svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ยันไทยไม่เคยปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา แค่กำหนดเวลาที่เหมาะสม

ผบ.ทสส ย้ำชัด ไทยไม่เคยปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา แค่กำหนดเวลาที่เหมาะสม ชี้หากเจรจาขอเปิดด่านควรเปิดพร้อมกันหรือไม่? แนะลดการเผชิญหน้า กลับไปเหมือนปี 2567

12 กรกฎาคม 2568 ที่ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน กับประเทศเพื่อนบ้าน (ผอ.ศอ.ปชด.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า วานนี้(11 ก.ค. 2568) พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกกับตนว่า ปัจจุบันมีการพูดคุยกันและติดต่อกันมากขึ้นในระดับทหาร มีการลาดตระเวนร่วมกันสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ซึ่งเราก็เห็นชอบด้วย

และจุดยืนของประเทศไทย ยังคงเหมือนเดิม คือ

  1. การรักษาอธิปไตยของชาติ ที่เป็นสิ่งที่เราครอบครองมาอย่างยาวนาน ตามแผนที่ปฏิบัติการของเรา
  2. อยากให้มีการพูดคุยแบบทวิภาคีต่อไปในอนาคต ทั้งการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ที่มีแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธาน , การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ที่มีกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน
  3. การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน เมื่อมีการพูดคุยกัน สิ่งที่เราอยากเห็นคือการลดกำลังเผชิญหน้า อย่างกำลังที่เสริมเข้ามาในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะกำลังอาวุธระยะไกล เราอยากให้กลับไปเหมือนปี 2567 คือ ใครมีกำลังเท่าไหร่ ก็ให้กลับไปมีเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ

“ผมอยากเห็นการเปิดด่าน เพื่อให้การค้าขายและการเดินทางข้ามแดนสะดวกมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาเราไม่เคยปิดด่าน เพียงแต่กำหนดเวลาตั้งแต่ 08:00 น. ถึง 16:00 น. แต่ทางกัมพูชาปิดด่านตลอดแนว ดังนั้นการเจรจาเปิดด่าน เราควรเปิดพร้อมกันดีหรือไม่ ตั้งแต่ 08.00 น. ถึง 18.00 น. เพื่อให้สามารถสัญจรไปมาได้ ที่ผ่านมาประเทศไทยใช้หลักมนุษยธรรม มีผู้เจ็บป่วยที่ต้องการข้ามมาฝั่งไทย มีเด็กนักเรียนที่ตัองข้ามมาเรียนหนังสือฝั่งไทย ย้ำว่าเรายังคงเปิดให้เข้ามาเหมือนเดิม เพราะเชื่อว่าการศึกษาจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้คนทั้ง 2 ประเทศ มีความสัมพันธ์กันได้ โดยมีเป้าประสงค์เพื่อต้องการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และทำให้เกิดความสงบตามแนวชายแดน” พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กล่าว