
"รัฐบาลทำอะไรบ้าง ในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา และการช่วยเหลือจากผลกระทบ”
เป็นประโยคที่หลายคนกล่าวขึ้นมาบ่อยมาก หลังเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะดูเหมือนบทบาทนำต่อสถานการณ์ ทุกคนกลับพุ่งเป้าไปที่การให้กำลังใจกองทัพ ให้กำลังใจพี่น้องทหารหาญที่อยู่แนวหน้า โดยที่แนวหลัง ซึ่งทำหน้าที่กำกับนโยบาย คือรัฐบาลกลายเป็นหมู่บ้านกระสุนตก ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบอย่างหนักหน่วง
ทว่า ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลแพทองธาร อยู่เหมือนกัน
จริงอยู่สภาพของรัฐบาลที่อยู่ในภาวะความศรัทธาหด ความนิยมลด สอดคล้องกับผลสำรวจหลายสำนัก
กอปรกับ "นายกฯแพทองธาร" ถูกศาลรธน.ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างการพิจารณาคดีคลิปเสียงอังเคิลฮุนเซน ทำให้ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ต้องมาทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกฯ อีกตำแหน่ง
ส่วนฝ่ายกำกับนโยบายด้านมั่นคง แทนที่จะเป็นรมว.กลาโหม ก็ไม่ได้รับการแต่งตั้งในช่วงปรับครม.แพทองธาร 1/1 จึงต้องมอบหมายให้ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รับหน้าเสื่อแทน เรียกว่า ในตำแหน่งสำคัญๆ มอบหมายให้มวยแทน แก้ปัญหาสถานการณ์ความร้อนแรง ไทย – กัมพูชา อยู่ในขณะนี้
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ ภูมิธรรม ทำหน้าที่ รักษาราชการแทนนายกฯ เป็นประธานหัวโต๊ะประชุมครม. ท่านก็แสดงบทบาทการออกข้อสั่งการต่างๆ ในช่วงสถานการณ์ร้อนแรง เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนและเพื่อให้ลดข้อครหา“ รัฐบาลทำอะไรบ้างในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา “
ปรากฎเอกสารในการประชุมครม. เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 หรือหลังเหตุการณ์ปะทะหนักไทย— กัมพูชา วันที่ 24 กรกฎาคม หรือ เมื่อห้าวันที่ผ่านมา
คราวนั้น ภูมิธรรม กล่าวในที่ประชุมครม. ถึงสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา และสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งประชาชนอีกจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนในการดำรงชีวิตทรัพย์สินเสียหาย และต้องอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือดูแลอย่างเร่งด่วน
ครั้งนั้น ภูมิธรรม ได้มอบหมายและสั่งการดังนี้
1. ให้รัฐมนตรีทุกท่านใช้เวลาที่ว่างเว้นจากภารกิจประจำลงพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ ตลอดจนกำกับดูแลและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในความรับผิดชอบที่อยู่ในพื้นที่ รวมทั้งบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ขอให้รัฐมนตรีหลีกเลียงการดำเนินการใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆในพื้นที่หน้างานด้วย
2. ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเป็นการจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น อาหาร เครื่องนอน เครื่องนุ่งห่ม เวชภัณฑ์ น้ำสะอาด เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ในการดำรงชีพในช่วงวิกฤตได้อย่างเหมาะสมและเพียงพอ รวมทั้งให้กำกับดูแลการบริหารจัดการขยะในพื้นที่ให้เหมาะสมและไม่เกิดมลภาวะด้วย
3. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดหาเครื่องใช้หรืออุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยป่วยติดเตียง เช่น รถเข็น ให้เพียงพอต่อความต้องการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และดูแลผู้ประสบภัยกลุ่มเปราะบางได้อย่างเหมาะสม
4.ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ให้เพียงพอ เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยในพื้นที่รวมทั้งให้กำหนดมาตรการในการดูแลและคัดแยกผู้ป่วยที่ติดเชื้อออกจากผู้ป่วยอื่นและบุคคลทั่วไป เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่พักพิงและสถานพยาบาลด้วย
5. ให้กระทรวงมหาดไทย (จังหวัดที่เกี่ยวข้อง) เร่งประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเบิกจ่ายเงิน ช่วยเหลือ/เยียวยา/ ชดเขยให้แก่ผู้บาดเจ็บ ทายาทของผู้เสียชีวิต หรือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้นตามแต่กรณี ให้ถูกต้อง ครบถ้วน และแล้วเสร็จโตยเร็ว
ฉะนั้น กับคำถามว่า "รัฐบาลทำอะไรบ้างในสถานการณ์ ความขัดแย้ง ไทย – กัมพูชา" คงต้องตอบว่า “ทำอยู่ ทำแล้ว และยังทำต่อไป”
แม้ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา จะยังไม่ยุติโดยเร็วก็ตาม