
9 กรกฎาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการการปกครองที่มี นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน มีวาระพิจารณาแนวทางมาตรการแก้ปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา
โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ซึ่งติดภารกิจ และได้มอบหมาย นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ชี้แจงแทน ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ รองผู้อำนวยการลูกค้าสัมพันธ์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ผู้แทนจากเลขาธิการคมณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม
โดย ประธานกมธ.การปกครอง ได้พุ่งเป้าไปที่การตัดไฟฟ้ากับสัญญาณอินเตอร์เน็ตทางฝั่งกัมพูชา ว่า สถานะล่าสุดเป็นอย่างไร
ซึ่ง นายขจรเกียรติ อัศวเบ็ญจาง รองผู้อำนวยการลูกค้าสัมพันธ์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ชี้แจงว่า ปัจจุบัน กฟภ. มีสัญญาซื้อขายกับกัมพูชา 8 สัญญา ในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ จ.สุรินทร์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด โดยกัมพูชา ใช้ไฟมากที่สุดประมาณ 54 เมกะวัตต์
แต่สถานะการจ่ายไฟตอนนี้ กัมพูชาหยุดการใช้พลังงานไฟฟ้าของ กฟภ.เป็นศูนย์ทุกจุด ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นการหยุดใช้พลังงานไฟฟ้าเอง และทางไทยได้ทำหนังสือสอบถามเรื่องการใช้ไฟฟ้าไปกับกัมพูชาแล้ว
ขณะนี้รอการตอบกลับ ถ้ากัมพูชาตอบกลับว่าจะไม่ใช้ ทาง กฟภ.จะเข้าสู่กระบวนการยกเลิกสัญญา
แต่ถ้าไม่มีการตอบกลับทาง กฟภ. จะเรียกเก็บค่าใช้พลังงานขั้นต่ำตามสัญญาอยู่ที่ 70%
"กฟภ.ยังจ่ายไฟฟ้าตามปกติ แต่คู่สัญญาไม่ดึงไฟฟ้าไปใช้เอง ซึ่งที่ผ่านมา กัมพูชาจะจ่ายค่าไฟ 110 ล้านบาท ต่อเดือนทั้ง 8 สัญญา แต่หลังจากนี้ถ้าไม่มีการใช้ไฟฟ้าเลยจะคิดค่าไฟฟ้าพลังงานขั้นต่ำกรณีไม่ใช้อยู่ที่ 70%"
นายขจรเกียรติ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีนำไฟฟ้าไปใช้กับคอลเซ็นเตอร์หรือบ่อนการพนันหรือไม่นั้น ไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่รู้ว่าผู้ซื้อจากทางฝ่ายกัมพูชา มีการจ่ายไฟไปให้ใครบ้าง
ด้าน เลขาฯสมช. ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาทางฝ่ายไทยยังไม่ได้เป็นฝ่ายตัดไฟ แต่ทางกัมพูชาเป็นฝ่ายตัดก่อน ซึ่งเราทราบข้อมูลว่าขณะนี้ไฟฟ้าของกัมพูชาไม่ค่อยเสถียร หากซื้อจากฝั่งไทยจะเต็มประสิทธิภาพมากกว่า
อย่างไรก็ตาม เรามุ่งหมายแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติเป็นหลัก ซึ่งจะพิจารณาจาก 3 ส่วน คือ เป็นเรื่องที่เกิดจะส่งผลกระทบกว้างขวาง มีความรุนแรง และมีความเชื่อมโยงสลับซับซ้อน ซึ่งยืนยันว่า จะพิจารณาทุกอย่างด้วยความรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง ทั้งสถานพยาบาล และโรงเรียนที่ไม่เกี่ยวข้องในส่วนนี้
เลขา สมช. กล่าวอีกว่า จากการที่ทางกัมพูชาไม่ใช้ไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตจากประเทศไทยทำให้สถิติการก่ออาชญากรรมข้ามชาติลดลงอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี 67 กับปลายปี 68 ซึ่งการควบคุมตรงนี้ถือว่าได้ผล
ขณะที่ ผู้แทน กสทช. ชี้แจงในส่วนของการสัญญาณอินเตอร์เน็ต ว่าปัจจุบันไม่มีการส่งสัญญาณระหว่างผู้ให้บริการไทยกับกัมพูชา
ส่วนมาตรการในอนาคตของ กสทช. หากสถานการณ์กลับมาเป็นปกติจะมีการกำหนดจุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศให้เป็นจุดเดียวกันในแต่ละพื้นที่
รวมถึงสืบเนื่องจากมีการตัดสายสัญญาณกันไปเรียบร้อยแล้ว ในอนาคต กสทช.จะกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตจะต้องแยกสายสื่อสารระหว่างกันให้สามารถตรวจสอบได้
นอกจากนี้ เลขาฯสมช. ยังชี้แจงเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ขัดแย้งชายแดนไทย - กัมพูชา ว่า ตอนนี้ ยังมีปัญหาเรื่องเส้นเขตแดน ที่ยังมีพื้นที่อ้างสิทธิ์ของทั้งสองฝ่าย ซึ่งเราก็มีกรอบการทำงานชัดเจนโดยใช้การพูดคุย และ MOU 43
ส่วนมาตรการต่างๆที่ผ่านมา มีการประชุม สมช.3 ครั้ง ยึดหลักปกป้องอธิปไตย ส่วนการเตรียมการด้านการทหาร ก็เป็นการเตรียมการตามหน้าที่ ขณะที่มาตรการ 4 ระดับ ตอนนี้ไทยใช้แค่ระดับ 1 และ 2 คือ จำกัดบุคคล จำกัดเวลาเปิด-ปิด ส่วนปิดจุดผ่านแดนเฉพาะที่ และปิดตลอดแนวชายแดน ยังไม่ได้ใช้