JBC ก็ว่าไป... ของจริง “ไทย งัดข้อ กัมพูชา” แต่ละฝ่ายมีลีลายังไง

15 มิถุนายน 2568 ปมร้อนข้อพิพาทระหว่าง "ไทย-กัมพูชา" เกี่ยวกับปัญหา "เขตแดน" ที่ขณะอยู่ระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 ("JBC") ประเทศ "กัมพูชา" เป็นเจ้าภาพที่กรุงพนมเปญ วันที่ 14-15 มิ.ย.68

โดยการประชุม JBC กัมพูชา-ไทย วันแรก ผ่านไปแล้ว แม้บรรยากาศการประชุม จะไม่มีวอล์คเอาต์ หรือมีอะไรเหนือความคาดหมาย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้สถานการณ์ตึงเครียดตามแนวชายแดนดีขึ้น


 

ลีลากัมพูชา
 

- กัมพูชามุ่งหน้าสู่ศาลโลก มีคำประกาศจาก นายกฯฮุน มาเน็ต และประธานวุฒิสภา ฮุนเซน เรียบร้อยแล้ว

 - พยายามแถลงข่าวตอบโต้มาตรการต่างๆ ของไทย

 - มาตรการล่าสุดคือประกาศให้คนกัมพูชากลับประเทศ ถือฤกษ์​วันชนะคดีปราสาทพระวิหาร เมื่อปี 2505 หรือ 63 ปีก่อน

**สร้างกระแสชาตินิยมอย่างชัดเจน เพราะฮุนเซนเชื่อว่า ถ้าแรงงานกัมพูชากลับประเทศ จะส่งผลต่อภาคธุรกิจและเศรษฐกิจไทย เนื่องจากพึ่งพาแรงงานกัมพูชาเยอะมาก

ท่าทีฝ่ายไทย
 

- กระจายข่าวท่าทีแม่ทัพภาค 2 ผ่านการบรรยายนักเรียนนายร้อย จปม. = ประกาศจุดยืนทหาร พร้อมรบ ไม่ไปศาลโลก

 - แม่ทัพภาค 2 ไปสังเกตการณ์ที่ ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ พบปะมวลชนคนไทย และนักท่องเที่ยว 

 - ผบ.ทบ.ตรวจเยี่ยมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของทหาร ที่ จ.อุบลราชธานี
 

การตระเวนพื้นที่อีสานใต้ นัยคือไปตรวจความพร้อม เฝ้าระวังสถานการณ์ไทย-กัมพูชา แต่ให้เหตุผลเรื่องสาธารณภัย เพราะรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย กอ.รมน. ให้อำนาจทหารและกองทัพ เรื่องบรรเทาสาธารณภัย ผ่านโครงสร้าง กอ.รมน.
 

รัฐธรรมนูญ มาตรา 52 วรรคสอง “กำลังทหารให้ใช้เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศด้วย”

พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ (กฎหมาย กอ.รมน.)  มาตรา 3 และมาตรา 7 สรุปว่า การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร...ให้รวมถึงในกรณีที่เกิดหรือคาดว่า จะเกิดสาธารณภัยตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้วย และให้ กอ.รมน.มีอำนานจเสนอแผนต่อคณะรัฐมนตรี โดย..."ต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ" ด้วย