โฆษก ทบ. แจงปมศาลาตรีมุขถูกเผา เกิดจากไฟไหม้บ้านเรือนชาวกัมพูชา
"โฆษก ทบ." แจงปม "ศาลาตรีมุข" ถูกเผา เกิดจากไฟไหม้บ้านเรือนชาว"กัมพูชา" จนลุกลามมาที่ศาลาฯ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพของไทย-ลาว-เขมร
5 มีนาคม 2568 "พลตรี วินธัย สุวารี" โฆษกกองทัพบก ชี้แจงเหตุไฟไหม้ศาลาตรีมุข ที่บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ใกล้ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 กองกำลังสุรนารี ได้รับรายงานจากทหารกัมพูชา ว่ามีเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนกัมพูชา และเกิดการลุกลามไปยังศาลาตรีมุข ซึ่งอยู่ในขอบเขตที่ทางฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ดูแล จนทำให้ศาลาฯ ถูกไฟไหม้เสียหายหมด
สำหรับศาลาตรีมุข มีลักษณะเป็นศาลาที่มีหน้าจั่ว 3 ด้าน หน้าจั่วแต่ละด้านจะแสดงออกถึงสัญลักษณ์ของแต่ละชาติ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว และกัมพูชา เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพของ 3 ประเทศ ภายในศาลาจะมีพระพุทธรูป 3 องค์ ที่อัญเชิญมาจากแต่ละประเทศ ประดิษฐานอยู่ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มากราบไหว้ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ที่พักผ่อน สร้างขึ้นมากว่า 30 ปีแล้ว ในช่วงปี 2533-2536 โดยใช้กำลังจากทหารของทั้ง 3 ประเทศ ร่วมกันสร้างบนพื้นที่ที่เรียกกันว่าสามเหลี่ยมมรกต ซึ่งเป็นแนวชายแดนของทั้ง 3 ประเทศ
ทั้งนี้ ปกติในทุกวันพระ มักจะมีประชาชนไปพักผ่อนและไหว้พระกันที่ศาลาฯ ตามวิถีชนบท ส่วนปัจจุบันยังไม่ได้รับรายงานถึงผลกระทบใดๆ กับฝ่ายไทย
“ภูมิธรรม” สั่งกองทัพบก เร่งสอบเหตุเพลิงไหม้ “ศาลาตรีมุข”
พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงเหตุไฟไหม้ศาลาตรีมุข หรือศาลารวมใจ บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ใกล้ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ว่า ล่าสุดทหารไทย โดยกองทัพภาคที่ 2 และทหารกัมพูชา ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสำรวจความเสียหายและหาสาเหตุเพลิงไหม้ พร้อมพูดคุยกันเพื่อกำชับให้แนวชายแดนมีความเรียบร้อย และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุต่างๆ
“ทุกอย่างจบด้วยการเจรจา ไม่ใช่การใช้กำลัง และเรื่องนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมทราบเรื่องแล้ว และได้สั่งการให้กองทัพบกช่วยตรวจสอบรายละเอียด และเน้นย้ำเรื่องการระมัดระวังกับประเทศเพื่อนบ้านที่พรมแดนติดกัน หากมีการพูดคุยกับก็น่าจะจบ“
ส่วนข้อสงสัยว่าถูกทหารกัมพูชาเผา ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น พลตรี ธนาธิป ยืนยันว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบร่วมกันแล้ว ต้องไปดูรายละเอียดว่าจริงเท็จอย่างไร คงจะไปชี้ชัดไม่ได้เพราะทุกอย่างต้องจบด้วยการเจรจา หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละมิด ก็ต้องมีการขอร้องกันว่าอย่าทำอะไรที่เกินกว่านี้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เรายังมีเรื่องใหญ่คือการนำเรื่องที่ถูกหลอกจากแก๊งคอลเซนเตอร์จากปอยเปต กลับมาฝั่งไทย นี่คือเรื่องใหญ่
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องการหยามเกียรติ แต่ขอให้มองว่าขณะนี้ไทยกับกัมพูชา กำลังทำงานใหญ่ด้วยกัน ทั้งการสกัดกันยาเสพติด และการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ทางการกัมพูชา ส่งคนไทยที่เป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ให้ไทยแล้ว 3 ล็อต แบ่งเป็น ล็อตแรก 119 ราย ล็อตสอง 102 ราย และล่าสุดล็อตที่สาม 98 ราย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายภูมิธรรม และ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กัมพูชา มีกำหนดการร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา หรือ GBC ครั้งที่ 17 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ในห้วงเดือน มี.ค.นี้