svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

รู้จัก สว.อลงกต ผู้ไม่หวั่นกระแสร้อนใดๆ ดีกรีไม่ธรรมดา

ทำความรู้จัก สว.อลงกต หรือ นายอำเภอป๊อกแป๊ก ที่ชาวอุทัยธานี รู้จักกันดี ผู้ไม่หวั่นเกรงกับกระแสร้อนใดๆ ดีกรีไม่ธรรมดา

แม้จะโดนมรสุมกระหน่ำมาหลายครั้ง ตั้งแต่แกล้งร้องไห้ ตั้งคนมีคดีเป็นที่ปรึกษากรรมาธิการ ถึงการให้สัมภาษณ์แนวๆ ยกตนข่มท่าน

 

แต่ สว.นามว่า “อลงกต วรกี” กลับไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน หรือหวั่นกลัวกับกระแสทัวร์ลงแต่อย่างใด

 

ถามผู้คนในสังคมว่า รู้จัก “อลงกต วรกี” ในมิติใดบ้าง ส่วนใหญ่ตอบได้เพียงว่า เป็น สว.สายสีน้ำเงิน เพราะเคยเป็นรองผู้ว่าฯอุทัยธานี พื้นที่ฐานเสียงของ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” อดีต รมช.มหาดไทย ผู้ยิ่งใหญ่จากพรรคสีน้ำเงิน

 

น้อยคนนักที่จะทราบว่า ชื่อเล่นของอดีตรองผู้ว่าฯท่านนี้คือ “ท่านป๊อกแป๊ก” คนในแวดวงนักปกครองเรียกกันติดปากว่า “นายอำเภอป๊อกแป๊ก” เพราะเป็นนายอำเภอหลายพื้นที่ และมีวีรกรรมโด่งดังระดับประเทศมาแล้ว 

 

ประวัติ สว.อลงกต

สว.อลงกต

 

ครอบครัว การศึกษา การรับราชการ

 

สว.อลงกต เป็นคนกรุงเทพฯ บ้านอยู่ดาวคะนอง เรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบ รุ่น 99

 

หลายคนคงไม่ทราบว่า เขาจบปริญญา 4 ใบ และดีกรีสูงสุดคือ “ดอกเตอร์” เท่านั้นยังไม่พอ เขายังเข้ามหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุ 15 จบปริญญาอายุ 18 และเริ่มทำงานอายุ 19

 

สว.อลงกต เล่าว่า ตนเรียน มศ.5 รุ่นสุดท้าย สอบเทียบ จบมัธยมตั้งแต่อายุ 15 ปี เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาบริหารรัฐกิจ จึงถือเป็น “สิงห์แดง”

 

จบปริญญาตรี อายุ 18-19 ปี ต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเดิม คือ ธรรมศาสตร์ แต่เรียนเอกปกครอง เพราะตอนนั้นสอบติดปลัดอำเภอ บรรจุรับราชการครั้งแรกเป็นปลัดอำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี

ต่อมา ปลัดอลงกต ศึกษาต่อปริญญาโทอีก 1 ใบ แต่เปลี่ยนมหาวิทยาลัยไปเป็นจุฬาฯ เพราะอยากสัมผัสว่า จุฬาฯเรียนรัฐศาสตร์กันแบบไหน โดยที่จุฬาฯ จบสาขารัฐประศาสนศาสตร์ “มหาบัณฑิต”

 

เท่านั้นยังไม่พอ ยังศึกษาต่อระดับดอกเตอร์ที่นิด้า หรือสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์เช่นกัน ทำให้เป็นศิษย์เก่าถึง 3 มหาวิทยาลัย

 

สว.อลงกต บอกว่า “พี่เรียนมหาวิทยาลัยปิดทั้ง 3 แห่งนะ ไม่ใช่ประเภท จ่ายครบ จบแน่ ยุคนั้น 3 มหาวิทยาลัยนี่คือสุดยอดของประเทศ​ ได้รับการยอมรับมากที่สุด พี่ผ่านมาหมดแล้ว”

 

จุดหักเหการทำงาน ลาออกจากราชการ ไปทำงานภาคเอกชน

 

ช่วงที่ศึกษาต่อปริญญาโทและปริญญาเอก ปรากฏว่าทางบ้านมีปัญหา ไม่มีเงินส่งเรียนต่อ ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจลาออกจากราชการ ไปทำงานภาคเอกชนอยู่หลายปี ทำงานด้านวิจัยการตลาด หรือ รีเสิร์ช มาร์เก็ตติ้ง ผ่านงานมาแล้วทั้งสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง คู่แข่ง วัฏจักร และแกรมมี่ เงินเดือนสุดท้ายคือ 2 แสนบาท ซึ่งถือว่าสูงมาก เพราะผ่านมาหลายสิบปีแล้ว ที่สำคัญการผ่านงานสื่อใหญ่ ทำให้รู้จัก “คนข่าวอาวุโส” หลายคน  รวมถึง “พิธีกรข่าวการเมืองชื่อดังแห่งยุค”

 

สว.อลงกต

 

กลับมารับราชการอีกครั้ง - เส้นทางชีวิตรับราชการ

 

“ทีมข่าว” ถามว่า ชีวิตกำลังดี ทำไมกลับมารับราชการอีก สว.อลงกต หรือ “สว.ป๊อกแป๊ก” ตอบว่า “ตอนนั้นมีเงินก้อนแล้ว ทางบ้านไม่เดือดร้อน ก็เลยกลับมารับราชการ ขอกลับเข้ารับราชการอีกรอบ ได้เป็น ผอ.กองวิชาการ กรมการปกครอง แล้วก็สอบปลัดอาวุโส ได้เป็นปลัดจังหวัด เข้าโรงเรียนนายอำเภอ เป็นนายอำเภอ”

