
"แพทองธาร ชินวัตร" คือทายาทของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 ที่ลงสนามการเมืองเเละก้าวรับตำเเหน่ง สร.1 คนที่ 31 โดยครอบครัวชินวัตรมีบุคคลรับหน้าที่นายกรัฐมนตรีสี่คน (ทักษิณ , สมชาย วงศ์สวัสดิ์ สร.1คนที่26 , ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สร.1 คนที่28) เเละมีคนนอกสาเเหรกสองคนที่ก้าวเป็น สร.1 ได้คือสมัคร สุนทรเวช สร.1 คนที่ 25 เเละเศรษฐา ทวีสิน สร.1 คนที่ 30
พรรคเพื่อไทยสืบทอดชื่อพรรคเเละอุดมการณ์จากพรรคไทยรักไทยเเละพลังประชาชน โดยอาศัย "สีเเดงเเละความเป็นคนเสื้อเเดง" เป็นจุดขายในการเข้าสู่ถนนเเห่งอำนาจ
คุณแพทองธาร เคยบอกว่าเธอคือหนึ่งในคนเสื้อเเดง เเละเมื่อลงถนนการเมืองครั้งเเรกอย่างเป็นทางการ เธอได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 31ตุลาคม 2564 เเละเธอดำเนินกิจกรรมของพรรคต่อเนื่อง
ประวัติเส้นทางการเมือง จากจุดเริ่มหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
เมื่อสัญญาณการเลือกตั้ง สส. ปี 2566 กระชั้นเข้ามา จึงได้รับตำแหน่ง ”หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย“ โดยได้รับการประกาศขึ้นในงานเปิดตัว “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” ที่ศูนย์ประชุมมณฑาทิพย์ จ.อุดรธานี เมื่อ 20 มีนาคม 2565
ช่วงเวลาถัดมาเธอคือ “เบอร์1 ของพรรค” ที่มีบทบาทนำพรรคมากกว่า "หัวหน้าพรรค" เเละสิ่งที่สังคมจดจำเธอคือการเปิด “10นโยบายพลิกฟื้นประเทศ ปี 2570” เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2565 โดย ซอฟต์ พาวเวอร์ , ค่าเเรงขั้นต่ำ 600 บาท , เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท , 30 บาทรักษาทุกโรคทั่วประเทศ ฯลฯ คือนโยบายเรือธงของพรรคสีเเดงใช้นำร่องหาเสียง
จากนั้น เมื่อมีการยุบสภาเเละประกาศวันเลือกตั้ง สส. คือ วันที่ 14 พ.ค. 2566 "แพทองธาร" เป็น 1 ใน 3 ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยร่วมกับ เศรษฐา และชัยเกษม นิติสิริ เเละประกาศว่า พท. จะ “แลนด์สไลด์” จำนวน สส. 310 เสียง พร้อมเเคมเปญรณรงค์หาเสียง “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” รวมทั้งการไม่เเตะมือกับพรรคสองลุง
คราวนั้น เธอเป็น 1 ใน 2 เเคนดิเดตนายกฯหญิง (เเพทองธารกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ พรรคไทยสร้างไทย) จาก 16 รายชื่อเเคนดิเดต สร.1 ของ 16 พรรค ที่อาสาชิงตำเเหน่งเบอร์ 1 ตึกไทยคู่ฟ้าคนที่ 30 เเต่...เธอไม่ได้ลงสมัครเป็น สส.
ผลคะเเนนเลือกตั้ง สส.วันนั้นพบว่า พรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้ง โดย มี สส.สองระบบ 151 คน ส่วนพรรคสีเเดงคว้าอันดับสอง ได้ 141 สส. (สองพรรคได้ สส.เขต 112 คนเท่ากัน เเต่คะเเนน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลได้คะแนน 14,438,851 คะแนนได้ สส. 39 คน พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 10,962,522 คะแนน ได้ สส. 29 คน)
นับเป็นครั้งเเรกตั้งเเต่ปี 2544 ซึ่งพรรคสีเเดงเสียเก้าอี้เเชมป์การเลือกตั้งให้พรรคอื่น ยอด สส.ที่เคยเเตะ 377 ชีวิต ก็ลดลงเหลือ 141 สส. ดังที่ปรากฏ รวมทั้งมวลชนที่เคยเทเเต้มให้ราว 19 ล้านเสียง ลดเหลือกว่า10ล้านเสียง!?!?
