
5 มีนาคม 2568 ปมร้อนเหตุเพลิงไหม้ ศาลาตรีมุข บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ใกล้ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพของ 3 ประเทศ ไทย-ลาว-กัมพูชา ท่ามกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ ระหว่างประเทศในครั้งนี้ ที่อาจนำไปสู่ความตึงเครียดระหว่างไทยและเพื่อนบ้านอีกครั้ง
โดย “ศาลาตรีมุข” อยู่ใน พื้นที่ช่องบก ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2536 สมัย พล.ท.อิสระพงศ์ หนุนภักดี เป็นแม่ทัพภาคที่ 2 บริเวณจุดกึ่งกลางของสามเหลี่ยมมรกตรอยต่อ 3 ประเทศไทย-ลาว-กัมพูชา โดยใช้กำลังทหารทั้ง 3 ประเทศมาช่วยกันสร้าง หันหน้าจั่วของศาลาทั้ง 3 ด้านไปยัง 3 ประเทศ
แต่ละด้านมีสัญลักษณ์ของแต่ละชาติติดตั้งอยู่ โดยจั่วด้านไทยเป็นรูปพระพุทธรูป จั่วด้านลาวเป็นรูปดอกเซียงเมี่ยง หรือดอกลั่นทม จั่วด้านกัมพูชาเป็นรูปแกะสลักของขอมโบราณ
ภายในศาลาประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์จากแต่ละประเทศไว้ให้ประชาชนทั้ง 3 ประเทศกราบไหว้สักการะบูชา
แต่เนื่องจาก ศาลาตรีมุข ตั้งอยู่กลางป่าลึก ปัจจุบันจึงมีสภาพทรุดโทรม เพราะไม่ได้ซ่อมแซมบูรณะเป็นเวลานาน แต่ก็ยังเป็นสถานที่สำคัญที่ทหารทั้ง 3 ประเทศใช้เป็นที่พบปะพัฒนาสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนบ้านอยู่เสมอ
พื้นที่สามเหลี่ยมมรกตแห่งนี้ เคยมีแนวคิดที่จะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญร่วมกัน 3 ประเทศ สร้างสนามกอล์ฟที่ทั้ง 18 หลุมอยู่ในดินแดน 3 ประเทศ เปิดจุดผ่านแดนให้สามารถทำการค้าร่วมกัน 3 ประเทศ รวมถึงพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงอีสานใต้-เขมรเหนือ-ลาวใต้ ที่มีธรรมชาติสวยงามเพื่อสร้างเศรษฐกิจการค้าชายแดน
แม้ยังไม่ได้สร้างสนามกอล์ฟ แต่ก็เคยมีการจัดกิจกรรมร่วมสานสัมพันธ์ 3 ประเทศ มาก่อนเหมือนกัน เช่น การปั่นจักรยาน กิจกรรมวิ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 กองกำลังสุรนารี ได้รับรายงานเกิดเหตุเพลิงไหม้ ศาลาตรีมุข หรือศาลารวมใจ บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ใกล้ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดย พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 และทหารกัมพูชา ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสำรวจความเสียหายและหาสาเหตุเพลิงไหม้ พร้อมพูดคุยกันเพื่อกำชับให้แนวชายแดนมีความเรียบร้อย และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุต่างๆ ต่อไป