
7 กรกฎาคม 2568 พล.ท.กนก เนตระคะเวสนะ อดีตแม่ทัพภาคที่2 และอดีตผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เคยรับผิดชอบดูแลพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา กล่าวยืนยันว่า ทั้ง 3 ปราสาทนี้ (ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาควาย) อยู่ในเขตประเทศไทย โดยยึดตามแผนที่ของกองทัพไทย คือ 1 ต่อ 50,000 มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายชัดเจน ในช่วงปี 2551 ได้มีรั้วกั้นแนวชายแดน โดยทหารไทยเป็นผู้ถือกุญแจเปิด-ปิด ตามเวลา หากนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา จะขึ้นมาเที่ยวที่ปราสาทตามเมืองธม จ.สุรินทร์ จะต้องมารับบัตรคิว ก่อนผ่านขึ้นไปเที่ยวบนปราสาท
"ผมได้ถ่ายภาพร่วมกับ รมช.กลาโหมกัมพูชา และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ในสมัยนั้น ได้ถ่ายภาพนี้ไว้ในวันที่ 13 ส.ค. 51 ซึ่งยืนอยู่ที่รั้วทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ฝั่งประเทศไทย มีภาพของ พล.ท.เจีย มอญ ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 พล.ต.กนก ผบ.กกล.สุรนารี (ยศในขณะนั้น) , พล.อ.เนียง พาด รมช.กลาโหม และ พล.ต.สลัยดึ๊ก (ยศในขณะนั้น) ไว้เป็นหลักฐาน"
สำหรับรั้วกันแนวชายแดน ปราสาทตาเมือนธม ถูกรื้อหลังการสู้รบปี 2554 เนื่องจากรัฐบาลขณะนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ มีนโยบายรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูา ลดความตึงเครียดชายแดน และส่งเสริมการท่องเที่ยว
วันเดียวกัน ที่จุดผ่านแดนบ้านคลองลึก สระเเก้ว คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ (กมธ.มั่นคงฯ) นำโดย นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ลงพื้นที่เป็นวันที่ 2 เพื่อติดตามตาม ปัญหาความมั่นคงชายเเดน เเละการบริหารกิจารชายเเดนไทย-กัมพูชา ปัญหาคลอเซ็นเตอร์ และ การค้ามนุษย์ ปัญหายาเสพติด
โดยได้รับฟังสรุปติดตามสถานการณ์ มีกลุ่มประชาชน ผู้ประการธุรกิจ ขนส่งสินค้า ชิปปิ้ง มากว่า 50 คน มายื่นหนังสือร้องเรียนถึงปัญหา หลังก่อนหน้า น.ส.เเพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาแต่ไม่สามารถเข้าถึง โดยยื่นข้อร้องเรียน 7 ข้อ ไปยัง กมธ.ความมั่นคง เป็นเสียงจากคนชายเเดน อาทิ ปัญหาเกิดขึ้นในพื้นที่อุบลราชธานี เเต่ผู้ได้รับผลกระทบคือ 5 จังวัด ,อยากให้รัฐบาลเจรจา เพื่อให้ทางกัมพูชาเปิดด่าน ระบายสินค้าออกไปได้ก่อน , การกำหนดเวลาปิดด่าน ไม่ได้ช่วยเเก้ปัญหาเเก๊งคลอเซ็นเตอร์ สเเกมเมอร์ อยากให้ใช้ทางการทูตเร่งเจรจา
นายรังสิมันต์ ระบุว่า มูลค่าการค้าขายไทยกับพูชามูลค่านับเเสนล้าน หากยังไม่มีทางออก ผลกระทบเกิดขึ้นกับทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องมีเเผนการเยียวยารับมือ การมีตลาดรองรับ เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการ ยืนยันว่า จะนำเรื่องร้องเรียนผู้ประกอบการ ไปผลักดันให้มากขึ้น ให้มีมาตรการมารองรับผลกระทบกับประชาชน เเละผลกระทบที่เกิดขึ้นเเล้ว
จากนั้นคณะของ นายรังสิมันต์ เดินติดตามสถานการณ์บริเวณหน้าด่าน พรมเเดนคลองลึก -ติดเส้นเเนวพรมเเดนปอยเปต กัมพูชา โดยมี พันเอก เมธี คำเต็ม ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทกหารพรานที่ 12 รายงานสถานการณ์บริเวนด่านพรมเเดน ซึ่งปัจจุบัน ก็ยังมีชาวกัมพูชาที่เดินทางออก