ปฏิญญาช็อกมินท์จุดเริ่มตั้งรัฐบาล
การดีลตั้งรัฐบาลคราวนั้น พรรคสีเเดงจำยอมให้พรรคสีส้มเป็นเเกนนำตั้งรัฐบาล เเต่มีเเรงต่อรองเเปร่งๆที่พรรคสีเเดงชงไป เช่น ประธานสภาผู้เเทนราษฎร ควรให้พรรคอันดับสองได้ไป (ปกติพรรคอันดับหนึ่งจะได้สิทธิในตำเเหน่งนายกฯเเละประธานสภาฯ) เเละการเกลี่ยเก้าอี้ควรให้พรรคร่วมได้สิทธิเลือกกระทรวงตามนโยบายที่ประกาศไว้บ้าง
ในตอนนั้นคุณแพทองธารกับ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปรากฏเป็นข่าวเนืองๆ เเละได้ชักชวนให้เเต่ละฝ่ายดื่ม “ช็อกมินต์” และ “กาแฟส้ม” ที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องดื่มสัญลักษณ์ทางการเมืองในการดีลร่วมรัฐบาลเคียงคู่กับคำว่า “ดีลลับ/ดีลรัก !?!”
เเต่ท้ายสุดพรรคสีส้มไปไม่ถึงฝั่งฝัน ทำให้โอกาสเป็นของพรรคสีเเดง ที่พลิกมาเป็นเเกนนำตั้งรัฐบาล ท่ามกลางข้อหาว่า “มีดีลลับเเละพรรคสีเเดงตระบัดสัตย์” เพราะพรรคสีเเดงได้ดึง 40 สส. พรรคพลังประชารัฐเเละพรรครวมไทยสร้างชาติที่มี 36 สส.มาร่วมงาน
โดยวันที่ 22 ส.ค.2566 สมาชิกรัฐสภา (สส.เเละ สว.) ลงมติ 482 ต่อ 165 เสียง ให้เสี่ยนิดขึ้นเป็นประมุขฝ่ายบริหารคนที่ 30 เเละวันนั้น “โทนี่ ” กลับเมืองไทยครั้งเเรกหลังหายไป 17 ปี....
เส้นทางการเมืองทดลองงานทำเนียบด้วยตำแหน่ง รอง ปธ.ซอฟต์พาวเวอร์
ส่วนตำเเหน่งทางการทางการเมืองครั้งเเรกของเธอคือคำสั่งสำนักนายกฯที่ 230/2566 ลงวันที่ 13 ก.ย.2566 เเต่งตั้งคุณแพทองธารเป็น “รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ว่าด้วยซอฟต์พาวเวอร์ ”โดยก่อนหน้านั้นลือว่า เธออาจเป็นหนึ่งใน ครม.เสี่ยนิด เพื่อทดลองงานบริหารราชการเเผ่นดิน เเต่ข่าวนี้โดนกลบไปจากคำสั่งสำนักนายกฯฉบับดังกล่าว
ผงาด "หัวหน้าพรรคเพื่อไทย"
ผ่านการถูกซักฟอกครั้งแรก
24-25 มี.ค.2568 มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ สร.1 เพียงคนเดียว จากนั้น 26 มี.ค.2568 ที่ประชุมของสภาผู้เเทนฯ ลงมติไว้วางใจให้เธอดำรงตำแหน่งนายกฯต่อไป ด้วยคะแนนเสียงไว้วางใจ 319 เสียง ไม่ไว้วางใจ 162 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง จากผู้ลงมติ 488 เสียง
ช่วงเวลาหนักหน่วงที่สุดของชีวิต
คลิปเสียงฮุนเซน สะเทือนทำเนียบฯ
ชี้ชะตาเก้าอี้นายกฯ อยู่หรือไป