svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ศักดา" ชี้เปรี้ยง  "บิ๊กอ้วน" โยกย้าย 2 อธิบดีมหาดไทย ย้ายเพื่อ"ล้างบาง" 

"ศักดา นพสิทธิ์" นักวิเคราะห์การเมือง ชี้เปรี้ยง "ภูมิธรรม " สั่งโยกย้าย 2 อธิบดีกระทรวงมหาดไทย หวังล้างบางบิ๊กขรก.ขั้วสีน้ำเงินมากกว่าเหตุผลอื่น

จากกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.มหาดไทย  เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี  (ครม. ) เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568  โยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย รวม 4 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย พร้อมมีมติให้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง

นอกจากนั้น ยังมีมติให้ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย พร้อมโยกย้าย  ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี มาเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

การเข้ามารับตำแหน่งมท. 1  ของ นายภูมิธรรม เพียงแค่สามวัน แต่สั่งย้ายขรก.ระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย  จึงถูกจับตามอง ว่านอกจากอ้างเพื่อความเหมาะสม แต่เหตุผลลึกเรื่องนี้คืออะไรกันแน่

จากกรณีที่เกิดขึ้น นายศักดา นพสิทธิ์ นักวิเคราะห์การเมือง ให้ความเห็นต่อเนชั่นทีวี ว่า    เรื่องนี้มองได้สองประเด็น 1.เป็นการโยกย้ายขรก.ชั้นผู้ใหญ่ระดับอธิบดีนอกวาระ  2. อาจไม่ถึงโยกย้ายเพื่อเตรียมเลือกตั้ง  เพราะว่าในส่วนอธิบดีซึ่งทำงานในส่วนกลาง ซึ่งถ้าหากจะเกี่ยวข้องคือการสั่งการไปยังระดับภูมิภาค ซึ่งวันนี้ยังไม่มีร่องรอยการเลือกตั้ง 

"ผมมองว่า เปลี่ยนตัวเพื่อความเหมาะสมตามความต้องการรมว.มหาดไทยมากกว่า สำคัญกว่านั้น การโยกย้ายอธิบดีสองกรม ตรงนี้ เป็นความตรงข้ามและย้อนแย้งกับรมว.มหาดไทย เพราะท่านเข้ารับตำแหน่ง ท่านพูดก่อนหน้านี้ว่า ภายในสามเดือน  ผู้ว่าฯ หรือ  ขรก.ระดับอธิบดี คนใดปล่อยเกียร์ว่าง อาจต้องมีมาตรการ จะลงโทษภาคทัณฑ์ หรือโยกย้าย ก็แล้วแต่"

นายศักดา นพสิทธิ์ นักวิเคราะห์การเมือง

"แต่นี่ยังไม่ถึงสามเดือน ยังไม่มีเหตุเชิงประจักษ์ มองว่า ท่านรมต.ใช้อำนาจโยกย้ายขรก.ประจำ ซึ่งอาจมองได้ว่านี่ไม่ใช่ย้ายเพื่อความเหมาะสม หรือเพื่อประโยชน์สูงสุดของราชการหรือไม่ ประการสำคัญ เราเห็นร่องรอยมาว่าอธิบดีทั้งสองกรม รวมถึงอธิบดีกรมอื่น ที่ยังไม่ได้ถูกโยกย้าย เปลี่ยนแปลง รวมถึงปลัดกระทรวง เป็นอีกสีหนึ่ง ตามที่เขาพูดกัน  ทำให้ประชาชนอดมองไม่ได้ว่า นี่เป็นการโยกย้ายเพื่อล้างบางมากกว่า"   

นายศักดา กล่าว่า แต่ถ้าเราเปรียบเทียบกรณีที่ดินของรัฐ ที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์   รมว.มหาดไทย ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาศึกษากรณีที่อธิบดีกรมที่ดิน ไม่ดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลฎีกาให้ทำการเพิกถอนที่ดินที่ออกโฉนดไปแล้วของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)  และผลการตั้งคณะทำงาน เห็นได้ว่า เป็นการออกโฉนดที่ไม่ถูกต้อง ฉะนั้นเหตุผลก่อนหน้าของอธิบดีกรมที่ดินที่อ้างว่าไม่สามารถ  ที่จะเพิกถอนโฉนดที่ออกไปแล้วได้ เพราะหลักเขต  หรือครอบครองปรปักษ์ อยู่ก่อนก็ดี  กลายเป็นข้อเทจจริงถูกเบี่ยงเบนไป ซึ่งเรื่องนี้ต้องตระหนักยึดถือคำพิพากษาของศาลเป็นหลัก 

ศักดา นพสิทธิ์  นักวิเคราะห์การเมือง

ฉะนั้น คณะทำงานที่ รมว.มหาไทย แต่งตั้ง มีเหตุผลและน้ำหนักดีกว่า อธิบดีกรมที่ดินคนก่อน ในกรณีนี้ จะเห็นได้ว่าถ้าเป็นอย่างนี้จริงแล้ว อธิบดีกรมที่ดิน น่าจะไม่มีความเหมาะสม ในการดำรงตำแหน่ง เพราะไม่ดำเนินการตามนโยบายของกรมที่ดิน ไม่ปฏิบัติตามในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมายตามคำพิพากษาของศาลฏีกา  อย่างนี้ รมว.มหาดไทย ควรพิจารณาโยกย้ายเพื่อความเหมาะสมได้ มากกว่า อธิบดีสองท่าน แต่เรายังไม่เห็นท่านโยกย้าย ซึ่งตรงนี้ จะเป็นการย้อนแย้งหลักการเหตุผลที่รมว.มหาดไทย อ้างว่า ย้ายเพื่อความเหมาะสมในการบริหารราชการ 

“ผมตั้งข้อสังเกต การโยกย้าย ถ้าหากไม่สมเหตุสมผล ไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล  หรืออธิบายได้  ก็มิอาจปฏิเสธได้เลยว่า เป็นการโยกย้ายเพื่อการล้างบาง “  นายศักดา กล่าวย้ำ