นายรังสิมันต์ บอกว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นทำให้เศรษฐกิจ 2 ประเทศมีปัญหา เเต่ก็ต้องเเฟร์ๆ การปิดด่านวันนี้ประเทศไทยไม่ได้ปิด ประตูของฝั่งไทยเปิดอยู่ เเต่ประชาชนเรียกร้องให้เปิดด่าน เพื่อให้การค้าเปิดด่าน ดังนั้นการค้าขาย 2 ประเทศ ต้องยอมรับว่า เป็นปัญหาอยู่ว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร ผลกระทบ เกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย หากคลี่คลายปมปัญหาได้ จะเป็นประโยชน์ กับประชาชน ซึ่งถือเป็นโจทย์ เเละ เป็นความท้ายทายของไทยเวลานี้
นายรังสิมันต์ บอกว่า การเจรจาให้กัมพูชาเปิดด่าน จะต้องมีการพูดคุย แต่เรามีข้อจำกัดคือภาพของรัฐบาล ที่มีทั้งเรื่องคลิปเสียงหลุด และความสัมพันธ์ส่วนตัว ทำให้การเจรจาเพื่อเปิดด่านร่วมกันยากขึ้นเรื่อยๆ หากเราฟังจากคลิปเสียงหลุด กัมพูชาบอกให้ไทยเปิดก่อน แต่ความจริงไทยเปิดอยู่ แต่เขาคงหมายถึงการเปิดเป็นเวลาเหมือนเดิม ไม่มีการจำกัดการเข้าออกของคน เพราะแนวทางที่รัฐบาลและทีมไทยแลนด์ใช้ คือ การควบคุมคน ป้องกันไม่ให้คนที่ไปเป็นคอลเซ็นเตอร์ หรือ คาสิโน สามารถเข้าออกได้โดยง่าย ซึ่งเป็นธงที่รัฐบาลพยายามทำ
ประเด็นคือ กัมพูชาอยากให้เปิดด่านเหมือนเดิม เพราะธุรกิจคอลเซ็นเตอร์เป็นธุรกิจหลัก แต่วันนี้กัมพูชา วัดใจด้วยการปิดด่านทั้งหมด เพื่อทำให้เศรษฐกิจของไทยได้รับความเสียหาย ซึ่งเขาก็ได้รับความเสียหาย แต่เขาไม่แคร์เรื่องเหล่านั้น
ดังนั้น เมื่อจะกลับมาเปิดด่านใหม่ สิ่งที่รัฐบาลต้องคิดมี 2 อย่าง 1.มาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 2.การเปิดด่าน ไม่ควรใครเปิดก่อน ใครเปิดหลัง แต่ควรเปิดพร้อมกัน แต่ตอนนี้ยังติดปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล ที่เป็นลักษณะของศัตรูกัน การเจรจาในขั้นนั้นจึงมีปัญหาอยู่
ส่วนกรณี ฮุนเซน และฮุนมาเนต ระบุชัดว่าไทย จะต้องมีการเปิดด่านก่อนนั้น การเจรจายังจะได้ผลหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ทุกประเทศย่อมพูดในสิ่งที่ตนเองได้เปรียบอยู่เเล้ว เเต่การเจรจามีความจำเป็นอยู่ การจะทำให้การเจรจาได้ผล คือ การแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพ ที่จะหารือกันในส่วนของจังหวัด เนื่องจากมีรายชื่อบางคนที่เกี่ยวข้องกับกระเป๋าเงิน และ ผู้มีอำนาจในกัมพูชา เชื่อว่า การเจรจาจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ได้หมายความว่าทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หมดไป แต่อย่างน้อยหากมีความคืบหน้าไปบ้าง การเจรจาก็จะง่ายขึ้น
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สำหรับบรรยากาศการเมืองไทยขณะนี้ มีเรื่องความชอบธรรมของรัฐบาล หรือ การที่เราจะมีรัฐบาลที่มั่นคงกว่านี้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเจรจา ดังนั้นจึงมีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเจรจา และต้องยอมรับว่าผู้มีอำนาจในกัมพูชา เขาติดตามการเมืองไทยอย่างละเอียด เขาคงจะประเมิน และหาจังหวะที่จะทำให้ตัวเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ
สำหรับเรื่องการซุกเงิน ทรัพย์สินไว้ในกัมพูชาของนักการเมืองไทย สรุปเเล้วมันมีจริงไหม นายรังสิมันต์ ยืนยันว่า มันมีอยู่เเล้ว รู้ด้วยว่าธนาคารอะไร จริงๆ ธนาคารก็เกี่ยวพันคนในตระกูลฮุน เรารู้ว่ามีการซุกเงินกันอยู่ เเละจริงๆ อาจไม่ใช่ 7 คน อาจจะมากกว่านั้น เเละยังทราบว่าคนใหญ่ คนโต ของทางฝั่งไทยก็เกี่ยวพันกับธุรกิจสีเทาอยู่มาก โดยเฉพาะ เฮีย ต.ที่พยายามเน้นย้ำ ที่เกี่ยวกับการพาคนไปเป็นคอลเซ็นเตอร์ ยืนยันว่า มีหลักฐาน เเละการลงพื้นที่ครั้งนี้ ก็ได้รับข้อมูลมากพอสมควร ถือว่าเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญสำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้