svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ทบ.ปรับทัพสู้ IO กัมพูชา เสธ.เบิร์ด ลั่นบท “ละแวกก็หอกข้างแคร่”

“ละแวกก็หอกข้างแคร่” เสธ.เบิร์ด ท่องบทองค์ดำ! ทบ.ปรับทัพสู้สงคราม IO กัมพูชา เปิดตัวผู้รับบท “องค์ดำ-องค์ขาว” สู้ศึก

23 กรกฎาคม 2568 พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก หรือ ผบ.ทบ. มอบหมายให้​ พลโท อานุภาพ​ ศิริมณฑล​ รองเสนาธิการทหารบก , พลตรี วันชนะ​ สวัสดี​ ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย​ , พลตรี วินธัย สุวารี​ โฆษกกองทัพบก​ และทีมโฆษก​ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวชายแดนไทย​-กัมพูชา​

โดย พลโท อานุภาพ​ กล่าวว่า​ ผบ.ทบ. ได้ฝากข้อความโดยระบุว่า​ ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นปัจจุบันเป็นรูปแบบหลายมิติ ซึ่งบางครั้งก็ยังไม่เคยเจอมาก่อน ส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ​ ดังนั้นเป็นความรับผิดชอบทหารโดยตรงอยู่แล้ว แต่อยากให้สื่อมวลชนให้ความร่วมมือ​ เพราะปัจจุบันมีการต่อสู้ในโซเชียลมีเดีย​ มีอิทธิพล​ต่อการปฏิบัติงานของทหาร​ หวังว่าคงไม่ตำหนิ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล​ กระทรวงการต่างประเทศ​ เพราะมีขีดความสามารถและข้อจำกัด

ดังนั้นเราต้องทำงานร่วมกัน​ ในเวลานี้คงไม่สามารถว่าใครได้ แต่เราจะต้องมีความอดทนอดกลั้น หลายคนบอกว่าจะอดทนไปถึงไหน​ แต่ถ้าเข้าใจ​เพราะเราเป็นทหาร​ ท.ทหาร​ ต้องอดทนอยู่แล้ว​ อีกทั้ง ผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำ ให้ทำงานด้วยความมีสติ และมีความสามัคคีกัน เป็นหัวใจในการทำงาน
พลโท อานุภาพ​ ศิริมณฑล​ รองเสนาธิการทหารบก

ส่วนการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก​ วานนี้​ (22 ก.ค.)​ ผบ.ทบ.​ ได้ระบุว่า นอกจากภารกิจที่ทำอยู่ ยังเป็นการสนองงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดูแลประชาชนให้ปลอดภัย และกำลังพลให้มีความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของกองทัพบก และทางแม่ทัพภาคที่ 2 ได้รับนโยบายไปดำเนินการต่อไป​ ทั้งนี้​ กองทัพไทยและกองทัพบก​ คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ หากเกิดเหตุการณ์อะไร​กับประชาชน เรารับไม่ได้ เพราะฉะนั้นการทำงานต่างๆ กองทัพบก​จะต้องทำด้วยความรอบคอบ

ผบ.ทบ. ยังเน้นย้ำอีกว่า บางครั้งจะผิดพลาดอะไรไป​ ก็ต้องกล้าที่จะแก้ไขให้ถูกต้อง นอกจากนี้ กองทัพบก ยังประสานไปยังกองทัพไทย ในเรื่องการให้ข้อมูลข่าว ที่จะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเป็นทีมเดียวกัน โดยในส่วนของกองทัพไทย จะมี พลตรี วันชนะ เป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้นขอให้มั่นใจ
พลตรี วันชนะ - พลตรี วินธัย
 

ยัน​ ผบ.ทบ.​ อยู่เบื้องหลัง​ ไม่ใช่นักรบห้องแอร์​
 

ส่วนข้อครหา ผบ.ทบ. ไม่ออกสื่อฯ​ เหมือนนักรบห้องแอร์นั้น พลโท อานุภาพ กล่าวว่า "ผบ.ทบ. ไม่ได้ปิดบังตัวตน และปฏิบัติภารกิจตลอด แต่ด้วยบุคลิก ไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ แต่ให้ความสำคัญ จึงได้มีการตั้งทีมโฆษกขึ้นมา เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารขององค์กร และยืนยันว่าท่านให้ความสำคัญ และลงมาดูเองในเรื่องนี้ และพร้อมที่จะให้ข้อมูลทุกอย่าง ซึ่งการสื่อสารมีหลายวิธี หลายช่องทาง"

