีเครือข่ายของสถานทูตสถานกงสุลอยู่ทั่วโลก กว่า 90 กว่าแห่ง ก็จะเป็นช่องทางที่พี่น้องประชาชนในต่างประเทศก็จะสามารถขอรับความช่วยเหลือและขอรับคําปรึกษาได้ แต่บางครั้งเราก็มีข้อจํากัดเกี่ยวกับ การให้คําปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายต่างๆโดยเฉพาะกฎหมายในประเทศไทย การที่เรามีความร่วมมือกับทางสํานักงานอัยการสูงสุด ก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะขยายการให้บริการแก่พี่น้องประชาชนในต่างประเทศให้เข้าถึงความช่วยเหลือด้านกฎหมายโดยตรงกับทางสํานักงานอัยการสูงสุดได้

 

นายณัฐพล ขันธหิรัญ ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโลกยุคปัจจุบันที่คนไทยจำนวนมากเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งเพื่อการทำงาน ท่องเที่ยว ศึกษาเล่าเรียน หรือด้วยเหตุผลอื่นใดก็ตาม การดูแลและคุ้มครองสิทธิของคนไทยในต่างแดนให้ได้รับความเป็นธรรมตามหลักกฎหมายถือเป็นภารกิจที่สำคัญยิ่ง ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดและกระทรวงการต่างประเทศ ในการบูรณาการความร่วมมือเพื่อให้การช่วยเหลือทางกฎหมายแก่คนไทยในต่างประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และสอดคล้องกับหลักนิติธรรม เพื่อให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้รับความคุ้มครองตามสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก โดยกรมการกงสุล พร้อมที่จะประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลงนี้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะนำไปสู่ผลประโยชน์ของประชาชนไทยโดยรวม

 

และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินงานร่วมกันในหลายมิติที่จะตามมาในอนาคต และสามารถยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองคนไทยในต่างประเทศให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง