
2 กันยายน 2568 ควันหลงหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 7/2568 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2568 (วาระที่ถูกเลื่อน) ที่ใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมง ในการจัดทำบัญชีรายชื่อ ซึ่งมีตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้เกือบ 250 นาย เเละมติที่ประชุมไฟเขียวบัญชีงวดนี้ ที่ผ่านการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ มาเเล้วชั้นหนึ่ง
โดยมีการเปลี่ยนในบางเก้าอี้เช่น พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด. ได้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
เเปลว่า ผบ.ตร.เเละคณะพิจารณารอบคอบเเละรับฟังทุกฝ่าย จนทุกอย่างราบรื่น สิ่งใดที่ปรับได้ก็ดำเนินการ สิ่งใดที่ถูกต้องเเล้วตา
กติกา(อาวุโส+ความรู้ความสามารถ) เเม้จะมีการร้องเรียนขอความเป็นธรรม เเต่ ผบ.ตร.ยึดมั่นในกติกาจนทุกอย่างฉลุย เเละได้ส่งบัญชีนี้ไปให้ประธานก.ตร.เเล้วตามขั้นตอนเเละ ผบ.ตร.ยังเปิดพิ้นที่ให้ผู้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมไปยังกพค.ตร.ภายในสามสิบวัน
หากย้อนเวลาไปหลายวันก่อนพบว่า “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานก.ตร.ได้ถกลับกับพลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร “ผบ.ตร.”ไปเเล้วเมิ่อวันที่ 28 สิงหาคมโดย"บิ๊กอ้วน" บอกว่า มีการร้องเรียนสี่กรณีว่า ไม่เป็นธรรม เเละเลื่อนประชุมวาระนี้เเละนัดใหม่ในวันที่ 31 สิงหาคม
โดยหัวหอกคือ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานเเก้ว รองผบช.ก. ซึ่งงวดนี้ยังนั่งตำเเหน่งเดิม เเละบิ๊กเต่าบอกสื่อมวลชนไปเเล้วล่าสุดว่าติดใจ 2-3ตำเเหน่ง เเต่จะยุติร้องเรียน เดินหน้าทำงาน เเต่จะหารือกมธ.ตำรวจ สภาผู้เเทนฯ เเละ กพค.ตร.เพื่อวางมาตรการพิจารณาสีกากีที่มีผลงานในการขยับตำเเหน่งในคราวต่อไป
เเปลว่าบิ๊กเต่ายอมหมอบไปก่อน เเต่การหมอบนี้คนในวงการ ตร.รู้กันดีว่าเส้นทางของบิ๊กเต่านั้นฟาสต์เเทรคในการเลื่อนลำดับเพียงใดเเละอาวุโส
งวดนี้อยู่ลำดับใด รวมทั้งการเสนอควรนำผลงานมาพิจารณาด้วย
อย่าลืมว่าคณะกรรมการพิจารณาของ ตร.ก็ยึดกติกาจนเสนอวาะนี้สู่ที่ประชุม ก.ตร.ได้ หากมีอะไรผิดปกติ รับรองโดนท้วงติงเเละโดนฟ้องร้องได้เเน่
หากสภาวะย่านปทุมวันเป็นเเบบนี้ "บิ๊กอ้วน"คงหมดสิทธิค้านบัญชี ตร.งวดนี้ เพราะวันที่ 31 ส.ค.นั้น "บิ๊กอ้วน"ลาประชุม ก.ตร.ไปเจรจาตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาชน เเละโอกาสของพรรคเพื่อไทยที่จะทำงานต่อไปนั้นคล้ายบีบรัดลงท่ามกลางกระเเสข่าวยุบสภาที่คนในค่ายสีเเดงปูดขึ้นเองดังขึ้นทุกวินาทีในช่วงนี้ ว่าจะเกิดขึ้นเเล้ว..
ปรากกฏการณ์ย่านปทุมวันงวดนี้พบควันหลงในช่วงก่อนเเละหลังประชุม ก.ตร.นัดดังกล่าวว่า ฝ่ายการเมืองพร้อมดันนายพลสีกากีบางรายที่ช่วยเหลือใครบางคนที่กุมสภาพ ครม.ชุดนี้อยู่เบื้องหลัง (สองนายพลตำรวจในคดึชั้น14รพ.ตำรวจ)ให้ขยับขึ้นเเละขอเเก้บางรายชื่อเพิ่อผลทางการเมืองวันข้างหน้า(จัดทัพตร.เตรียมเลือกตั้ง สส.)
เเต่ ผบ.ตร.ไม่ขยับให้ตามความต้องการของฝ่ายการเมืองจนมีข่าวลือว่า"บิ๊กอ้วน" จ่อเด้งบิ๊กต่ายปรากฏเมื่อหลายวันก่อนเเต่สุดท้ายเหตุนี้ก็ไม่บังเกิด...
เเหล่งข่าวคนหนึ่งจากที่ประชุม ก.ตร.เเจ้งว่า การประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมาใช้เวลากว่าเจ็ดชั่วโมง โดยทุกอย่างใช้เหตุผลในการโต้เถียงเเต่ยุติด้วยดี เเม้มีบิ๊กสีกากีระดับ รอง ผบ.ตร. บางนายจะเสนอว่าให้พิจารณาสองตำแหน่ง (ชั้น14 รพ.ตำรวจ)ให้ขึ้นตำแหน่งเเละอ้างว่าการไต่สวน/กระบวนการยุติธรรมยังไม่ได้ชี้ว่าผิด ควรให้ขยับตำเเหน่งก่อน....
มีเสียงลือกันว่า การขยับของรอง ผบ.ตร.รายนั้นทราบทางลับว่าบิ๊กสีกากีคนนี้ขยับตามความต้องการของผู้มีอำนาจทางการเมืองเเละอาจมีอะไรคาดหวัง...เพราะหลายวันก่อนนั้นข่าวเด้งบิ๊กต่ายสนั่นย่านปทุมวัน สมมติว่า หากดีลนี้ขยับได้จริง ย่านปทุมวันอาจเปลี่ยนเเปลงได้หลากวาระโดยเฉพาะเก้าอี้เบอร์ 1 สีกากี!?!
เเหล่งข่าวจาก.ตร.บอกอีกว่า รอง ผบ.ตร.รายนั้น ยกเหตุผลต่างๆนานา จนเกือบทำให้การประชุมล่ม แต่เมื่อผบ.ตร.ให้โอกาสชี้เเจงพอสมควรและเชิญให้ออกนอกห้องการประชุมเพราะรอง ผบ.ตร.รายนั้นนับเป็นผู้มีส่วนได้เสีย การประชุมดำเนินการต่อไปได้ด้วยดีและเป็นการแต่งตั้งด้วยความชอบธรรมโปร่งใสตรวจสอบได้เพราะผ่านคณะกรรมการพิจารณา ของ ตร.เเล้วเเละบางตำเเหน่งที่มีการท้วงติงจากที่ประชุมก.ตร. ครั้งนี้ ผบ.ตร.ก็ดำเนินการตามมติก.ตร. จนทุกอย่างราบรื่น
ดังนั้น ผบ.ตร.ขยับอย่างถูกจังหวะเเละกติกาเเม้ไม่ถูกใจฝ่ายการเมืองก็ตาม ...เเละน่าจะเป็นบทเรียนฝ่ายการเมืองด้วยว่า หากล้วงลูกเเต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเเบบไม่ยึดกติกา วันข้างหน้าอาจไม่มีที่ยืนในสังคม....