
30 กรกฎาคม 2568 ถึงนาทีนี้ทุกท่านคงเห็นตรงกันแล้วว่า การจะเอาชนะกัมพูชานั้น ไม่ได้ง่าย แม้แต่ชัยชนะเด็ดขาดในสนามรบตามแนวชายแดน ที่กำลังและยุทโธปกรณ์ของฝ่ายเราเหนือกว่ามากมายก็ตาม เพราะเขาวางแผนมาดี มียุทธศาสตร์ที่ดี มีเอกภาพ และไม่ได้มีผู้มีอำนาจ (บางคน) คอยก่อปัญหาแบบเรา
วันนี้จึงขอเป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวจาก “หน้าแนว” เพราะสถานการณ์จริงไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด วิกฤตยังคงมีอยู่ เราต้องร่วมแรงร่วมใจ และส่งกำลังใจให้พี่น้องทหารกล้า!
- ทหารทุกนายพร้อมสู้ ไม่ถอยแม้ก้าวเดียว
- แม้ต้องรบกลางฝน เท้าใกล้เน่า ต้องระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ
- เสียงปืน เสียงระเบิดดังไม่หยุด วางใจไม่ได้แม้นาทีเดียว
- บางพื้นที่เจอ “โดรนกามิกาเซ่” ของฝ่ายตรงข้าม
- ฝ่ายข้าศึกเตรียมการมา มีหลุม-บังเกอร์หลบภัยเมื่อโดน “ทิ้งไข่”
- หลายพื้นที่แม้ควบคุมได้ 100% ก็ยังไม่วายโดนโจมตีจากระยะไกล
- การส่งกำลังบำรุงบางพื้นที่ไม่ 100%
- อย่าเพิ่งดีใจกับข่าวหยุดยิง หรือข่าวไอโอปลุกขวัญ เพราะความจริงไม่ได้สวยงามขนาดนั้น
หลังหยุดยิง สถานการณ์จริงยังยิงไม่หยุด และภาพรวมไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด หรือที่แชร์ภาพ AI ในสื่อสังคมออนไลน์
- สรุปพื้นที่จุดที่ยังมีการใช้อาวุธ จุดที่ยิงปืนกล ปืนใหญ่ ยิงระเบิด ยิงจรวด ในลักษณะปะทะตอบโต้กันเพื่อหักเอาดินแดน หรือการรุกล้ำอธิปไตย มีอย่างน้อย 4 พื้นที่ (ช่องอ่านม้า ภูมะเขือ ซำแต ตาควาย)
- การควบคุมพื้นที่ของฝ่ายเรา แบ่งเป็น 3 ระดับ
ระดับที่ 1 จุดที่ควบคุมพื้นที่ได้เบ็ดเสร็จแล้ว (ชักธงได้แล้ว) แต่ยังมีความพยายามโจมตีจากกัมพูชา เพื่อหวังยึดคืน เช่น ช่องอานม้า ตาเมือนธม ภูมะเขือ
ทหารไม่ได้วางใจ หรือผ่อนการตรึงกำลัง เนื่องจากยังมีความพยายามโจมตี ทั้งยิงอาวุธหนักเข้าใส่ และส่งกำลังภาคพื้นเข้ามา
ระดับที่ 2 จุดที่เราโดนยึดไป เราก็พยายามตีคืน และคุมพื้นที่ได้คนละส่วนกับกัมพูชา ยังตรึงกันอยู่ และยิงใส่กัน จุดนี้ เช่น ตาควาย (ช่องตาควาย ไม่ใช่เฉพาะตัวปราสาท) โดยก่อนหน้านี้ทหารกัมพูชาเข้าไปอยู่ในปราสาท ล่าสุดทหารไทยขับไล่ออกไปได้ แต่ยังไม่สุดแดน เนื่องจากกองกำลังฝ่ายกัมพูชายังยึดจุดสูงข่มบางจุดได้อยู่
ภาพที่แชร์กันว่าเรายึดปราสาทและเนินบริเวณนั้นได้เบ็ดเสร็จ เป็นภาพ AI
พื้นที่นี้ ในทางความมั่นคง อาจสรุปได้ว่า ยึดคืนได้แล้ว แต่ในทางการทหาร ได้รับการยืนยันว่า “ยังไม่เบ็ดเสร็จ” เพราะกองกำลังกัมพูชายังยึดพื้นที่จุดสูงข่มได้บางส่วน ทำให้ฝ่ายเราไม่สามารถเข้าไปเคลียร์พื้นที่ได้เหมือนบริเวณอื่นๆ เช่น ช่องซำแต (ที่พบทหารเขมรตกค้าง) หรือไปเคลียร์พื้นที่แล้วยึดยุทโธปกรณ์ได้
ฝ่ายเราไม่ปลอดภัย หากจะเข้าไปในบริเวณปราสาท เพราะยังมีกองกำลังกัมพูชาอยู่ในจุดสูงข่ม สามารถยิงใส่ได้ตลอดเวลา
พื้นที่ปราสาทอื่นๆ ก่อนหน้านี้ เช่น ตาเมือนธม ก็มีลักษณะคล้ายกัน คือ ทหารกัมพูชาเข้าไปยึดตัวปราสาท จนถูกทหารไทยขับไล่ แต่จุดอื่นๆ ฝ่ายเราควบคุมบริเวณโดยรอบได้ทั้งหมด
ระดับที่ 3 กัมพูชาใช้อาวุธหนักถล่มไม่เลือก ไม่เว้นบริเวณปราสาท ทำให้มีรายงานปราสาทที่เป็นมรดกวัฒนธรรมบางแห่ง ได้รับความเสียหาย