
29 พฤษภาคม 2568 ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน หอบเอกสารหลักฐานปึกใหญ่ มาให้พนักงานอัยการตรวจสอบเพิ่มเติม กรณีที่ก่อนหน้านี้ ได้ร้องกับทาง อสส. ให้ตรวจสอบ “พรรคภูมิใจไทย” ก่อนยื่นศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 (ล้มล้างการปกครอง) จากคดีการเลือก สว.ที่ผ่านมา
นายณฐพร เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนมาร้องกับทาง อสส. ให้ตรวจสอบพรรคภูมิใจไทย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ซึ่งทาง อสส. ก็รับดำเนินการ วันนี้จึงมาให้ปากคำรวมถึงนำเอกสารจำนวน 2 กระเป๋าใหญ่ ที่รวบรวมจากทุกสำนวนที่ตนได้ไปร้องหน่วยงานต่างๆ ไว้ รวมถึงข้อมูลจากสื่อมวลชนที่นำเสนอ มาให้เป็นหลักฐาน
โดยกรณีที่พรรคภูมิใจไทยบอกว่า ตนได้ข้อมูลมาจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอนั้น เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เนื่องจากเวลาตนทำคดีร้องเรียน จะมีทีมงานคอยรวบรวมข้อมูลจากสื่อต่างๆ ซึ่งข้อมูลจากสื่อมวลชน เป็นข้อมูลตามข้อเท็จจริง ที่ศาลมองว่ารับฟังได้ ดังนั้นจึงไม่กลัวหากจะถูกฟ้องฐานหมิ่นประมาท เพราะตนคงไม่โง่นำข้อมูลที่ได้มาโดยมิชอบมาร้อง
"ฝากถึงพรรคภูมิใจไทยว่า ให้ท่านเตรียมตัวสู้คดีดีกว่า และในคดีล้มล้างฯ เข้าองค์ประกอบทุกอย่าง แม้กระทั่งความเห็นนักวิชาการและนักกฎหมาย ผมก็เอามาใส่ในสำนวน ว่าเรื่องนี้เข้าองค์ประกอบล้มล้างฯอย่างไร การดำเนินการอย่างไร พฤติการณ์เชื่อมโยงแม้กระทั่งความเห็นว่า สว.ชุดนี้ทำหน้าที่อะไร มีอำนาจอะไร"
นายณฐพร กล่าวต่อว่า อยากพูดถึงพฤติกรรมของ สว.ว่า การจะแสดงอาการอะไรก็ขอให้อยู่บนพื้นฐานมารยาทและจริยธรรม อย่าทำลิงหลอกเจ้าให้สังคมเห็น คนจะยิ่งไม่ชอบ ยืนยันว่าที่ตนเองออกมาทำอยู่นั้นไม่ได้หิวแสง ทำด้วยความสุจริตใจในฐานะประชาชน และไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่จะกล่าวหาตนเองอย่างไรก็ได้ แต่ข้อเท็จจริงมีหนึ่งเดียว ซึ่งตนเองมั่นใจว่าทุกอย่างจะจบลงภายใน 2 -3 เดือน
เมื่อถามว่า หลังจากที่ออกมาเดินหน้าเรื่องนี้ แล้วมีกระบวนการบางอย่าง ที่ผิดปกติขึ้นกับตัวเอง กังวลหรือไม่ นายณฐพร บอกว่า สิ่งที่ตนเองทำเป็นข้อเท็จจริง และมีพยานหลักฐานปรากฏชัดเจน ดังนั้นเรื่องพวกนี้ไม่ต้องห่วง ต่อให้พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย จะมีการตกลงกันจริงตามที่คาดเดา ก็ไม่ทำให้คดีที่ตนเองดำเนินอยู่สะเทือน ทุกอย่างจะเดินหน้าไปตามกระบวนการ
ส่วนจะกังวลอะไรเป็นพิเศษหรือไม่นั้น หากเราทำในสิ่งที่ดีที่ชอบ และสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ก็ไม่กลัวใครทั้งนั้น หากดำเนินการไปแล้ว จะโดนอะไรก็ตาม ก็ช่วยไม่ได้ ยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้ง หรือโกรธเคืองพรรคภูมิใจไทย ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ส่วนตนเองจะโดนกลั่นแกล้งหรือไม่นั้น ก็รู้สึกเฉยๆ สิ่งที่เกิดขึ้นกับตน ให้สื่อมวลชนและสังคมพิจารณาเองว่า มันสมควรไหม แต่กระบวนการนี้หยุดไม่ได้
“ต่อให้ผมถูกส่งฟ้องศาลแล้วไม่ได้ประกันตัว ผมอยู่ในเรือนจำ ผมก็เขียนสำนวนได้ ผมไม่ห่วงเรื่องนี้หรอก จะทำยังไงก็ตาม ไม่มีทางหยุดผมได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาจากเอกสารอยู่แล้ว และผมมีเอกสารเรื่องเลือกตั้งเป็น 10 ลังใหญ่ๆ”
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายอนุทิน ออกโรงมาพูดถึงตนเองนั้น นายณฐพร มองว่า นายอนุทินมีปัญหา คงโกรธเคือง ตอนนี้คิดว่าสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยห่วงและคิดมากที่สุด คือเรื่องคดีที่ตนเองทำ เพราะว่ากลัวจะเสียอำนาจรัฐไป