svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

อ่านจังหวะ เกมใหม่"ค่ายส้ม"ชง"แก้รธน." รื้อองค์กรอิสระ หวังผลอะไร!?

สัญญาณมาแรงจาก "ป.ป.ช." เตรียมชี้มูล คดี 44 สส.อดีต"พรรคก้าวไกล" ถึงกับมีการเชิญมาชี้แจงรอบสอง และดำเนินการจนครบถ้วนแล้ว ยิ่งสร้างแรงกระเพื่อมไปถึง"ค่ายส้มรุ่นสาม" เร่งเกมยื่น"แก้ไขรธน. " ว่าด้วยองค์กรอิสระ ติดตามได้จาก "กระบี่เดียวดาย" เนชั่นทีวีออนไลน์

12 กรกฎาคม 2568  เกมใหม่การเมืองที่ พรรคสีส้มรุ่นที่สาม นำมาเปิดท่ามกลางปัญหาการเมือง/ความมั่นคง/พิษเศรษฐกิจที่บีบครม.เเพทองธาร ชินวัตรในตอนนี้นั้น ต้องเจาะลึกว่า เหตุผลใดที่พรรคสีส้มนำมาขย่มพรรคสีเเดงตอนนี้หรือหวังผลระยะหน้า ที่รู้กันเเล้วว่าปลายปีนี้-ต้นปีหน้า การเลือกตั้งสส.เกิดขึ้นเเน่นอนหรืออีกนัยหนึ่งเพื่อปิดเเผลตัวเองในวันวาน...

การขยับของพรรคสีส้มเมื่อ 7 กรกฎาคม 2568 นั้น ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อม สส. แถลงข่าวการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า  

”หลายเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา เช่น การยุบพรรค ตัดสิทธินักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน คำถามต่อการตรวจสอบคดีการโกงการเลือก สว. หรือการขาดความรับผิดรับชอบจากกรณีตึก สตง. ถล่ม ล้วนมีต้นตอมาจากการออกแบบศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ ที่ถูกขยายขอบเขตอำนาจในการตรวจสอบสถาบันทางการเมืองอื่น แต่กลับมีที่มาที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน รวมถึงขาดกลไกที่จะถูกประชาชนตรวจสอบได้โดยตรง ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จะต้องมีการหารือร่วมกันทุกฝ่ายใน ส.ส.ร. แต่พรรคประชาชนเห็นว่า รัฐสภาเดินหน้าแก้ไขได้บางมาตรา โดยเป็นการแก้ไขแบบคู่ขนานกันไปเเละเสนอร่างแก้ไขจำนวนสามฉบับ“

 

พิจารณา การเดินเกมคราวนี้พรรคสีส้มพยายามชี้ว่าองค์กรอิสระตามกฎหมายหลักของประเทศผูกขาด/ไม่ยึดโยงกับประชาชน /เอื้อกับบางขั้วอำนาจ เเละตอนนี้พรรคเพื่อไทยเเละเครือข่ายกำลังเข้าไปในวงรอบสังหารนั้นๅเช่นกุนดังนั้นการเปิดไพ่ใหม่ขึ้นมาจุดพลุคราวนี้ต้องดูว่า พรรคใดรับเงื่อนไขนี้บ้าง ....

ลึกๆเเล้วพรรคสีส้มกำลังชึันำสังคมว่า องค์กรอิสระตามรธน.เหล่านี้ไม่อิสระจริง!  ดังนั้น ต้องรื้อระบบใหม่ในยุคหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองการเดินหมากเเบบนีัเพื่อรักษาเเฟนคลับว่าพรรคสีส้มเดินหน้าทุกมุมในการวางระบบประชาธิปไตยใหม่ให้บ้านเมืองเเละคนรุ่นใหม่ บวกกับหวังดึงคะเเนนบางส่วนจากรั้วสีเเดงที่กำลังยวบมาไว้กับกับพรรคสีส้มเพื่อเป้าหมาย 200 สส.ขึ้นไปในการเลิอกตั้งงวดหน้า!?

พรรคประชาชน แถลง การยื่นแก้ไขรธน. ประเด็นองค์กรอิสระ ต่อประธานสภาฯ เมื่อวันที่ 7 ก.ค.68

อย่าลืมว่า ในอดีตร่างกฎหมายหลายฉบับที่พรรคสีส้มผลักดันนั้น โดนตีตกถ้วนหน้า ล่าสุดการผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น วิปรัฐบาลดันร่างกฎหมายนี้ของพรรครวมไทยสร้างชาติได้ เเละจ่อตีตกร่างของพลพรรคสีส้มสองฉบับลงไป(มีการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112ด้วย  )  เพราะร่างกฎหมายของชาวสีส้มนััน วิปรัฐบาลมองออกว่าร้อนเเรงเเละเป็นของเเสลงเหมือนร่างกฎหมายคาสิโน!?!หากดันทุรังไปจะพังไวกว่าที่คาด...