 

เส้นทางชีวิตราชการไม่ธรรมดา เคยเป็น ผอ.กองกฎหมาย กรมการปกครอง รับผิดชอบงานมูลนิธิและสมาคมทั้งหมด เคยหย่าศึก “สมาคมฟุตบอล” ยุค “วรวีร์ - เนวิน” แต่เจ้าตัวไม่ได้บอกว่า ด้วยผลงานครั้งนั้น ทำให้ถูกตาถูกใจ “ครูใหญ่เนวิน” จนถึงเข้ัาค่ายสีน้ำเงินหรือเปล่า โดย สว.อลงกต บอกเพียงว่า ยุคนั้นใครๆ ก็รู้จัก “ผอ.ป๊อกแป๊ก”

 

ส่วนในขานักปกครอง เคยเป็นนายอำเภอร่องคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ นายอำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด นายอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

 

“ที่วารินชำราบ มีการปลุกม็อบไล่พี่ ทำให้พี่โดนย้าย แต่พี่ฟ้องชนะ ศาลลงโทษจำคุกแกนนำม็อบ 1 ปีไม่รอลงอาญา เพราะพี่ไม่ได้ผิด ตอนนั้นนายอำเภอป๊อกแป๊กก็ดังอีกครั้ง เพราะเป็นต้นแบบให้นาอำเภอทั่วประเทศ ที่ไหนมีม็อบ แล้วม็อบด่านายอำเภอ จะมาปรึกษาพี่ ว่าฟ้องอย่างไรให้แกนนำม็อบติดคุกได้”

 

เมื่อไม่ได้ผิดตามที่โดนม็อบไล่ นายอำเภอป๊อกแป๊ก จึงได้ไปเป็นนายอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี และเป็นจุดเริ่มต้นของความผูกพันกับคนจังหวัดนี้ นำมาสู่การเป็น สว.ในปัจจุบัน

 

“ตอนนั้นเป็นนายอำเภอลานสัก 2 ปี ชาวบ้านกรี๊ด รักพี่มาก ประทับใจมาก แก้ปัญหาสะพานขาด 2 วันจบ เสาร์อาทิตย์ก็อยู่พื้นที่ ไม่กลับบ้าน ไม่เคยไปไหน ชาวบ้านเดือดร้อน มาหานายอำเภอป๊อกแป๊กได้ตลอด”

 

จากผลงานที่ชาวบ้านประทับใจ ทำให้สุดท้ายเจ้าตัวได้กลับมาเป็นรองผู้ว่าฯอุทัยธานีอีก 4 ปี ก่อนจะขยับเป็นผู้ตรวจราชกระทรวงมหาดไทย และเกษียณอายุราชการ

 

สว.อลงกต เปิดใจว่า “ถือว่าติดหนี้คนอุทัยฯเยอะ คนอุทัยฯ รักพี่มาก อยากตอบแทนบุญคุณคนอุทัยฯ”

 

ทีมข่าวถามว่า อยู่อุทัยฯหลายปี เป็นสาย “ชาดา” หรือเปล่า

 

สว.อลงกต ไม่ได้ตอบคำถามนี้ บอกเพียง “พี่เขาชอบผมนะ”

 

สว.อลงกต

 

เข้าสู่เส้นทางการเมือง

 

สว.อลงกต ชี้แจงกรณีไอลอว์ เผยแพร่ภาพตนเดินไปเดินมาอย่างมีพิรุธในวันเลือก สว.ระดับประเทศ ที่เมืองทองธานี และไปพูดคุยกับประธาน กกต. ว่า ตอนเดินไปเดินมา ไม่มีอะไรเป็นพิรุธ เพราะปิดหีบแล้ว และอยากกลับ ไม่อยากรอนาน มันดึกมาก ไม่มีอาหารเลี้ยง มีแต่มาม่าคัพ กับกาแฟ

 

ส่วนสาเหตุที่ไปคุยกับประธาน กกต. ตอนแรกไปหาเจ้าหน้าที่ ไปหาเลขาฯของประธาน ถามว่ากลับได้หรือเปล่า จะขอมือถือคืน เพราะเขายึดมือถือไว้ เลขาฯบอกว่า ตอบไม่ได้ ให้ไปถามประธาน จึงเดินไปถาม สรุปว่าไม่ได้ ต้องรอ เดินไปเดินมาเพราะดึก และง่วง

 

ส่วนที่เขียนในเอกสารคุณสมบัติว่า “สว.” ความหมาย คือ “สูงวัย” เพราะอายุเกิน 60 ปีแล้ว 

 

และสาเหตุที่เลือกลง “กลุ่มอื่นๆ” ไม่เลือกสมัคร สว.กลุ่มข้าราชการ เพราะเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดตามที่มีประสบการณ์ทำงานมานาน เพราะตนลงได้หลายกลุ่ม ทั้ง นักปกครอง (มหาดไทย) , อดีตข้าราชการ  , นักดนตรี เล่นระนาด ฐ นักการตลาด มีประสบการณ์หลายปี

 

ลงได้หลายกลุ่ม แต่ถ้าไปลงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ก็เลือกไขว้ลำบาก ก็เลยลงกลุ่ม “อื่นๆ” ทำให้กลุ่มข้าราชการ ดนตรี การตลาด มาเลือกเราได้ และได้เป็น สว.ในที่สุด