ขั้นตอน-หลักเกณฑ์ การประชุมสภาโหวตเลือกนายกฯคนที่ 32

พลันที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ  ทำให้ สภาผู้แทนราษฎร ต้องมีการนัดประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี  โดยล่าสุด นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกหนังสือนัดประชุมเพื่อโหวตเลือกนายกฯคนที่ 32 ในวันที่ 5 กันยายน 2568

 

ทั้งนี้พรรคการเมืองเสนอชื่อแคนดิเดต นายกฯ ตามบัญชีที่แจ้งต่อ กกต.ในการเลือกตั้งปี 2566

 

พรรคการเมืองที่เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ในตอนนี้ คือ

 

1.เพื่อไทย –ชัยเกษม นิติสิริ 

 

2.พรรคภูมิใจไทย –อนุทิน ชาญวีรกูล 

 

 

3-4. พรรครวมไทยสร้างชาติ  -พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา , พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

 

5.พรรคประชาธิปัตย์  -จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์

 

ขั้นตอน-หลักเกณฑ์การโหวตเลือกนายกฯคนที่ 32

 

1.การโหวต สร.1 ครั้งนี้ ดำเนินการด้วยกระบวนการลงมติของสภาผู้เเทนราษฎร

 

2.สส.รับรองรายชื่อบุคคลผู้สมควรเป็น สร.1 จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ (50 คนขึ้นไป )

 

3.สส.ลงคะแนนโดยเปิดเผย เป็นรายบุคคล

 

4.ผู้ได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ (247 เสียงขึ้นไป ) ได้รับเลือกให้เป็นนายกฯ

 

5.เมื่อได้ผู้ที่ได้รับความเห็นชอบแล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎร (วันมูหะมัดนอร์ มะทา) จะเป็นผู้นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป

อนึ่ง ประธานสภาฯ จะนัดประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีจนกว่าจะมีผู้ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาในการเลือกนายกรัฐมนตรี ไว้

 

แคนดิเดตที่ถูกเสนอชื่อและไม่ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถเสนอชื่อซ้ำในสมัยประชุมเดียวกันได้อีก (อ้างอิง กรณีการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยมีการเสนอชื่อสองครั้ง เเละในครั้งที่ 2 ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา (สส.-สว.) ระบุเมื่อวันที่ 19 ก.ค.2566 ว่าเสนอชื่อเพื่อลงมติซ้ำไม่ได้ )

 

ปัจจุบัน สส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่คือ 492 คน (กึ่งหนึ่ง 246 คน)  ฝ่ายรัฐบาล 253 คน  ฝ่ายค้าน 239 คน