สั่ง นทท.งดขึ้นจุดชมวิวเนิน 500 หลังไฟไหม้ “ศาลาตรีมุข
สั่งนักท่องเที่ยว งดขึ้นจุดชมวิวเนิน 500 หลังไฟไหม้ “ศาลาตรีมุข” ขณะที่ทหารทั้ง 2 ชาติ วางกำลังชายแดนไทย-กัมพูชา ตามปกติ
6 มีนาคม 2568 ความคืบหน้ากรณีเหตุ ไฟไหม้ “ศาลาตรีมุข” บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ใกล้ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งทางโฆษกกองทัพบก ระบุว่า เกิดจากไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนในฝั่งกัมพูชา และลุกลามมายังศาลาตรีมุข ซึ่งอยู่ในเขตที่กัมพูชาดูแล จนทำให้ไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมด ซึ่งศาลาตรีมุขตั้งอยู่ติดแนวชายแดน 3 ประเทศคือไทย - ลาว และ กัมพูชา
ล่าสุด แหล่งข่าวระบุว่า ในพื้นที่ยังคงมีการวางกำลังทหารของทั้ง 2 ประเทศ ตามแนวชายแดนตามปกติ แต่ในส่วนของกองกำลังสุรนารี ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนตลอดแนว ตั้งแต่จังหวัดอุบลราชธานี ถึงจังหวัดสุรินทร์ ยังคงติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ เพื่อป้องการกระทำผิดเงื่อนไขชายแดน พร้อมทั้งตรวจสอบการละเมิด MOU 43 ตลอดแนวที่มีการวางกำลัง
ซึ่งเหตุการณ์ไฟไหม้ศาลตรีมุข ไม่ส่งผลกระทบกับฝ่ายไทย เพราะที่ผ่านมามีการใช้ศาลาในการพบปะกันของทหารที่ลาดตระเวนในพื้นที่เท่านั้น ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่า ศาลาตรีมุข เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันของทหาร 3 ประเทศ ชาวบ้านก็เคยมีการเข้าไปร่วมทำกิจกรรมที่ศาลาตรีมุข เช่น การตักบาตรร่วมกัน 3 ประเทศ การเล่นกีฬาสานสัมพันธ์ และชาวบ้านยังมีการนำสิ่งของขึ้นไปขายแลกเปลี่ยนสินค้ากัน แต่ช่วง10 ปีที่ผ่านมา มีการปิดไม่ให้ชาวบ้านขึ้นไปทำกิจกรรม มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนเท่านั้น
ส่วนในพื้นที่บริเวณฐานปฏิบัติการมรกต อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ไม่อนุญาตให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวขึ้นไป โดยเฉพาะจุดชมวิวเนิน 500 ที่เมื่อเดือนที่แล้วยังสามารถขึ้นไปได้ แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา ก็ไม่อนุญาตให้ขึ้นไป เพราะอาจไปกีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ หากมีประชาชนในพื้นที่เข้ามาหาปลา ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำพลาญเสือตอนล่าง เจ้าหน้าที่จะให้ลงชื่อและถ่ายภาพไว้ แต่อนุญาตเฉพาะพื้นที่บริเวณที่อยู่ติดกับฐานมรกตเท่านั้น (ใช้ภาพแผนที่)
สำหรับเส้นทาง ไปศาลาตรีมุข หากดูจากแผนที่เริ่มต้นจากฐานมรกตไปศาลาตรีมุข จะเป็นถนนลาดยาง ผ่านอ่างเก็บน้ำพลาญเสือตอนล่าง ขับไปประมาณ 7 กม. ถึงอ่างเก็บน้ำพลาญเสือตอนบน และขับขึ้นไปอีก ประมาณ 5 กม. ก็จะถึงศาลาตรีมุข รอบข้างจะเป็นป่าไม้ทั้งหมด โดยหมู่บ้านสุดท้ายก่อนขึ้นไปถึงศาลาตรีมุขคือ บ้านโนนสูง ซึ่งห่างกันราว 13 กม. ส่วนจุดชมวิวเนิน 500 หากขับรถจากฐานมรกต ไปประมาณ 5 กม. เลี้ยวขวาออกจากแยกที่จะไปศาลาตรีมุข อีก 5 กม. ก็ถึงจุดชมวิวเนิน500 ซึ่งก่อนเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ศาลาตรีมุข นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางขึ้นไปเที่ยวได้
สำหรับศาลาตรีมุข มีลักษณะเป็นศาลาที่มีหน้าจั่ว 3 ด้าน บริเวณหน้าจั่วแต่ละด้านแสดงออกถึงสัญลักษณ์ของไทย - ลาว และกัมพูชา เป็นสัญลักษณ์มิตรภาพของ 3 ประเทศ เนื่องจากภายในศาลาจะมีพระพุทธรูป 3 องค์ ที่อัญเชิญมาแต่ละประเทศเพื่อประดิษฐาน การก่อสร้างใช้กำลังทหารจาก 3 ประเทศ และร่วมกันสร้างในพื้นที่ซึ่งเรียกว่าสามเหลี่ยมมรกต ซึ่งเป็นแนวชายแดนของทั้ง 3 ประเทศ
