svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

จี้ นายกฯ ยุบสภา เซ่นปมคลิปหลุด "ลาออก-รัฐประหาร" ไม่ใช่ทางออก

ปชน. จี้ นายกฯ ยุบสภา เซ่นปมคลิปหลุดคุย "ฮุนเซน" ชี้ "ลาออก-รัฐประหาร" ไม่ใช่ทางออก เรียกร้อง "พรรคร่วมรัฐบาล" ถอนตัวสร้างรัฐบาลใหม่ที่ชอบธรรม

19 มิถุนายน 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีคลิปหลุดของ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร และ สมเด็จฮุนเซน รวมถึงกรณีการลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลของ "พรรคภูมิใจไทย" ตลอดจนการลาออกของ นายภราดร ปริศนานันทกุล จากตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ว่า  กรณีคลิปเสียงหลุด ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายของ แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน ในการบริหารราชการแผ่นดินไปจนหมดสิ้นแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้การแต่งตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่มีการตระบัดสัตย์จัดตั้งรัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้ว 

ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลแบบนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาใหญ่ของประเทศได้ ไม่สามารถส่งมอบคำสัญญาต่างๆ ไม่ว่าจะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การปฏิรูปกองทัพ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ที่ประชาชนวันนั้นอาจจะพอมีความหวังอยู่บ้างว่า พรรคเพื่อไทยที่เคยเก่งเรื่องเศรษฐกิจจะสามารถแก้ไขปัญหาได้

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า แต่สองปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ และทำลายความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อการบริหารราชการแผ่นดินมาโดยตลอด เหตุการณ์เมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.2568) เป็นเหตุการณ์ที่นายกรัฐมนตรีทำลายความเชื่อมั่นของผู้นำประเทศไปจนหมดสิ้น 

บรรยากาศในสังคมเมื่อวานนี้ มีข้อเรียกร้องหลายอย่างที่ ทั้งให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจยุบสภา ให้นายกฯ ลาออก รวมทั้งการเรียกร้องให้เกิดการใช้อำนาจนอกระบบเช่น "การปฏิวัติรัฐประหาร"  

ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนตั้งคำถามกับตัวเองว่า ที่ต้องการคืออะไร เชื่อว่าประชาชนต้องการรัฐบาลที่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้ ดังนั้นทางออกเดียวที่จะได้รัฐบาลที่แก้ปัญหาให้กับประเทศได้ คือ รัฐบาลที่มีความชอบธรรม ได้รัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย สิ่งหนึ่งที่อยากให้สื่อสารคือ "การปฏิวัติรัฐประหารไม่ใช่ทางออก" 

ขณะที่ การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียงพอหรือไม่เพียงพออย่างไรนั้น จากสมการ ตัวเลข สส.แต่ละพรรคในสภาฯ ตอนนี้ รวมถึงจุดยืนของพรรคประชาชน ที่เราประกาศมาโดยตลอด ย้ำว่า เราจะไม่เป็นรัฐบาลภายใต้รัฐสภานี้แน่นอน รวมถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา , พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รวมถึงท่านอื่นๆ ส่วนตัวคิดว่าใช้กระแสเรียกร้องให้นายกฯลาออก ภายใต้สมการทางการเมืองแบบที่เป็นอยู่และแคนดิเดตนายกฯที่เหลืออยู่ไม่ใช่ทางออก ไม่ใช่รัฐบาลที่ดีที่สุด 

