19 พฤษภาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี "ทหารกัมพูชา" รุกล้ำพื้นที่ไทย บริเวณพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยมีการสร้างฐานที่มั่น ขุดคูเลตสร้างฐานว่า ขณะนี้ ไม่มีอะไรแล้ว คุยกันแล้ว เป็นเหตุการณ์สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน จึงทำให้เกินจากแนวที่ตกลงกันไว้ และมีการขอให้กลับ เพราะนอกเหนือจากที่ผู้ใหญ่คุยกัน ซึ่งเขาก็ถอยกลับไป เห็นแต่คลองที่เขาขุด เพราะอาจจะยึดตามแนวเดิมของเขา แต่ตามที่คุยต้องแยกออกจากกัน
เมื่อถามว่า ปัญหาเขตแดนช่องบก เป็นเรื่องนานมาแล้ว ทำไมถึงมาขุดคลองปักเขตแดนในไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้ก็ไม่ทราบว่าเขามีการสั่งการอะไรหรือไม่ เพราะเราไม่ทราบภายในประเทศเขา เขามีปัญหาภายในอยู่บ้างในเรื่องสื่อ และเรื่องฝ่ายค้าน แต่เรายืนยันตามที่ตกลงกัน โดยตามครั้งที่ 2 ก็ยึดตามแนวที่ตกลงกันไว้
ทั้งนี้ จากที่พูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้รายงานให้ทราบมาตลอด โดยเน้นย้ำว่าให้ทุกฝ่ายกลับไปยึดเอ็มโอยู (MOU) และยืนอยู่ในจุดที่เคยยืนอยู่ ส่วนที่มีการเผชิญหน้าก็ให้ถอยออกไป โดยระดับผู้บัญชาการก็มีการพูดคุยกันทั้งสองฝ่าย
พร้อมย้ำว่า จุดไหนที่ทางกัมพูชาไม่ถอน ทหารไทยก็ยังไม่ถอน โดยพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนก็จะมีการลาดตระเวนร่วมกัน แต่ก็จะพยายามให้คลี่คลายในทุกจุด และระดับปฏิบัติการก็พูดคุยกันดีอยู่ ส่วนด่านช่องอานม้า ก็มีการปิดเปิดเป็นระยะ โดยจะปิดในช่วงที่มีปัญหา แต่จะพยายามไม่ปิด เพราะเป็นเรื่องการค้าขาย
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์กันหรือไม่ว่า รัฐบาลนี้มักมีปัญหาด้านชายแดนตลอด ทั้งฝั่งเมียนมา และ กัมพูชา นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า ทางฝั่งเมียนมา เป็นการสู้รบกันเองภายใน ไม่ได้มีการล่วงล้ำเข้ามาในเขตไทย และกองทัพอากาศก็มีการขึ้นตอบโต้