สแกน 9 ตุลาการศาล รธน. ผู้ชี้ชะตา “นายกอิ๊งค์” คดี "อังเคิลฮุน"

การเมืองไทยในวันนี้ ( 1 ก.ค.) ถนนทุกสายมุ่งตรงไปที่ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ย่านแจ้งวัฒนะ เพื่อติดตามการประชุมศาลรัฐธรรมนูญนัดสำคัญ หลังจากก่อนหน้านี้ สำนักงานศาล รธน. ได้ออกเอกสารข่าว เลื่อนการประชุม ซึ่งโดยปกติแล้ว ศาล รธน.จะมีการประชุมวันพุธของทุกสัปดาห์อยู่แล้ว แต่เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาล รธน.ได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย ระหว่างวันที่ 23 - 26 มิ.ย.68 จึงเลื่อนมาประชุมในวันอังคารที่ 1 ก.ค. 68 นี้แทน   
 

การประชุมศาลรธน. วันที่ 1 กรกฎาคม  ไม่ใช่เพียงถกวาระปกติทั่วไป
 

หากแต่ยังตกเป็นที่จับตามอง ถึงฝ่ายเลขานุการนำวาระ คำร้อง ของประธาน สว.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะความเป็นนายกฯ ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่  กรณี ปมคลิปเสียง "อังเคิลฮุน" "ฮุนเซน" กับหลานอิ๊งค์  เข้าพิจารณา และจะออกมาในรูปแบบใด

รับหรือไม่รับคำร้อง!
 

แนวทางที่ 1

 

-รับคำร้องและขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

 

-รับคำร้อง แต่ไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่

แนวทางที่ 2

 

-ไม่รับคำร้อง  ตีตกแพทองธาร ยิ้มได้

 

แนวทางที่ 3

 

เลื่อนพิจารณาเรื่องนี้ออกไป  ศาล รธน.ขอเอกสารเพิ่มเติม  (ต่อลมหายใจ) 

 

อย่างไรก็ตาม คำร้องของ สว.ที่ส่งให้ศาล รธน.ได้ระบุไว้ด้วยว่า ขอให้ศาล รธน.วินิจฉัย  2 ข้อ คือ 1. การสิ้นสุดความเป็นนายกฯ  และ 2 ขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยศาล รธน. 

เมื่อคำร้องเป็นเช่นนี้ จึงต้องมาลุ้นกันในเบื้องแรกก่อนเลยว่า  ศาล รธน.จะพิจารณา ตามคำขอ โดยเฉพาะข้อ 2 ขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่า ศาล รธน.วินิจฉัย หรือไม่

ใครเป็นใคร ตามศาสตร์แขนงวิชา เขียนคำวินิจฉัย
 

สำหรับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ได้เข้าร่วมพิจารณาคดี และลงมติในคดีนี้  9 คน ประกอบด้วย

-นายนครินทร์  เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งครบวาระดำรงตำแหน่งแล้ว เมื่อเดือน พ.ย.67 แต่ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีตุลาการศาล รธน. เข้ามาทำหน้าที่

เช่นเดียวกับ

- นายปัญญา อุดชาชน ครบวาระตำแหน่งในช่วงเดือน พ.ย. 67  แต่ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีตุลาการศาล รธน. เข้ามาทำหน้าที่

-นายอุดม  สิทธิวิรัชธรรม

-นายวิรุฬห์  แสงเทียน

-นายจิรนิติ หะวานนท์

-นายนภดล เทพพิทักษ์

-นายบรรจงศักดิ์  วงศ์ปราชญ์

-นายอุดม รัฐอมฤต

-นายสุเมธ  รอยกุลเจริญ



 

 

ตามสัดส่วนแขนงวิชา
 

ผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐประศาสตร์ หรือรัฐประศาสนศาสตร์  1 คน

นั่นก็คือ อ.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์   ประธานศาล รธน.ศาสตราจารย์ สาขาวิชาการเมืองการปกครอง ฯลฯ

ผู้พิพากษาในศาลฏีกา  3 คน

-อุดม สิทธิวิรัชธรรม อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฏีกา ประธานแผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตฏีกาในศาลฏีกา ฯลฯ

-วิรุฬห์ แสงเทียน อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฏีกา ประธานแผนคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฏีกา ฯลฯ

-จิรนิติ  หะวานนท์ อดีตผู้พิพากษาศาลฏีกา ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฏีกา ฯลฯ

ผู้ทรงคุณวุฒิ อดีตขรก.ระดับสูง 2 คน

-ปัญญา  อุดชาชน ผู้เชี่ยวชาญด้านคดีและวิชาการ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ อดีตเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญฯลฯ

-นภดล เทพพิทักษ์ อดีตรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เอกอัครราชทูต กรุงไคโร/ เวลลิงตัน / เวียงจันทน์ ฯลฯ

ตุลาการศาลปกครองสูงสุด  2 คน

-บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ อดีตตุลาการศาลปกครองสูงสุด หัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุดฯลฯ

-สุเมธ รอยกุลเจริญ อดีตตุลาการศาลปกครองสูงสุด รองประธานศาลปกครองสูงสุด

ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์   1 คน

-อุดม รัฐอมฤต อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตกรรมการกฤษฏีกา


 

ไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ได้
 

-นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาล รธน.ซึ่งอยู่ในสัดส่วน ผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐประศาสตร์ หรือรัฐประศาสนศาสตร์  1 คน เคยให้ความเห็นไว้เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา ภายหลังผู้สื่อข่าวถามว่า การพิจารณาคดีนี้ ไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ว่า ก็มีความเป็นไปได้ แต่ตอนนี้ต้องให้คณะตุลาการตรวจเอกสารครบถ้วนก่อน ซึ่งหากมีการพิจารณา ก็จะออกได้ 2 ทาง คือ รับ หรือไม่รับเรื่อง

แต่วันที่ 1 ก.ค. 2568 จะมีคำสั่งได้เลยหรือไม่นั้นยังไม่ทราบ ต้องรอตรวจเอกสารก่อน และเข้าองค์คณะ ทุกครั้งที่เราประชุมจะต้องมีองค์คณะครบ 9 คน และหากวันที่ 1 ก.ค. 68 ศาลรัฐธรรมนูญ รับพิจารณาคดีคลิปเสียง จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น ก็ไม่จำเป็นจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เสมอไป ซึ่งเราก็จะดูว่า มีข้อเท็จจริงว่าการหยุดปฏิบัติหน้าที่จะทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีที่เรารับคดีแต่ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

ฉะนั้นจึงต้องจับตาการประชุมศาล รธน. วันที่ 1 ก.ค. 68 ผลจะออกมาแนวทางใด องค์คณะศาล รธน. ที่มาจากหลายแขนงวิชา รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ กฎหมายมหาชน จะมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ อย่างไร ต้องจับตาอย่ากระพริบ