9 พฤษภาคม 2568 จากกรณีที่ประชุมแพทยสภา พิจารณากรณีจริยธรรมของแพทย์ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจ เกี่ยวกับจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม โดยมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน เป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน กรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ได้มาตรฐาน และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน กรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด มีรายงานจากกระทรวงยุติธรรม ว่า มติแพทยสภาที่ให้ลงโทษแพทย์ 3 คน ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการรักษาอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร นั้น หนึ่งในสามเป็นบุคลากรของกรมราชทัณฑ์ หรือ รพ.ราชทัณฑ์
โดยมีรายงานว่า บุคลากรของราชทัณฑ์หนึ่งใจผู้ถูกกล่าวหา คือ คนที่ถูกแพทยสภาลงโทษ ว่ากล่าวตักเตือน ไม่ได้ถูกพักใบอนุญาต
การดำเนินการหลังจากนี้ มีรายงานว่า ได้มีการหารือกับฝ่ายกฎหมาย อาจมีการยื่นอุทธรณ์ต่อแพทยสภา หรือยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนมติของแพทยสภา
โดยให้เหตุผลว่า การพิจารณาเรื่อง “อาการป่วย” มีหลายมิติ และโรคที่ผู้ต้องขังเป็นนั้น หลายกรณีเป็น “โรคเฉพาะทาง” และเป็นอาการป่วยจาก “โรคเฉพาะทาง” จึงไม่สามารถใช้มาตรฐานทั่วไปในการวินิจฉัยได้
ที่สำคัญ “โรคเฉพาะทาง” บางโรคบางอาการ หรือเกือบทุกอาการ ทั้งเรือนจำและ รพ.ราชทัณฑ์ ไม่มีบุคลากร ตลอดจนไม่มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์รองรับอาการป่วยลักษณะนี้ จึงต้องตัดสินใจส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ ฉะนั้นจึงไม่ถือว่ากระทำผิดมาตรฐานหรือจริยธรรมทางการแพทย์แต่อย่างใด