ด้าน พลตรี วินธัย กล่าว สรุปภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยยืนยันว่า กองทัพบกไม่ได้ปกปิดข้อมูล แต่ยึดหลักความถูกต้อง และความน่าเชื่อถือ ในการให้ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งที่ผ่านมาภายหลังเกิดเหตุ เราให้ความสำคัญกับกำลังพลที่บาดเจ็บ หลังจากนั้นจึงเข้าพิสูจน์ทราบในรายละเอียด จนพบว่าเป็นทุ่นระเบิดวางใหม่ ชนิด PMN2 พร้อมทั้งขอความร่วมมือสื่อมวลชน เนื่องจากระเบิดชนิดนี้ เกิดในยุคสหภาพโซเวียต ขณะนั้นรัสเซียยังไม่ได้แยกตัวออกมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด จึงอยากให้ใช้คำว่าระเบิดของสหภาพโซเวียต แทน

ทั้งนี้ กองทัพบก ย้ำถึงแนวทางปฏิบัติหลังเกิดเหตุการณ์ ใช้กระบวนการชี้แจงข้อเท็จจริงกับต่างประเทศ และเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าว จะเป็นอธิปไตยของไทย แต่เพื่อให้กำลังพลมีความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเก็บกู้ทุ่นระเบิดและทำถนน​ โดยมีเครื่องจักรอยู่ในพื้นที่ แน่นอนว่าทางกัมพูชาต้องโต้แย้ง และปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้วางทุ่นระเบิด เนื่องจากทุ่นระเบิดดังกล่าว วางอยู่แนวหน้าคูเลต ที่กัมพูชาเคยประจำพื้นที่อยู่ก่อนหน้านั้น ก่อนที่จะมีการปรับกำลังออกไป แต่ไทยก็ต้องทำความเข้าใจกับต่างประเทศต่อไป
พลตรี วินธัย

พลตรี วินธัย​ ยังย้ำอีกว่า การทำงานในทุกระดับ ตั้งแต่ฝ่ายบริหารลงมา มีความสำคัญ และเรามีการประสานงานกันอยู่แล้ว ทั้งประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม​  หรือ​ JBC ซึ่งมีกระทรวงการต่างประเทศ รับผิดชอบ ที่เปรียบเสมือนนักกฎหมาย ของงานด้านนี้ ซึ่ง ผบ.ทบ อยากให้ตัวแทน และกรรมการภูมิภาค หรือ​ RBC เข้าร่วมประชุม JBC ด้วย ซึ่งจะมีทั้งผู้ปฏิบัติ ผู้วางแผน ได้เข้าใจและแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกัน

ส่วนการจัดระเบียบนักท่องเที่ยว ยังปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว หลังมีการประสานขอตำรวจปราบจลาจล และทหารพรานหญิง​ เพื่ออำนวยความสะดวกในพื้นที่ ไม่ใช่การป้องกันเหตุ เพราะหวังว่าสถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรมีเหตุการณ์​ แต่หากมีการทะเลาะวิวาทและกระทบกับความสัมพันธ์​ ก็ต้องกลับมาทบทวนมาตรการ แต่ขณะนี้เหตุการณ์ยังไม่เกิด จึงไม่อยากให้ไปโฟกัสตรงนั้น ขอให้มองในแง่เจ้าหน้าที่ไปอำนวยความสะดวก ทางกองทัพภาคที่ 2 จะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์

ด้าน พลตรี วันชนะ ได้เดินทางมาร่วมวงแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ด้วย เมื่อเห็นสื่อมวลชนก็ได้แซวว่า ให้ไปนั่งคู่กันเลย จะได้เป็นองค์ดำ องค์ขาว (จากภาพยนตร์สมเด็จพระนเรศวร) จากนั้น พลตรี วันชนะ  หรือ​ เสธ.เบิร์ด​ ที่เคยรับบทเป็นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้เริ่มต้นด้วยการท่องบทในภาพยนตร์​ช่วงพระยาระแวกให้ฟังว่า​
 

“ถอยทัพกลับไปก็ดีแล้ว​ ละแวกก็หอกข้างแคร่​ ดีร้ายจะลอบตลบหลัง​เราทีเผลอเข้าพลาด”​ 
 

พลตรี วันชนะ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา พลเอก ทรงวิทย์​ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูง​ หรือ ผบ.ทสส.​ ได้เดินทางไปพบกลุ่มประเทศในอาเซียน เพื่อทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกประเทศ พร้อมยืนยันจะให้ความร่วมมือ เพื่อให้เหตุการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาจบลงอย่างรวดเร็ว​
พลตรี วันชนะ