ดังนั้นร่างกฎหมายเรือธงของชาวสีส้มหลายฉบับไม่มีวันที่จะบรรลุเป้า เว้นเเต่งวดหน้าพรรคสีส้มได้สส.ทะลุ 200 คนขึ้นไปจนกุมสภาพเเกนนำตั้งรัฐบาลได้..เเต่อย่าลืมว่าตอนนี้กระเเสชาตินิยม/อนุรักษ์นิยมกลับจุดติดเเละขยายวงจากเหตุการณ์ไทย-กัมพูชา บวกกับการไม่ไว้วางใจการเดินหมากของครม.เพื่อไทยเเละการขยับจังหวะของชาวสีส้ม

แฟ้มภาพ พรรคประชาชน ปราศรัยกับประชาชน

หากไล่ประวัติศาสตร์การเมืองของพรรคสีส้มไปนั้นพรรคนี้มีสามยุคในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคือพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล เเละพรรคประชาชน โดยสองพรรคคิออนาคตใหม่เเละก้าวไกลโดนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเช่นใดนั้น ....พบว่า

21 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นเวลา 10 ปี ในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรค

โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรค เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560และมีมติให้สั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ ณ วันที่มีการทำสัญญากู้เงินคือ วันที่ 2 ม.ค. 2562 และ 11 เม.ย. 2562 เป็นเวลา 10 ปี
(พรรคทำสัญญากู้เงินจากธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคจำนวนสองฉบับ รวมวงเงิน 191.2 ล้านบาท แต่การคิดอัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า ถือเป็นการให้ประโยชน์อื่นใดแก่พรรคการเมือง)

พรรคประชาชน ขึ้นแบนเนอร์ ขอแก้ไขรธน.รอบล่าสุด

7 ส.ค.2567 ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินยุบพรรคก้าวไกล ในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกลกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่า พรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข บวกกับข้อเท็จจริงปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลาสิบปี(พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคเเละคณะ)

หนึ่งในคำวินิจฉัยชี้ว่า”พฤติการณ์ของผู้ร้องที่เสนอแก้ร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายพรรคในการหาเสียงเลือกตั้งโดยใช้ประโยชน์จากสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อหวังผลคะแนนเสียงและชนะการเลือกตั้ง เป็นการมุ่งหมายให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในฐานะคู่ขัดแย้งกับประชาชน

ผู้ถูกร้องมีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์หรือทำให้อ่อนแอลง อันนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด การกระทำของผู้ถูกร้องจึงเข้าลักษณะการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอีกด้วย”

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)

เเละเหตุการณ์ยุบพรรคก้าวไกลนั้น ทำให้ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ซึ่งเป็นผู้ร้องศาลรัฐธรรมนูญว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ล้มล้างการปกครอง ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิดจริยธรรมของพรรคก้าวไกล และ สส.พรรคก้าวไกล 44 คน ที่ร่วมเสนอชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมถึงเนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำเข้าข่ายฝ่าฝืน และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเเละเเว่วว่าหลังจาก 44 สส.พรรคสัส้มเวอร์ชั่นสองไปชี้เเจงกับป.ป.ช.เเล้ว เร็วๆนี้ย่านสนามบินน้ำจะสรุปเเละชี้มูลว่า มีความผิดหรือไม่!?  โดยกระแสสะพัดหนักมากในวงคนการเมืองว่าโอกาส พรรคสีส้ม โดนเช็กบิลสูงยิ่งเพราะหลักฐานประจักษ์ชัดเเจ้ง!!!

สามเหตุการณ์เชิงลบจากการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระตามรธน.ในมุมมองค่ายสีส้มทึ่ระบุไว้นั้น คือปฐมบทการจุดพลุรื้อระบบองค์กรอิสระตามที่หัวหน้าพรรคสีส้มรุ่นที่สามดำเนินการล่าสุด
 
 

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ  หัวหน้าพรรคประชาชน

อ่านรหัสได้ว่าเหตุการณ์ที่สนามบินน้ำที่จะเกิดผลในวันข้างหน้านั้น หัวหน้าพรรคประชาชนคือ 1 ใน 44 สส.พรรคก้าวไกลที่ไปชี้เเจงกับป.ป.ช.เช่นกันเเละทราบมาว่า44คนจะขอชี้เเจงด้วยวาจาอึกครั้งหลังส่งเอกสารชี้เเจงมาเเล้ว โดยป.ป.ช.ให้เวลา 44 คนชี้เเจงอีกครั้งด้วยความเป็นธรรม ตามเเนวทางที่ประธาน ป.ป.ช.วางไว้คือยึดกฎหมาย เป็นธรรม ไม่มีอคติเเละระบบพวกพ้อง ผิด/ถูกตัดสินตามหลักฐานเเละเจตนา  

ควรย้อนมองสองคดีที่พรรคอนาคตใหม่เเละก้าวไกลโดนตัดสินไปนั้น ศาลรธน.ก็ดำเนินการในหลักการนี้เช่นกันเเละผลคำวินิจฉัยก็ออกมาเช่นนั้น...

ดังนั้น เกมที่ชาวสีส้มวางไว้ล่าสุด รอดูว่า จะเกิดผลบวกหริอลบกับชาวสีส้ม