"ชูศักดิ์" รับ "เพื่อไทย" คุยทางออกควรต้อง "ยุบสภาฯ" ย้ำ รอ "ภูมิธรรม" ตัดสินใจ

3 กันยายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี มีอำนาจเต็มในการตัดสินใจยุบสภา หลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี

 

 

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 

 

 

 

สถานการณ์ปัจจุบันแตกต่างจากช่วงที่ น.ส.แพทองธารยังเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนั้นถูกมองว่าไม่มีอำนาจยุบสภา เพราะถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่ในตอนนี้ อำนาจทั้งหมดอยู่ที่นายภูมิธรรมในฐานะผู้รักษาการ ซึ่งมีสถานะเทียบเท่านายกรัฐมนตรีเต็มตัว

 

ข้อกังวลที่ว่าการยุบสภาจะก้าวล่วงพระราชอำนาจหรือไม่ 

นายชูศักดิ์ ระบุว่า การยุบสภาเป็นพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ตามกฎหมาย การยุบสภาจะต้องตราขึ้นเป็นพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ซึ่งต้องมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอเหตุผลความจำเป็นต่อพระองค์ และรับสนองพระบรมราชโองการ โดยกระบวนการนี้ถือว่าไม่ใช่การก้าวล่วงพระราชอำนาจแต่อย่างใด อยู่ดีๆ กฤษฎีกาจะลอยขึ้นไปเองไม่ได้ ต้องมีคนนำเสนอ และคนนั้นคือผู้ที่เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องชี้แจงเหตุผลว่าทำไมถึงสมควรยุบสภา จากนั้นก็ขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัย

 

 

เมื่อค่ำของวันที่ 2 ก.ย. แกนนำพรรคเพื่อไทยได้จัดการประชุมภายในเพื่อหารือถึงสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะประเด็นการยุบสภาและการเลือกนายกฯ คนใหม่ 

 

นายชูศักดิ์ ระบุว่า การหารือครั้งนี้เน้นการใช้เหตุผลและความเหมาะสมในการตัดสินใจ แต่ยังไม่มีการกำหนดมติพรรคอย่างเป็นทางการ ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยมองว่าการยุบสภาเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ แต่ต้องพิจารณาความเหมาะสมจากผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน

 

 

โดยเฉพาะกระบวนการเลือกนายกฯ  ซึ่งอาจเผชิญปัญหาความไม่สง่างาม หากมีการเลือกนายกฯ เพียงเพื่อให้ดำรงตำแหน่งชั่วคราวและยุบสภาภายใน 4 เดือน ตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำเช่นนี้ อาจส่งผลกระทบต่อประเทศชาติในทางลบ และอาจถูกมองว่าเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์

ปัญหาคือถ้าเราเลือกนายกฯ ไปแล้ว แต่เขาไม่ได้ทำงาน ไปถึง 4 เดือนก็ยุบสภา มันจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงหรือไม่ กระบวนการเลือกนายกฯ ควรมีความสง่างาม

แม้พรรคเพื่อไทยจะเห็นถึงความเป็นไปได้ในการยุบสภา แต่การตัดสินใจสุดท้ายขึ้นอยู่กับนายภูมิธรรมในฐานะผู้รักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องประเมินสถานการณ์และความเหมาะสมอย่างรอบคอบ