
22 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (21ก.ค.2568) นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงนามในคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่2143/2568 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน กรณีไม่เพิกถอนโฉนดที่ดินบริเวณเขากระโดง ตำบลอิสาณและตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
โดยมีรายระเอียดดังนี้ ด้วยปรากฏข่าวสารเป็นที่แพร่หลายเกี่ยวกับความเคลือบแคลงสงสัยในผลการตรวจสอบ การถือครองที่ดินบริเวณเขากระโดงของกรมที่ดิน กรณีศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้อธิบดีกรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ทำการตรวจสอบแนวเขตที่ดินบริเวณเขากระโดง ตำบลอิสาณและตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อหาแนวเขตที่ดินที่เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทยให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขแดงที่ 842-876/2560 และคดีหมายเลขแดงที่ 8027/2561 และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 3 คดีหมายเลขแดงที่ 1112/2563
ซึ่งต่อมาอธิบดีกรมที่ดินเห็นชอบตามมติของคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าวที่ไม่เพิกถอนหรือแก้ไขเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินที่ทับซ้อนกับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณเขากระโดง ตำบลอิสาณและตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ และมีคำสั่งให้ยุติเรื่อง
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเกิดความชัดเจน เป็นธรรม และเป็นไปตามคำพิพากษาศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 และศาลปกครองกลางที่เกี่ยวข้อง อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติระเบียบริหารหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 20 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ประกอบคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 2035/2568 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน กรณีไม่เพิกถอนโฉนตที่ดีนบริเวณเขากระโดง เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้
องค์ประกอบ
อำนาจหน้าที่
คณะกรรมการมีอำนาจพิจารณาเสนอความเห็นเกี่ยวกับผลการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินกรณีไม่เพิกถอนโฉนดที่ดิน บริเวณเขากระโดง ตำบลอิสานและตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวังหวัดบุรีรัมย์ โดยตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวงที่เกี่ยวข้อง รับฟังพยานบุคคล ตรวจสอบเอกสารวัสดุ หรือสถานที่ เชิญบุคคลหรือผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อมูลและข้อเท็จจริง ตลอดจนขอให้จัดส่งเอกสารเพื่อประกอบการพิจาณาตามความจำเป็น รวมทั้งดำเนินการอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ในเรื่องดังกล่าว จนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ และส่งสรุปผลการตรวจสอบ พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้แต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป