20 พฤษภาคม 2568 เรียกได้เปิดหน้าสู้โต้กลับชนิดตาต่อตาฟันต่อฟันแล้ว หลังจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หายจากการรักษาดวงตา ออกมาทำหน้าที่ ตามปกติ
แต่กลับถูกฝ่ายตรงข้ามรุมกระหน่ำตรวจสอบปมคดีฮั้วเลือกสว. จนลุกลามบานปลายมาถึงขั้น กุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต สส.มหาสารคาม ผู้สมัครรับเลือกตั้งสว. หอบเอกสารหลักฐาน ยื่น กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรธน.วินิจฉัย ยุบพรรคภูมิใจไทย
ทำให้หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยออกโรงโต้ทุกเม็ด และเป็นการโต้กลับอย่างสาสมด้วย โดยระบุว่า คณะทำงานกฎหมายพรรค กำลังเตรียมฟ้องกลับ นางกุสุมาลวดี ที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยเสียหาย
ขณะเดียวกัน กรณีปมฮั้วเลือกสว. ที่พรรคถูกพาดพิงมาตลอด ว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว จนล่าสุดถึงขนาด กกต. ออกหมายเชิญ นักการเมือง รมต. อดีตรมต. นักการเมืองท้องถิ่น ที่มีความสัมพันธ์กับพรรคภูมิใจไทย ไปชี้แจง ทำให้ นายอนุทิน ถึงกับขุดประกาศพรรคภูมิใจไทย ออกมาตีแผ่ผ่านสื่อมวลชน เพื่อให้เห็นว่า ก่อนมีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พรรคภูมิใจไทย ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ถึงกับออกประกาศ ห้าม กรรมการบริหารพรรค หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นในพรรค สส.พรรค เข้าไปยุ่งเกี่ยวแทรกแซง เพราะจะผิดกฎหมาย ตามรธน.
สำหรับ ประกาศพรรคภูมิใจไทย มีเนื้อหาดังนี้
เรื่อง ห้ามกระทำการโดยวิธีการใด ๆ ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา
ด้วยขณะนี้ใกล้ครบวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งจะต้องมีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ตามกระบวนการที่กำหนดไว้ในรัฐธธรรมนูญ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561
ในการนี้เพื่อให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมได้มีบทบัญญัติของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 76 กำหนดข้อห้ามมิให้กรรมการบริหารพรรค หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นใดในพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กระทำการโดยวิธีการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือให้ผู้สมัครผู้ใดได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาหรือทำให้ผู้สมัครผู้ใดไม่ได้รับเลือก ประกอบกับ มาตรา 77,78,79,และ มาตรา 80 ของกฎหมายฉบับเดียวกันยังกำหนดข้อห้ามอื่น ๆ ไว้อีกด้วย
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามข้อบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวข้างต้น พรรคภูมิใจไทยจึงประกาศให้ กรรมการบริหารพรรค หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นใดใดในพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ดำรงตำแหน่งทาง การเมือง และสมาชิกพรรคทุกท่าน ถือปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งควัด อย่าได้กระทำการใดๆอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอันจะนำมาซึ่งความเสียหายต่อพรรคภูมิใจไทยได้
จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
ประกาศ ณ วันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2567
อนุทินฮึ่ม! อย่ายัดเยียดยัดข้อกล่าวหา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ทั้งระดับรัฐมนตรี สส. อดีต สส.ถูกอนุกรรมการสอบสวนไต่สวนฯ ของ กกต. เรียกมาชี้แจงกรณีการฮั้วการเลือก สว.ว่า เบื้องต้น ยังไม่ได้มีการเชิญผู้ที่ถูกเรียกเข้ามาพูดคุย แต่เชื่อว่า ผู้ที่มีรายชื่อได้มีการชี้แจงไปหมดแล้ว
พร้อมมั่นใจว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมีเป้าหมายทางการเมืองตั้งแต่ระดับจุลภาค และมหภาค ทั้งที่พรรคภูมิใจไทยไม่มีความเกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน ก็ไม่เคยพูดถึงประกาศพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ที่สั่งห้ามกระทำการโดยวิธีการใด ๆ ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาที่ขณะนั้น ใกล้ครบวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม โดยให้กรรมการบริหารพรรค หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นใดในพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และสมาชิกพรรคทุกคน ถือปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าได้กระทำการใด ๆ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องอันจะนำมาซึ่งความเสียหายต่อพรรคภูมิใจไทยได้
ส่วนหากอนุกรรมการสอบสวนไต่สวนฯ ของ กกต.มีการเรียก หรือเชิญคนของพรรคภูมิใจไทยไปสอบสวนอีกนั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย พร้อมย้ำให้ไปอ่านประกาศของพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ที่พรรคแสดงความตั้งใจไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเลือก สว.ตั้งแต่ปีมะโว้ ดังนั้น จึงอย่ายัดเยียด มโน หรือยัดข้อกล่าวหาต่าง ๆ แต่หา กกต.สงสัย ก็สามารถเรียกไปสอบถามได้ ซึ่งทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือดี
นายอนุทิน ยังปฏิเสธย้ำว่า ตนเองไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้สนใจ และไม่รู้ขั้นตอนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา เพราะตนเองก็ยังมักจะถามกับผู้สื่อข่าวตลอด ทั้งขั้นตอนการเลือกระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ
ส่วนกรณีที่ นางสุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ พรรคภูมิใจไทย เตรียมขอบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อแจ้งความเอาผิดนางสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต สส.มหาสารคาม พรรคไทยรักไทย ในฐานะ สว.สำรอง กรณีการใส่ร้ายตนเอง, นายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย ในคดีฮั้ว สว.นั้น นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ทราบ แต่ยืนยันว่า หากมีการใส่ร้ายพรรคภูมิใจไทย หรือคนของพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยก็ต้องใช้สิทธิ์ในการฟ้องหมิ่นประมาท หรือแจ้งความเท็จ หรือการละเมิด ตามแต่กรณี
นายอนุทิน ยังเห็นว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร ซึ่งรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ก็หายเข้ากลีบเมฆ ทำงานให้ประชาชน และลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนหมด
ส่วนได้คุยนอกรอบกับนายกรัฐมนตรีถึงกรณีดังกล่าวแล้วหรือไม่นั้น นายอนุทิน บอกว่า ไม่ได้พูดคุยกัน และไม่เคยคุย เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี
ส่วนที่สังคมออนไลน์วิจารณ์ นายอนุทินไม่ได้ไปทำตาแต่ไปทำหน้ามานั้น นายอนุทิน หัวเราะก่อนบอกว่า ตน ไม่ได้เครียด และอโหสิกับคนคิดไม่ดี และขอให้ทุกคนมีความสุขความเจริญ พร้อมแผ่เมมตา สัพเพ สัตตา อะเวรา
ส่วนที่ไม่เครียดเพราะมีแผนรับมือทางการเมืองใช่หรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด และมั่นใจว่าทีมงานของพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เป็นดังข้อกล่าวหา และไม่เป็นไปตามบทวิเคราะห์ของคอการเมือง