เปิดใจ “หมวดเตย” นักบินหญิงคนแรกกองทัพไทย ความฝัน แรงบันดาลใจ

เนชั่นทีวี มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ “หมวดเตย” นักบินหญิงคนแรกของกองทัพไทย แม้จบสถาปัตย์ เอแบค แต่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักบิน พร้อมยอมรับถูกสงสัยในความสามารถ แต่เชื่อผู้หญิงมีศักยภาพ ทำได้ทุกอย่าง หวังสร้างแรงบันดาลใจให้สาวๆอีกหลายคน

 

 

ร้อยตรีหญิง นันทิชา สุภาชัย สาวน้อยวัย 29 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เล่าให้ทีมข่าวเนชั่นทีวีฟังว่า หลังจากจบสถาปัตย์ ทำงานได้ไม่นานก็ขอที่บ้านมาเรียนการบิน เพราะมีความฝันตั้งแต่เด็กแล้ว จึงมาเรียน หลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรี จากโรงเรียนบางกอกแอร์ เอวิเอชั่น เทรนนิ่งเซ็นเตอร์ จังหวัดสุโขทัย เมื่อจบแล้วก็มาสมัครสอบคัดเลือกบุคคลพลเรือนมาเป็นข้าราชการกระทรวงกลาโหม แล้วก็ได้มาเป็นนักบิน กองบินถ่ายภาพทางอากาศ กรมแผนที่ทหาร ซึ่งต้องผ่านการสอบคัดเลือก สอบสัมภาษณ์ และการทดสอบร่างกายตามลำดับ

หมวดเตย เปิดใจว่า แรงบันดาลใจหลักคือ อยากท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง อยากนำความรู้ ความสามารถเกี่ยวกับการบินที่ได้เรียนรู้ มาต่อยอดเพื่อพัฒนาประเทศ และการเข้ามาในกองทัพก็สามารถทำภารกิจการบินให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ซึ่งการขับเครื่องบินให้ผู้บังคับบัญชานั่ง ก็รู้สึกเกร็งอยู่บ้าง

 

 

“เตยรู้ดีว่า หลายคนอาจสงสัยว่าผู้หญิงจะทำได้ไหม จะตัดสินใจได้ดีไหม แต่เตยเชื่อในศักยภาพของผู้หญิง และสิ่งที่ได้เรียนรู้มา ก็ไม่มีอุปสรรคอะไรมากมาย ถ้าเราพยายามตั้งใจ มีวินัย ก็จะผ่านทุกอย่างไปได้”

 

หมวดเตย ยังกล่าวอีกว่า แม้จะเรียนการบินในโรงเรียนพลเรือน ก็ไม่ได้ต่างจากกองทัพมาก ต่างไปก็คือเรื่องการฝึกความเข้มแข็ง ที่ต้องมาปรับให้มีวินัยมากขึ้น เข้มแข็งมากขึ้น ตอนที่มาสมัครทหารก็พอจะทราบว่าตัวเองเป็นนักบินคนแรกที่เป็นผู้หญิง แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นคนแรกของกองทัพไทย ก็รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงไทยในสังคม ได้มีบทบาทหน้าที่สำคัญ และเชื่อว่าจะเป็นโอกาสให้หลายๆ คนในกองทัพไทย

 

“เตยค่อนข้างเชื่อในนโยบายของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ท่านได้บอกว่าทุกคน ทุกชั้นยศ ทุกเพศ ทุกวัย คือคนสำคัญของกองทัพไทย คือเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกบทบาท ทุกคน ทุกชั้นยศ ได้มีโอกาส ได้ทำสิ่งที่สำคัญ แม้กระทั่งผู้หญิง ได้ดึงศักยภาพของความเป็นผู้หญิง ได้ปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญ เตยเชื่อว่าหลังจากนี้ก็จะมีผู้หญิงที่ขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่สำคัญหลายๆ อย่างการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็เหมือนเปิดโอกาส เปิดประตูให้ผู้หญิงหลายๆ คนได้มีโอกาสเข้ามาทำหน้าที่ในกองทัพไทย”

 

พร้อมฝากทิ้งท้ายเรื่องของแรงบันดาลใจในการเป็นนักบินหญิง ว่า อยากให้ทุกคนเชื่อในตัวเอง ไม่หยุดที่พัฒนาตัวเอง ถ้ามีความพยายาม ความตั้งใจ เราสามารถทำได้ทุกอย่าง

 

 

ด้าน พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงการมีนักบินหญิงคนแรกในกองทัพไทย ว่า เป็นสิ่งที่เป็นกำลังใจให้กับกำลังพลทุกนาย ในคอนเซปต์ที่บอกว่า กองทัพไทย ทุกคน ทุกชั้นยศ ทุกเพศ ทุกวัย คือคนสำคัญของกองทัพไทย น้องเขาก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ว่า ทุกคนที่มีความสามารถ เราให้โอกาสจริงๆ เขาขับเครื่องบินพาณิชย์มาก่อน ประมาณ 260 กว่าชั่วโมง และเข้ามารับราชการทหาร ซึ่งตอนเข้ามาก็คัดเลือกหลายคน แต่น้องก็สามารถผ่านการคัดเลือก โดยให้นักบินเก่าๆในกองบิน รวมทั้งนักบินในกองทัพบก ช่วยคัดเลือก เมื่อคัดเลือกมาแล้วก็ต้องมาผ่านการฝึก ซึ่งปรับเปลี่ยนแบบของเครื่องบิน และเป็นลักษณะการบินแบบของทหารด้วย

 

“เขาผ่านตรงนี้ด้วยดี เมื่อสองวันก่อนก็เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้นั่งบินกับเขา ในฐานะนักบินผู้ช่วย เห็นถึงผลความสำเร็จและความพยายาม ซึ่งกระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ก็ภูมิใจแทนเขา และภูมิใจแทนกำลังพลทุกนายในกองทัพ ว่าวันนี้คนที่มีความสามารถ สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝันได้”

 

 

เมื่อถามว่า แนวคิดของกองทัพไทย ตั้งใจมีนักบินหญิงอยู่แล้วหรือไม่ ผบ.ทสส. กล่าวว่า ข้อแรก มีอัตราของนักบินขาด ข้อสอง เราอยากให้โอกาสในความเท่าเทียมกันของเรื่องชาย-หญิง เมื่อเราคัดแล้วก็เห็นว่าตรงนี้เหมาะสมที่จะเป็นผู้หญิงเข้ามา ก็ให้โอกาสเขา ซึ่งจริงๆตอนคัดเลือกไม่ได้เอาเฉพาะแค่ผู้หญิง แต่ละปีก็มีผู้ชายเข้ามาด้วย ระหว่างคัดเลือกก็คิดถึงอีกตำแหน่งคือนักบินเฮลิคอปเตอร์ที่เป็นผู้หญิง แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถสรรหาคนที่เหมาะสมได้ ตอนนี้ก็ได้นักบินเครื่องบินไปก่อน