“ดังนั้น ด้วยบริบทสถานการณ์และจุดยืนของพรรคประชาชนคือ การที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจในการยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งใหม่ เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ  รวมถึงขอเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาล ที่ยังไม่ได้ออกมาประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ถ้าหากคิดเห็นตรงกันว่า การใช้อำนาจนอกระบบไม่ใช่ทางออก รวมทั้งตัวแคนดิเดตนายกฯ อย่างเดียวไม่ใช่ทางออก ถ้าไม่ต้องการอยู่ในอำนาจ เพื่อต่อรองตำแหน่งต่างๆ แล้ว ต้องการสร้างรัฐบาลที่มีความชอบธรรมมากกว่า ขอเรียกร้องให้หลายพรรคที่จะมีการประชุมวันนี้ อยากให้มีมติออกมาว่าประกาศถอนตัวการร่วมรัฐบาลเช่นเดียวกัน” นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า ถ้าหากวันนี้มีการประกาศยุบสภา พรรคประชาชนก็พร้อมเลือกตั้งทันที โดยเฉพาะนโยบายที่เราได้สะสมมา เรามีชุดกฎหมายอีกหลายชุดที่ตนเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า หากเราได้รับความไว้วางใจจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนภายใต้การประชุมสภาสมัยแรก เราพร้อมที่จะผลักดันกฎหมายทุกฉบับ

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนอยากให้ประชาชนทุกคน ตอนนี้ไม่ว่าจะออกมาเรียกร้องใช้กลไกแบบไหน อยากให้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ต้องการอะไร เชื่อว่าทุกท่านต้องการรัฐบาลที่แก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ ได้รัฐบาลที่มีความชอบธรรม สามารถสร้างฉันทามติใหม่ให้กับประชาชนคนไทยได้ ดังนั้น กลไกการปฏิวัติรัฐประหารไม่ใช่ทางออกแน่นอน เพราะไม่ได้เป็นไปตามกลไกในระบอบประชาธิปไตย 

ในขณะเดียวกันบริบททางการเมือง เสียง สส. ในสภา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เป็นอยู่ ถ้าเรากางออกก็จะเห็นว่าอาจจะมีหลายส่วนที่ต้องตั้งคำถามอยู่ ดังนั้น สิ่งที่จะเป็นทางออกกับประเทศจริง ๆ คือการยุบสภา เปิดโอกาสให้ทุกพรรคนำเสนอนโยบายของตัวเองเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ออกไปใช้สิทธิ์ของเขาในการตัดสินใจเลือกรัฐบาลอีกครั้ง และตอนนี้ภายใต้การจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นอยู่ ไม่สามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ ทางออกคือการยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน 

ส่วนหากยุบสภาในตอนนี้จะทำให้เกิดสูญญากาศหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า กลไกตามรัฐธรรมนูญในฉบับปัจจุบัน รัฐบาลรักษาการก็มีอำนาจรักษาการ แต่ไม่สามารถสร้างงบผูกพันได้ ดังนั้น แม้จะยุบสภาแล้ว รัฐบาลรักษาการก็ยังสามารถใช้กลไกในระบบราชการปัจจุบันในการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นได้อยู่ ไม่ใช่ว่าการยุบสภา จะทำให้เกิดสูญญากาศแต่อย่างใด และคิดว่าสิ่งที่ทำให้เกิดสูญญากาศ คือการขาดความเชื่อมั่นของประเทศ ในภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีมากกว่า 

สำหรับคลิปนายกรัฐมนตรีที่ปรากฏเป็นข่าวจะถือว่าขัดจริยธรรมหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เดี๋ยวมีผู้ร้องที่จะเข้าไปร้องอยู่แล้ว แต่จุดยืนของพรรคประชาชนและตน ก็มีจุดยืนที่ไม่อยากจะใช้กลไกใด ๆ ที่ฝั่งตรงข้ามใช้เป็นกระบวนการนิติสงครามในการทำลายล้าง คิดว่าในแต่ละส่วนใครจะยื่นร้องอย่างไร ก็ให้ยื่นไปตามกระบวนการ ตามช่องทาง แต่ในส่วนของพรรคประชาชนเอง เรียกร้องอย่างเดียว ณ ตอนนี้คือ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจของตัวเองในการยุบสภา 

