"ผู้ว่าฯสระเเก้ว" ยืนยันจะนำ "บ้านหนองจาน" ที่ถูกกัมพูชาบุกรุก กลับมาให้หมด

25 สิงหาคม 2568 ที่ จ.สระแก้ว นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา สำนักป่าไม้ สำนักที่ดิน อัยการจังกวัด ร่วมกันชี้เเจงข้อเท็จจริงกับชาวบ้าน

กรณีที่ชาวกัมพูชา รุกล้ำที่ดินบ้านหนองจาน ในราชอาณาจักรไทย มานานกว่า 40 ปี รวมถึงกรณีที่ชาวบ้าน 52 ราย เรียกร้องสิทธิที่ดินทำกิน โดยปัญหา บ้านหนองจาน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมากว่า 30-40 ปี

 

 

ทาง พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา (ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ได้อธิบาย ถึงพื้นที่ดิน เเบ่วเป็น 3 โซน พื้นที่ หมายเลข 2 เป็นพื้นที่ป่าไม้ ส่วนพื้นที่หมายเลข 3 ชาวบ้านที่มีอกสารสิทธิ์ สค.1 สค.2 เป็นพื้นที่  

 

 

 

 

 

 

ด้าน นายปริญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าฯสระเเก้ว บอกว่า การเชิญชาวบ้านมาวันนี้ เพื่อชี้แจ้งว่า ไประชาชนชาวบ้าน ถือเอกสารอะไรเอาไว้ ภบท.5 ไม่ใช่เอกสารสิทธิ์ ที่จะนำไปสู่การออกโฉนด 

 

สค.1 จะต้องมีการตรวจสอบว่า พิสูจร์สิทธิ์ และการทำประโยชน์ ที่ดินอย่างไร เจ้าของที่ดินข้างเคียงรับรองแนวเขตต้องไม่เป็นที่ภูเขา ที่ป่าสงวน ที่ดินที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน เสร็จแล้ววตะมีการแปรรภาพถ่ายทางอากาศ การทำประโยขน์ ที่ดอน

หลังตากนั้นจะมีการเสนอ ออกโฉนดให้ชาวบ้าน ส่วนคนที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ต้องไปพิสูจน์ทางศาล เข้าหลักเขตได้แล้วก็จะเข้าไปวัด ส่วนเขตอื่น ทำหนังสือถึงกรมที่ดินไม่ต้องรังวัด 

 

นายปริญญา ยืนยันว่า กรณีที่มีการเข้าใจคาดเคลื่อน วันที่ตอบตอบเฉพาะ หมายเลข2 ว่าไม่มีใคร มีเอกสารสิทธิ์ เป็นที่ป่า ยืนยันว่า เป็นพื้นที่ป่า วันนั้นก็ตอบว่าเป็นพื้นที่ป่า

 

ส่วนกรณีที่อยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ วันนี้ยืนยันว่า ประชาชนเข้ามาทำกินได้ จากชายแดนเข้ามาถึงถนนศรีเพ็ญพื้นที่ทุ่นระเบิด สมัยเขมรแดงยังไม่ได้มีการเก็บกู้ ประเด็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ 

สำหรับพื้นที่ สามเหลี่ยมมี 2484 เป็นพื้นที่ป่าไม้ ยืนยันว่าตรงนี้ คือประเทศไทย ทุกตารางนิ้ว สำนักป่าไม้ หมายเลข2 เป็นพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิตามกฏกมายที่ดิน เป็นพื้นที่ป่าไม้ 2484 จะมีการประสานป่าไม้ ดำเนินการยึดคืนต่อไป

นายยุทธพัทธ เพ็ชรประเสริฐ ชาวตาพระยา เปิดเผยว่า ในอดีตหมู่บ้าน อยุ่ห่างจากสันปันน้ำ เพียง 250 เมตร เขมรเเดง บุกเข่นฆ่าพี่น้องเสียชีวิต จากเขมรเเดง 20 กว่าคนห่างจากขตเเดน กิโลเมตร ปี 2536 สงครามเขม ประเทศไทยผลักดันกัมพูชา ทำให้เราทำมาหากินไม่ได้ หลังปี 2553 ทางราชการ ครม. ประกาศ ยื่นเเบบ สคม.1 กว่า 300 ราย ปี2553 จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับโฉนดที่ดิน  

 

