svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

รัฐบาลไฟเขียวขยายเงินเยียวยา ผู้สูญเสียเหตุปะทะไทยกัมพูชา

รัฐบาลไฟเขียวขยายเงินเยียวยา ผู้สูญเสียเหตุไทยกัมพูชา ทหารไทย 10 ล้าน พลเรือน 8 ล้าน “ภูมิธรรม” อ่านแถลงการณ์รัฐบาล เผยไทยผ่าน 2 วิกฤต ดีลภาษีสหรัฐ-สงครามไทยกัมพูชา

5 สิงหาคม 2568 ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้อ่านคำแถลงการณ์ รัฐบาล “ก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน” โดยระบุว่า ”พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ก้าวผ่านสถานการณ์สำคัญสองประการ ที่ท้าทายและส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพด้านความมั่นคง และเศรษฐกิจของประเทศ เราเผชิญกับสถานการณ์ความรุนแรงบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้อดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุ การนำเสนอข่าวปลอมที่ทำลายความไว้วางใจทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ที่สำคัญ รัฐบาลยึดมั่นในการเลือกใช้แนวทางสันติวิธีภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ และตามหลักมนุษยธรรมมาโดยตลอด

พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน เราชาวไทยมีเอกลักษณ์ที่สืบทอดกันมา คือ ความเป็นคนที่รักสงบ อยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของความเข้าใจในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่มีต่อกันและกัน แต่เมื่อเกิดความขัดแย้งที่นำไปสู่การสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ด้วยปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ในทันที ทั้งทางการทหาร การข่าว และการต่างประเทศอย่างรอบด้าน และเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตย และชีวิตของประชาชนในชาติ และทำให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้เหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนได้สิ้นสุดลงแล้วเบื้องต้น และได้เริ่มเข้าสู่การเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหานี้ร่วมกันผ่านการประชุม GBC ตามหลักสันติวิธี ซึ่งประเทศไทยของเราได้ยึดมั่นมาโดยตลอด

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี

 

รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวทุก ๆ ครอบครัว และพี่น้องประชาชนทุกท่านในจังหวัดชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งแม้ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้น จะประเมินเป็นมูลค่ามิได้ แต่รัฐบาลจะขอผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อชดเชยความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ

โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต รวมรายละ 10,000,000 บาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รวมรายละ 8,000,000 บาท พร้อมทั้งได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชน

สถานการณ์สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ไทยเราต้องประสบกับมาตรการภาษีการค้าจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งรัฐบาลขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและต่อเนื่อง โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ การที่สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีการค้าของไทยที่ร้อยละ 19 จึงสะท้อนให้เห็นถึงความพยายาม และผลจากการทำงานอย่างใกล้ชิดของรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องทุกคน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้ไทยยังคงมีศักยภาพแข่งขันได้ในเวทีโลก และยังคงความได้เปรียบประเทศคู่แข่งขันในภูมิภาค ซึ่งอาจถือได้ว่า นี่คือโอกาสใหม่ของไทยในการเปิดประตูสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ดี รัฐบาลทราบดีว่า การเปลี่ยนแปลงกติกาและโครงสร้างทางเศรษฐกิจใหม่ของโลก ย่อมทำให้ทุกประเทศต้องมีการปรับตัว ดังนั้น รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการทางการเงิน ทั้งมาตรการ Soft loan มาตรการพักชำระหนี้ การส่งเสริมให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และการตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนและรองรับการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างความเข้มแข็งให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง

บทเรียนจากเหตุการณ์ทั้งสองที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้พวกเราต่างได้เรียนรู้ว่า การจะก้าวผ่านอุปสรรคต่าง ๆ จำเป็นต้องอาศัยความสามัคคีของพวกเราชาวไทยทุกคนเพื่อเป็นพลังในการขับเคลื่อน

ขณะนี้ก็ถึงเวลาที่เราคนไทยทุกคนจะจับมือร่วมใจกัน มองตรงไปยังโอกาสและความท้าทายข้างหน้า เพื่อเริ่มก้าวเดินไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกันอีกครั้ง นั่นคือ การสร้างประเทศไทยให้มีแต่ความสงบร่มเย็น และเพื่อประชาชนทุกคนได้อยู่ดีมีสุขโดยเร็ว“ อย่างไรก็ตามภายหลังการแถลงการณ์เสร็จสิ้นนายภูมิธรรม ไม่ไดัเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถาม หรือแถลงผลการประชุม ครม.แต่อย่างใด 

รัฐบาลไฟเขียวขยายเงินเยียวยา ผู้สูญเสียเหตุปะทะไทยกัมพูชา
รัฐบาลไฟเขียวขยายเงินเยียวยา ผู้สูญเสียเหตุปะทะไทยกัมพูชา
 

เปิดรายละเอียดขยายเยียวยา ทหาร-พลเรือน เหตุปะทะไทยกัมพูชา
 

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. 5 ส.ค. 68 มีมติเห็นชอบมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้ 

1. เห็นชอบหลักเกณฑ์ให้เงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์ สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา นับตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. 2568 จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ หากมีผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวเพิ่มเติม ให้หน่วยงานขอรับการจัดสรรงบฯ ตามขั้นตอนต่อไป

2. เห็นชอบกรอบอัตราเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ (ต่อราย) ดังนี้
-  เจ้าหน้าที่รัฐ (เช่น ทหาร ทหารพราน ตำรวจ ตชด.) เสียชีวิตและทุพพลภาพ 10 ล้านบาท บาดเจ็บสาหัส 1 ล้านบาท บาดเจ็บมาก  5 แสนบาท
- ประชาชน เสียชีวิตและทุพพลภาพ 8 ล้านบาท บาดเจ็บสาหัส 8 แสนบาท บาดเจ็บมาก 4 แสนบาท
           
3. เห็นชอบกรอบวงเงินงบฯ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์ สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา (วันที่ 16 ก.ค. - 2 ส.ค. 2568) จำนวน 404.60 ล้านบาท โดย (1) เบิกจ่ายจากงบกลางฯ เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี และ (2) กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยตามระเบียบ นร. ว่าด้วยการรับบริจาคและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยพ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
        
ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้จัดเตรียมข้อมูลต่อไปในการเยียวยาทรัพย์สินที่มีความเสียหาย