"ทักษิณ" ส่อปักหลัก "ดูไบ" 9 ก.ย.ไม่เป็นใจ-เสี่ยงคุก!

7 กันยายน 2568 ทันทีที่ตรวจสอบชื่อผู้ร่วมไฟลต์บิน เครื่องบินเจ็ทหรู มุ่งหน้าสู่ดูไบ ของอดีตนายกฯทักษิณแล้ว ปรากฏว่าหนึ่งในนั้น คือ แม่ครัว หรือ “กุ๊กมือดี” ที่ทำอาหารอร่อย คุณทักษิณติดใจในรสมือ เดินทางตามไปด้วย 

 

ทำให้คาดเดาได้ไม่ยากว่า งานนี้ไปแบบ “วันเวย์ไฟลต์” คือ “อยู่ยาว” 

แผนเบื้องต้นของอดีตนายกฯ คือ รอฟังคำสั่งศาลฎีกานักการเมือง วันที่ 9 กันยายน / ถ้ารอดคุก ไม่ต้องกลับไปรับโทษในเรือนจำอีก เพราะองค์​คณะไต่สวนเชื่อว่ารับโทษแล้ว / ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น มาจากข้าราชการ / ถ้าเป็นแบบนั้น ก็จะเตรียมเดินทางกลับไทย / และคิดอีกทีว่าจะเดินหน้าการเมืองต่อไปอย่างไรหรือไม่ 

 

 

แต่ตามนิสัยของคุณทักษิณ ที่ไม่ยอมแพ้ และ “แพ้ไม่เป็น” ก็น่าเชื่อว่า จะกลับมาแก้แค้นภูมิใจไทยแน่นอน คือทำงานการเมืองต่อแน่ๆ 

 

แต่ว่าถ้าผลของวันที่ 9 กันยายน ออกมาอีกแบบหนึ่ง คือ ต้องกลับไปเข้าคุก / ก็เชื่อว่าจะอยู่ต่างประเทศยาว และกลับมายาก หรือกลับมาไม่ได้อีกเลย เนื่องจากจะมีความผิดตามมาอีกเป็นหางว่าว / เพราะต้องไม่ลืมว่าตัวเองได้ขอพระราชทานอภัยโทษ และได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ ไปแล้วด้วย 

ส่วนการหาทางผ่องถ่าย เช่น กลับมารับโทษระยะสั้นๆ แล้วขอใช้ระเบียบ “นอนนอกคุก” เรื่องนี้อาจจะไม่ง่าย เพราะรัฐบาลเปลี่ยนโฉมหน้าเป็น ภูมิใจไทย เรียบร้อยแล้ว 

 

มีรายงานจากสายกระบวนการยุติธรรมว่า แนวโน้มคำสั่งของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยังเหมือนเดิม คือ มีโอกาสสูงที่ให้คุณทักษิณกลับไปรับโทษในเรือนจำ เพราะเชื่อว่า หมายจำคุก หรือคำพิพากษาของศาล ยังไม่ได้ถูกปฏิบัติตามโดยชอบด้วยกฎหมาย 

องค์คณะไต่สวนของศาลฎีกานักการเมือง น่าจะชี้ประเด็นว่า คำสั่งนี้ไม่ใช่การขยายอำนาจของฝ่ายตุลาการ ไปล่วงล้ำอำนาจ “การบริหารโทษ” ของฝ่ายบริหาร คือ กรมราชทัณฑ์ / แต่ปัญหาข้อเท็จจริงอยู่ตรงที่ว่า หมายจำคุกของศาล ยังไม่ได้รับการปฏิบัติ คือไม่มีการขังคุกจริง จึงต้องบังคับโทษตามคำพิพากษาให้เรียบร้อยก่อน 

 

 

 

 

เอกสารข้อกฎหมายที่ส่งให้ และเน้นมาตรา 40  

 

ส่วนการอ่านคำสั่ง ที่ศาลนัดวันที่ 9 กันยายนนั้น / หากอดีตนายกฯทักษิณไม่มาฟัง / ศาลก็จะอ่านคำสั่งลับหลังได้เลย / ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฯ มาตรา 40 วรรค 2 ที่ว่า...

 

“ในกรณีที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่ง แต่จำเลยที่ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาฟังคำพิพากษาหรือคำสั่ง ให้ศาลอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งลับหลังจำเลยได้ และให้ถือว่าจำเลยได้ฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นแล้ว” 

 

มีการคาดการณ์ในหมู่คนการเมือง และนักกฎหมายว่า วันที่ 9 กันยายน / ฝ่ายคุณทักษิณอาจจะไม่ยื่นเลื่อนนัดฟังคำสั่งของศาล / เพราะต้องการทราบผลของการไต่สวนโดยเร็วที่สุด เนื่องจากตัวไม่อยู่ในไทย / หากผลของการไต่สวนออกมาเป็นลบ ก็จะไม่กระทบ ถูกจับเข้าเรือนจำ / แต่หากผลของการไต่สวนออกมาเป็นบวก จึงจะเดินทางกลับไทย