"กมธ.ศาสนาฯ" เตรียมเสนอแก้ "พ.ร.บ.สงฆ์" ให้มีโทษคดีอาญา แก้ปัญหา "พระมั่วสีกา"

15 กรกฎาคม 2568 นายวราวุธ ตีระนันทน์ รองประธานคณะ กมธ.การศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา กล่าวถึงการประชุม กมธ.ในวันนี้ว่า

 

ตนได้เสนอในที่ประชุมว่าข่าวเรื่องพระกับสีกา เราคงไม่ไปก้าวก่ายเรื่องการดำเนินคดี แต่เราจะวางกรอบในการแก้ไขสาเหตุชอบเขตอำนาจของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาเถระสมาคม รวมถึงการเสนอแนะการแก้ไข พ.ร.บ.สงฆ์ ซึ่งมี 2 ฉบับ

โดยตนได้สั่งให้คณะอนุกรรมาธิการไปประมวลลบทบัญญัติของ พ.ร.บ.สงฆ์ ว่าเป็นอย่างไรบ้างซึ่งครอบคลุมไปถึงการลงโทษและการดำเนินคดีอาญา

 

 

นายวราวุธ ตีระนันทน์ รองประธานคณะ กมธ.การศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา

 

 

 

 

 

 

ประการที่ 2 เราต้องไปดูอำนาจการบริหารงานการจัดการของคณะสงฆ์ พระเถระมีอำนาจขอบเขตแค่ไหน และพระผู้ปกครองระดับสูง เมื่อปกครองแล้วมีพระเถระทำผิด จะต้องมีส่วนรับผิดชอบส่วนหนึ่งด้วย ตนจะร่างรายละเอียดขึ้นมา

เมื่อถามว่าบทลงโทษจะครอบคลุมถึงสีกาด้วยหรือไม่

 

 

นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องครอบคลุมด้วย กรณีของสีกากอล์ฟ ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา เป็นเรื่องของพระกับบุคคล ซึ่งเกิดความรักชอบหรือเสน่ห์หาอะไรก็ตาม แต่ 2 คนตัดสินใจที่จะกระทำผิด เป็นเรื่องที่เราต้องลงโทษ

 

แต่กรณีนี้เป็นการวางแผน เพื่อที่จะทำลายพระพุทธศาสนาจ้องจะจับพระผู้ใหญ่ หรือราชาคณะทั้งนั้น เป็นพระที่มีอำนาจหน้าที่และมีเงินทอง

มีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ตั้งแต่แรก เป็นขบวนการ ซึ่งเรายังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นขบวนการอย่างไร เราต้องไปดูถึงการใช้จ่ายเงินของวัดมีการตรวจสอบอย่างไร ใช้เงินถูกต้องตามระเบียบหรือไม่

ต้องดูตั้งแต่ต้นน้ำ ถ้าพระไม่มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องสีกาก็ไม่อยากเข้าใกล้ด้วย ก็จะลดทอนไปได้บางส่วน

 

 

นายวราวุธ ย้ำว่า ในระดับคณะอนุ กมธ.ด้านศาสนา คุณธรรม จริยธรรม วุฒิสภา ก็ติดตามเรื่องนี้ ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุสีกากอล์ฟแล้ว

 

เพราะเห็นว่า พ.ร.บ.สงฆ์ ไม่สมบูรณ์ ควรจะมีการตรวจสอบเรื่องการใช้จ่ายเงินของวัด ซึ่งไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องพุทธบริษัท 4 เลย ไม่เคยมีใครเห็นเลยว่า เป็นเสาหลักพระพุทธศาสนา ที่จะมีส่วนร่วมในการเรียกศรัทธา

 

เราจึงมองว่าจะทำอย่างไรให้มีส่วนในการขับเคลื่อน นอกจากนี้ยังมองว่าบทบาทของพระธรรมทูตมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ซึ่งทั้งหมดที่ตนพูดมานี้จะยกร่างไม่เกิดวันศุกร์นี้ (18 ก.ค.68) เพื่อจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะใหญ่และเสนอแนะไปยังหน่วยงานต่างๆต่อไป