20 มิถุนายน 2568 ปมร้อนการเมืองเกี่ยวกับเสถียรภาพรัฐบาล ภายหลังพรรคภูมิใจไทย ถอนตัวจากพรรคร่วมหลังมีการปล่อนคลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ ฮุนเซน ขณะที่พรรคร่วมที่เหลือมีการเรียกประชุมเพื่อกำหนดท่าที โดยหนึ่งในพรรคร่วมที่มีความชัดเจนแล้วคือ พรรคประชาธิปัตย์
ที่ล่าสุดออกแถลงการณ์ ยืนยันร่วมรัฐบาลแพทองธารต่อ เพื่อให้ประเทศเดินหน้า พร้อมเรียกร้องแสดงท่าทีชัดเจน ปมปัญหาสัมพันธ์ "ไทย-กัมพูชา" เพื่อเรียกความเชื่อมั่นประชาชน พร้อมย้ำว่า ไม่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนอกระบอบประชาธิปไตย
กรณีดังกล่าว ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ พรรคประชาธิปัตย์ อดีต สส.แบบบัญชีรายชื่อ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฝ่ายโยธาและจราจร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ - Dr.Samart Ratchapolsitte" ระบุถึงเรื่องดังกล่าวว่า
ปชป.กอดเก้าอี้!
ผิดหรือถูก? วัดที่ผลเลือกตั้ง
ในที่สุด คณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีมติให้ ปชป.อยู่ร่วมรัฐบาลต่อไป ด้วยเหตุผลหลักเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดิน และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของประเทศที่เผชิญอยู่ได้รับการคลี่คลายอย่างต่อเนื่องต่อไป
การตัดสินใจร่วมรัฐบาลต่อไปไม่ได้ผิดคาดสำหรับผม คิดอยู่แล้วว่า กก.บห.จะมีมติออกมาเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่า กก.บห.ไม่ได้ติดใจในบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ที่ประชาชนจำนวนมากกังขาโดยเฉพาะข้อความ “ไม่อยากให้ Uncle ไปฟังคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา อย่างแม่ทัพภาคที่ 2” และ “ถ้าท่านอยากได้อะไร ก็ให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้” แม้จะอ้างว่าเป็น “เทคนิคการเจรจา” ก็ตาม
เหตุผลที่อ้างมาในการอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไปนั้น ฟังดูดี ใช่ไหม? แต่ผมขอถามกลับว่า “ที่ผ่านมามีปัญหาเฉพาะหน้าอะไรบ้างที่ได้รับการคลี่คลาย?” และ “เป็นปัญหาเฉพาะหน้าของประเทศและพี่น้องประชาชน หรือของใครกันแน่?
โลกวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ประชาชนไม่ได้ต้องการคำพูดไพเราะ คำแถลงการณ์สวยหรู แต่ต้องการการกระทำที่เหมาะสม จริงใจและจริงจัง ประชาชนไม่ได้มองการเมืองด้วยความอดทนแบบเดิม พรรคที่ไม่ชัดเจนกับสิ่งที่น่ากังขา จะไม่ได้รับการอภัย