
8 กันยายน 2568 นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลที่มีความสนิทและได้พบปะพูดคุยกับอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร บ่อยครั้ง ให้สัมภาษณ์ยืนยันในรายการ “เนชั่นวิเคราะห์ข่าว เนชั่นทีวี” เช้าวันนี้ว่า อดีตนายกฯทักษิณ จะเดินทางกลับไทยแน่นอนในช่วงบ่ายวันที่ 8 ก.ย. 2568
“อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เจอกันแล้ว” นายจักรภพ บอก และว่า ได้คุยกันในหมู่คนใกล้ชิด แต่ไม่ได้ถามกันทุกเม็ด หรือถามในรายละเอียด โดยเฉพาะสาเหตุที่ต้องเดินทางออกนอกประเทศในช่วงเวลาเช่นนี้ ฉะนั้นเมื่อได้พบกัน ก็น่าจะได้สอบถามกัน
เมื่อถามย้ำว่า มองว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้อดีตนายกฯต้องเดินทางออกนอกประเทศ นายจักรภพ ตอบว่า ไม่ได้คุยกับอดีตนายกฯทักษิณโดยตรง แต่คุยกับคนใกล้ชิดท่าน ทราบว่าเป็นการไปเพื่อ “ทดสอบ” และก็ได้รับคำตอบแล้วว่า สถานการณ์การเมืองไม่ปกติ มีความพยายามเล่นงานทางการเมืองเพื่อให้พังไปข้างหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรในทางการเมืองของไทย และไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะแพแตก เพราะนั่นเป็นความรู้สึกของคนจิตอ่อน ส่วนคนที่ผ่านประสบการณ์การเมืองมายาวนาน มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา
เพียงแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมา เป็นเพราะมีคนที่พยายามทำให้เหตุการณ์เดินไปในทางลบ ในทางร้าย อยู่ในระบบการเมืองไทย มีคนคิดแบบเก่า และใช้ประโยชน์แบบสามก๊กอยู่
เมื่อถามว่า มีมือที่มองไม่เห็นลงมาเล่นชัดเจนมากขึ้นใช่หรือไม่ นายจักรภพ ตอบว่า “เป็นมือที่มองไม่เห็น แต่เรามองเห็น” จึงต่างจากคราวอื่นๆ ที่ผ่านมา ซึ่งยังมีความแนบเนียนและความละอายต่อบาปอยู่บ้าง แต่คราวนี้แตกต่างออกไป และรู้สึกว่าเยอะไปนิดหนึ่ง
เมื่อถามคำถามสำคัญว่า สรุปแล้วอดีตนายกฯทักษิณ พร้อมเข้าสู่กระบวนการรับฟังคำตัดสินศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีชั้น 14 ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นบวกหรือลบกับท่านใช่หรือไม่ นายจักรภพ ตอบว่า ได้คุยกันก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ 2-3 วันนี้ นายทักษิณ เปิดใจว่า “ติดคุกก็เอา” และว่า “บ้านเมืองไปถึงขั้นนั้นแล้ว”
เมื่อซักว่า ทำไมถึงยอมขนาดนั้น นายจักรภพ บอกว่า “ตัดสินใจด้วยหัวใจ”
เมื่อถามอีกว่า แปลว่าดีลลับไม่มีจริงใช่หรือไม่ นายจักรภพ ตอบว่า ไม่มีดีลแบบที่เป็นข่าว เพราะการจะทำดีลได้ สองฝ่ายต้องเท่ากัน ถ้าไม่เท่ากัน ชาติหน้าก็ไม่มีดีล ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามของฝ่ายที่ไม่ชอบอดีตนายกฯทักษิณ และอยากจะให้พังกันไปข้างหนึ่ง ขณะที่ฝ่ายของอดีตนายกฯก็ชอบแหย่ ชอบยั่วด้วย จึงทำให้ปัญหาบานปลาย