เมื่อถามว่าหากยุบสภาไปแล้ว จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับการเลือกตั้งปี 2557 จนทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า บริบทในตอนนี้กับตอนนั้นต่างกัน สำหรับพรรคประชาชนในตอนนี้ เราไม่มีทางที่จะคัดค้านการเลือกตั้งแน่นอน ดังนั้น ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการประกาศยุบสภามา เราคงไม่ได้เห็นการแสดงออกของพรรคประชาชนแน่นอน  และยืนยันจะเดินหน้ามุ่งสู่การเลือกตั้ง นำเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด และเดินหน้ากระบวนการในการตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีความชอบธรรมสูงให้เกิดขึ้นเร็ว ๆ มากกว่า 

ส่วนร่างพระราชบัญญัตงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569  ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาจะมีผลหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนนี้อาจจะมีผลอยู่บ้าง แต่หากตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หากสภาไม่สามารถผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณได้ ก็ใช้งบประมาณของเก่าไปก่อน ซึ่งคิดว่าการยุบสภา ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเลย 

เมื่อถามว่า เรื่องที่นายกรัฐมนตรีคุยโทรศัพท์ กับสมเด็จฮุนเซน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ควรจะออกมาพูดอะไรหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า วิธีทางการทูตมีทั้งในระบบและนอกระบบ ไม่ได้เห็นค้านว่าเราจะต้องใช้ทุกช่องทางในการสร้างประโยชน์ หรือหาทางออกให้กับประเทศ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคลิปเสียงที่หลุดออกมา ที่เห็นว่าตัวนายกรัฐมนตรีพยายามใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว โดยมีการสื่อสารบางอย่างที่อาจจะเป็นปัญหา เช่น การสื่อสารบอกว่ารัฐบาลอยู่ตรงข้ามกับกองทัพ ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีก็สื่อสารมาโดยตลอดว่าเป็นเนื้อเดียวกับกองทัพไปตลอด 

ซึ่งการสื่อสารแบบนี้โดยอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัว เป็นปัญหามากกว่า รวมถึงความสัมพันธ์อื่น ๆ ที่นายทักษิณ ชินวัตร ดำเนินการ ดังนั้น สิ่งจำเป็น ณ ตอนนี้ คือการใช้เวทีระหว่างสองประเทศในการเจรจา และจากที่คลิปเสียงหลุดออกมา สิ่งที่เราอยากจะเห็นมากที่สุดจากการสื่อสารของนายกรัฐมนตรี คือการโน้มน้าวให้กัมพูชาใช้เวทีระหว่างประเทศมาพูดคุยกัน 

ทั้งนี้ หน้าที่ของกองทัพคือหน้าที่ในการปกป้องประเทศ และการสื่อสารใด ๆ ที่เป็นการสื่อสารทางการเมืองหรือกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จะต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และกองทัพมีหน้าที่ในการทำตามคำสั่งภายใต้รัฐบาลพลเรือน 

ดังนั้น ณ ตอนนี้หากจะให้ส่งข้อเรียกร้องไปยังทางกองทัพต่างๆ ตนก็ไม่คิดว่าในภาพรวมส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ อาจจะมีบางส่วน ที่หากมีการสื่อสารออกมา และพยายามใช้กระแสในปัจจุบัน เพื่อนำไปสู่บางอย่าง เช่น กระบวนการที่จะได้รัฐบาลใหม่ที่ไม่เป็นไปตามกลไกประชาธิปไตยก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น และไม่อยากให้การสื่อสารออกมาจากกองทัพแบบนี้ 

"จะต้องจับตา ต้องดูการประชุมของพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคในวันนี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร หากพรรคเพื่อไทยสามารถคุมเสียงข้างมากได้อยู่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนคือความเชื่อมั่นศรัทธาของพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เสื่อมลงเรื่อยๆ และพรรคประชาชน ก็พร้อมที่จะใช้กลไกทุกอย่าง อย่างเช่นการลงมติในทุกเวทีเพื่อที่จะกดดันให้นายกรัฐมนตรียุบสภาโดยเร็ว" นายณัฐพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย