"ไอซ์ รักชนก" โกรธหน้าสั่น ประชุมลับ กมธ.งบ 69 แฉยับ สส.พูดแบบไหน!

17 มิถุนายน 2568 ที่อาคารรัฐสภา น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 หรือ กมธ.พิจารณางบ 69 ได้มีการประชุมลับ เพื่อพูดคุยกันถึงมติที่เคยมี ในเรื่องของการห้ามถ่ายทอดสดการประชุม หากใครถ่ายทอดสดก็ขอให้รับผิดชอบตัวเองนั้น ว่า เมื่อครั้งที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อสภา ได้มีการชี้แจงดัชนีคอร์รัปชัน ตนจึงหวังว่า การพิจารณางบประมาณปี 69 ที่เป็นเงินภาษีของประชาชน ถ้าไลฟ์สดดัชนีคอร์รัปชันจะดีขึ้นแน่นอน เพราะประเทศที่เขามีอารยะพัฒนาแล้ว มีการไลฟ์สดการประชุม กมธ.งบประมาณ

และเห็นว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาหักล้างเหตุผลของตนได้ เพราะเหตุผลที่ทุกคนพูดมา ตนหักล้างได้ทั้งหมด ตั้งแต่ความรับผิดชอบหากมีผลกระทบ หรือมีการพูดถึงข้อมูลลับ หรือข้อมูลความมั่นคง ซึ่งถ้าหากมีการประชุมลับ ก็สามารถที่จะขอมติในการประชุมลับได้ และเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง ประธานในที่ประชุมสามารถตัดสินใจได้เลยว่า จะประชุมลับหรือเผยแพร่ และถ้าอยากควบคุมคอนเทนต์ 100% จริงๆ ก็ควรที่จะถ่ายทอดสดเองจากช่องของรัฐสภา เพื่อควบคุมเนื้อหาคอนเทนต์ได้ ซึ่งเชื่อว่าจะแก้ปัญหาได้

น.ส.รักชนก กล่าวว่า ส่วนที่บอกว่าจะมีการตำหนิข้าราชการ จะดูไม่ดีต่อ สส.ถ้ามีการถ่ายทอดสด ข้าราชการจะไม่กล้าชี้แจง ไม่กล้าพูดเชิงลึก ห่วงข้าราชการจะได้ผลกระทบนั้น ตนมองว่า ถ้าห่วงข้าราชการอย่างจริงใจไม่ได้ห่วงแต่ปาก ให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงมาชี้แจงเอง ถือเป็นการปกป้องข้าราชการดีที่สุด รับผิดชอบด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นการปกป้อง ข้าราชการที่ดีที่สุด

ส่วนที่บอกว่าประชาชนจะรู้สึกไม่พอใจ หากมีสมาชิกบางคนพูดอะไรที่ไม่ดีออกไปนั้น ถ้าตนมีการถามอะไรโง่ๆ โดยไม่มีการทำการบ้าน ก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง ถ้ากลัวประชาชนจะด่า หรือว่าก็อย่าพูด อะไรที่เสร่อ หรือไม่ได้ทำการบ้านมา ผู้รักษาผลประโยชน์พี่น้องประชาชน

 

ฉะ สส.-รมต.ถ้าไม่คิดจะรับผิดชอบคำพูดก็ลาออกไป
 

ส่วนข้อกังวลจะถูกนำคลิปไปตัดต่อ น.ส.รักชนก เสนอทางออกที่ดีที่สุดคือ ต้องเห็นคลิปเต็ม พร้อมยกตัวอย่างกรรมาธิการบางคน ที่ไม่เห็นด้วยกับการถ่ายทอดสด เช่น นายไผ่ ลิกค์ สส.พรรคกล้าธรรม ได้บอกว่า การถ่ายทอดสดไม่มีประโยชน์อะไร ตนจึงขอตั้งคำถาม ไปยังคนที่เลือกนายไผ่มาทำหน้าที่ว่า เลือกมาได้ยังไง และให้นายไผ่ไปถามประชาชนว่า เห็นด้วยกับการถ่ายทอดสดหรือไม่ และขอให้ประชาชนไปบอกนายไผ่ด้วย เพราะตนพูดหลายครั้งแล้วไม่ยอมฟัง

ส่วน นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ พ่อตานายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่บอกว่า ถูกตัดต่อคลิปบางช่วงบางตอนออกไป ทำให้ตนเองรู้สึกงงว่า ทำไมกล้าพูดแต่ไม่กล้ายอมรับฟังความเห็นจากประชาชน

ขณะที่นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานีพรรคเพื่อไทย บอกว่า มีความแตกต่างระหว่าง สส.กทม และ สส.ต่างจังหวัด ที่ต้องปรับตัว น.ส.รักชนก มองว่า "ถ้าเป็นห่วงตัวเองขนาดนั้น ออกอยู่บ้านดีกว่าไม่ต้องเป็น สส.หรือรัฐมนตรีหรอก ถ้าจะไม่รับผิดชอบอะไรเลย ทุกคนที่อยู่ในห้องงบประมาณ ถ้าชีวิตนี้จะไม่รับผิดรับชอบอะไรในฐานะ สส.เลย ก็ไม่มีความอยากจะทำให้ประเทศนี้ก้าวหน้า หรือว่าโปร่งใส ลดการคอรัปชั่น ก็ลาออกเถอะอยู่บ้านจริงๆ ตัวท่านเองที่มีความคิดล้าหลังหลายคน ไม่เจาะจงว่าใครอาจเป็นคนที่ถ่วงรั้งความเจริญของประเทศนี้อยู่"

น.ส.รักชนก ยังขอสื่อสารไปยังประชาชนทั่วประเทศว่า สิ่งที่เราประชุมทุกวันนี้คืองบประมาณ 3.8 ล้านล้านบาท ทำไมถึงต้องกระเสือกกระสนพยายามให้ประชาชนรับรู้ และมีส่วนร่วมเพราะเป็นเงินของท่าน
 

เมื่อวานตนโกรธจนหน้าสั่น และถูกห้ามไม่ให้ร้องไห้ ทั้งที่เป็นสืบสวนบุคคล ถ้ากลัวก็รับผิดชอบ ต้องขอเสนอให้ลาออก อย่ามาเป็นกรรมาธิการงบประมาณ เป็น สส. หรือรัฐมนตรีเลย