ขณะเดียวกันวันนี้ นายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้เดินทางมาด้วย เปิดเผยว่า ตั้งเเต่เขมรเข้ามาอยู่ ทำไมป่าไม้ปล่อยให้เขมรอยู่ไม่ดำเนินคดีกับชาวเขมร จนบัดนี้ทหารกองทัพภาคที่1 ยังไม่คืนสิทธิ์ให้ป่าไม้ที่อ้างว่าเช่าอยู่ มันมีเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเว้นมานาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เสียเเผ่นดินเขมรไปเป็นเวลา 40-50 ปี ที่ผ่านมาสร้างความเดือดร้อนให้คนไทยทั้งประเทศก็เพราะเจ้าหน้าที่รัฐไทย

 

ขณะที่ อัยการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นหากเป็นป่าคืนเข้ามาเเผ้วถางจะมีความผิดแต่จะมีบางส่วนที่จะมีเอกสาร สค. นส. เเต่ จะมาดูว่าเป็นเอกสารที่ จะมีการตั้งต้น นำไปออกเอกสารได้อย่างไร แต่จะมีการดำเนินคดีกับคนที่บุกรุก ทั้งขาวกัมพูชา สามารถดำเนินคดีดกับคนรุกป่าได้ เช่นเดียวกับคนไทยที่จะถูกดำเนินคดี เว้นแต่มีเอกสาร 

 

 

 

 

 

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ด้านเพจเฟซบุ๊ก กองทัพบก Royal Thai Army ได้ระบุว่า

 

ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจานอยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง

 

จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 โดยบริเวณดังกล่าวมีประเด็นปัญหา แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 

 

1. เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ ที่ฝ่ายไทยและกัมพูชาไม่สามารถตกลงที่ตั้งหลักเขตแดนได้ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าตำแหน่งหลักเขตที่ปรากฏในปัจจุบัน มีการเคลื่อนย้ายเข้าไปในฝั่งประเทศของตน จึงต้องรออาศัยกลไกทวิภาคี อาทิ JBC มาแก้ไขปัญหาในระยะยาว

2. พื้นที่ดังกล่าว ในอดีตเมื่อครั้งเกิดสงครามการสู้รบภายในกัมพูชาในปี พ.ศ.2520 รัฐบาลไทยในขณะนั้นได้ให้ราษฎรกัมพูชาอพยพลี้ภัยเข้ามาอยู่ในเขตประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อแสดงถึงความมีน้ำใจและเห็นแก่หลักมนุษยชน แต่เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ พบว่ามีราษฎรกัมพูชาบางส่วนไม่ยอมเดินทางกลับประเทศ ยังคงพักอาศัยในพื้นที่ของประเทศไทย

3. การติดตั้งแนวรั้วลวดหนามในบริเวณพื้นที่ต่างๆ ยังไม่ใช่การวางเพื่อระบุแนวเส้นเขตแดน  เป็นเพียงการวางแนวเครื่องกีดขวางในการรักษาความปลอดภัยให้กำลังพล  โดยเฉพาะป้องกันการลักลอบเข้ามาใช้อาวุธทุ่นระเบิดเพื่อทำร้ายฝ่ายไทย  และเป็นลักษณะเสริมความมั่นคง ต่อที่วางกำลังของหน่วยทหารเท่านั้น 

 

 

นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย  ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด

โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า การกระทำดังกล่าวเหมือนมีการวางแผนมาอย่างเป็นระบบ และคอยเฝ้าดูว่า หากฝ่ายไทยดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดไป ก็จะนำเรื่องดังกล่าวไปบิดเบือนทำลายความน่าเชื่อถือประเทศไทย เพื่อขอความเห็นใจสังคมโลกอย่างที่เป็นภาพให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน

จึงอยากให้ช่วยกันสื่อสารต่อประชาคมโลก ให้เข้าใจในข้อเท็จจริงว่า การช่วยเหลือทางมนุษยธรรมของไทย รวมถึงการแสดงออกถึงความมีน้ำใจที่ดีต่อเพื่อนบ้านในอดีต ไม่ควรถูกฝ่ายกัมพูชานำไปบิดเบือน เพื่อให้เป็นผลกลับมาใช้ทำลายความน่าเชื่อถือฝ่ายไทยอย่างไม่เป็นธรรม

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก โดยทีมโฆษกกองทัพบก, 18 สิงหาคม 2568

 

 

ภาพและข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก กองทัพบก Royal Thai Army

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ประวัติ "ปริญญา โพธิสัตย์" ผู้ว่าฯสระแก้ว