"นารีพิฆาต" มารศาสนจักร "พระไม่กลัวทำผิด" โทษสูงสุดคือ "สึก" ไม่มีโทษ "ติดคุก"

9 กรกฎาคม 2568 รศ.ดร.อำนาจ ยอดทอง ประธานหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาศาสนากับการพัฒนา ภาควิชามนุษยศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

 

 

 

 

 

1. ปัจจัยที่ทำให้สีกากับพระมีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน

 

 

// ปัจจัยฝ่ายสีกา //

 

- เกิดจากความเหงา

- เห็นพระเป็นที่พึ่งทางใจ

- เห็นพระเป็นที่พึ่งทางวัตถุ

- มุมมองทัศนคติเรื่องเซ็กส์ที่เปลี่ยนไป

 

 

// ปัจจัยฝ่ายพระ //

 

- พระหย่อนยานด้านธรรมวินัย + มีสะพานเชื่อมโยง

- พระบวชมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีช่วงเวลาวัยรุ่น ข้ามช่วงวัยรุ่น ทำให้มีประสบการณ์น้อยในการรับมือกับประเด็นชู้สาว

- อาศัยความเป็นพระในการกระทำผิด

 

 

// ปัจจัยสังคมและสิ่งแวดล้อม //

 

- สื่อเเละเทคโนโลยี ทำให้พระกับสีกาใกล้ชิดมากขึ้น เช่น วีดีโอคอล แชทพูดคุยทางสื่อสังคมออนไลน์

 

 

2.ทำไมสีกาไม่มีความรู้สึกผิดเมื่อมีสัมพันธ์กับพระ

 

- เป็นเพราะว่าสีกาได้ทำพฤติกรรมซ้ำซาก ทำหลายครั้งจนไม่รู้สึกผิด

- ความรู้สึกด้านชาทางจริยธรรม

 

3.”นารีพิฆาต” มีจริง และมีถึง 3 ประเภท

 

หนึ่ง นารีพิฆาตหวังผลประโยชน์ =>

ต้องการทรัพย์สิน เงินทอง เป้าหมายคือ พระชั้นผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งสูง เริ่มต้นจากการเป็นอุบาสิกา ใกล้ชิดสนิทขึ้นเรื่อยๆ

สอง นารีพิฆาตชิงอำนาจ =>

ต้องการล้มผู้นำทางศาสนาระดับต่างๆ เพื่อผลทางการเมืองในวงการผ้าเหลือง เช่น ทำลายชื่อเสียง เพื่อแย่งชิงตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งเจ้าอาวาส หรือเจ้าคณะระดับต่างๆ แย่งชิงอำนาจในสังคมชุมชน เช่น วัดมีรายได้เยอะ  วัดไร่ขิง วัดหลวงพ่อโสธร ฯลฯ  

สาม นารีพิฆาตเชิงอิสระ =>

ไม่ได้มีอะไรเเอบแฝง  ความผูกพันเกิดขึ้นร่วมกันระหว่างพระกับผู้หญิง

 

 

 

 

 

"พระไม่กลัวที่จะกระทำผิด" เพราะไม่มี "กฎหมายจับเข้าคุก" โทษพระสูงสุดคือ "สึก"

"พระหลายรูปจึงกล้าทำ" เพราะอย่างมากก็ "แค่สึก" หรือ "ลาสิกขา"