9 มิถุนายน 2568 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุนเซน ระบุพื้นที่ช่องบกเป็นของกัมพูชา แต่ไทยเรียกพื้นที่นั้น no man’s land ว่า พื้นที่ทั้งหมดที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นพื้นที่ของไทยทั้งหมด และเราจะรักษาอธิปไตยของไทยอย่างเต็มที่ แต่ที่ผ่านมามีการอ้างสิทธิ์ว่า เป็นพื้นที่ของกัมพูชา กัมพูชาก็อ้างไป ในขณะที่ยังไม่มีข้อสรุป
ต้องเข้าใจว่า การจะหาข้อสรุปไม่ใช่เรื่องง่าย จึงต้องหาวิธีในการแก้ไขปัญหา บางพื้นที่ได้ทำเป็นพื้นที่พัฒนาร่วม ปัจจุบันนี้ไทยก็อ้างสิทธิ์ ส่วนท่านฮุนเซน ก็บอกว่าเป็นสิทธิ์ของท่าน เราก็ไม่ต้องมาเถียงกัน ทุกคนต่างมีสิทธิ์ที่จะอ้าง ต้องหาวิธีในการเจรจากัน ถือว่าขณะนี้ในขั้นต้นประสบความสำเร็จ โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ ไม่อยากให้เกิดการเผชิญหน้า เพราะห่วงจะมีกระสุนนัดแรกเข้า จะกลายเป็นเรื่องใหญ่
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องขอบคุณผู้ช่วยทูตทหารกองทัพบกไทยประจำกัมพูชา ที่ได้ประสานงาน กันมาโดยตลอด เป็นที่มาของการส่ง พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ไปพูดคุยหลังกัมพูชาประสานมา ซึ่งก็ได้ข้อสรุป มีการปรับกำลัง แล้วกลับไปอยู่ในจุดเดิมเมื่อปี 2567 มีการลาดตระเวนร่วมกัน ถือเป็นบรรยากาศในการเอื้อให้มีการพูดคุย
“เรื่องข้อพิพาทเขตแดนยังไม่จบ แต่ที่จบแล้วก็คือการลดการเผชิญหน้า ตามข้อเรียกร้องของไทย คือยึดสันติวิธี และใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก”
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การประชุม JBC เกิดขึ้นแน่นอนเพื่อให้เกิดข้อสรุป โดยฝ่ายกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ ซึ่งในวาระที่พูดคุยกัน ได้ตกลงกันว่าจะพูดคุยเรื่องจุดปะทะบริเวณช่องบก รวมถึงมาตรการร่วมกันในอนาคต นอกจากนี้ การประชุม JBC จะมีในส่วนที่เป็นเรื่องของเทคนิค โดยฝ่ายไทย จะมีเจ้ากรมแผนที่ทหาร อธิบดีกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ เป็นตัวหลักในการพูดคุย
นอกจากนี้ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีความเชี่ยวชาญ ถือเป็นคณะชุดเดิม ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง แต่มีการตั้ง พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นที่ปรึกษา รวมถึงคนอื่น ๆ ที่มีความเหมาะสม แต่ทั้งหมดกระทรวงต่างประเทศเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะเดินทางร่วมประชุมด้วย”
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับมาตรการเปิด-ปิดด่าน ยังใช้ไม่ครบ ขณะนี้เป็นเพียงระดับ 1 และ 2 เท่านั้น เราต้องการแค่ส่งสัญญาณว่าเป็นมาตรการ หากสิ่งต่างๆ ยังไม่คืบหน้าจะค่อยๆ ยกระดับ
เมื่อถามว่า รมว.กลาโหมกัมพูชา ได้แสดงจุดยืน จะไม่นำเรื่องช่องบกไปพูดคุยในที่ประชุม JBC จะมีวิธีการโน้มน้าวเพื่อนบ้านอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า การพูดคุยเราได้จำกัดพื้นที่อยู่แล้ว ปราสาทอื่นๆ จะไม่หยิบเข้ามาพูด คุยแต่เฉพาะพื้นที่ช่องบกเท่านั้น เพราะเป็นพื้นที่เกิดเหตุการณ์ปะทะ ยังไงก็ต้องคุยกันเรื่องนี้ ตนคิดว่า คณะกรรมการ JBC ฝ่ายไทยและกัมพูชา ชัดเจนอยู่แล้วว่า จะคุยเรื่องใดบ้าง อยากให้รอ พร้อมย้ำปัญหาช่องบกได้พูดคุยแน่นอน
เมื่อถามว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา สามารถพูดได้หรือไม่ว่าสบายใจ 100% นายภูมิธรรม กล่าวว่า บรรยากาศดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีการเผชิญหน้า การพูดคุยในเรื่องนี้ต้องใช้ความระมัดระวัง ปล่อยให้กระบวนการสันติวิธีดำเนินไป ซึ่งต้องยอมรับว่ามีคนที่รักและหวงแหนอธิปไตย อยากจะสู้รบเพื่อให้เกิดความชัดเจน แต่ประชาชนตามแนวชายแดนจะได้รับผลกระทบ ทั้งเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะไม่ใช่เรื่องที่สนุกที่ประชาชนในพื้นที่ต้องมาเผชิญกับสงคราม
เมื่อถามว่า ในวันที่ 14 มิ.ย. นี้ ได้เตรียมไม้เด็ดอะไร ที่จะทำให้กัมพูชายยอมพูดคุยปัญหาช่องบกในเวที JBC นายภูมิธรรม กล่าวว่า "ไม้เด็ดใครเขาพูดผ่านสื่อกัน"