svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ยื่นคำร้องศาล ออกหมายจับ “เอกราช” ไม่มาฟังคำพิพากษา อ้างป่วย

ทนาย ยื่นคำร้องต่อศาลออกหมายจับ “เอกราช ช่างเหลา” ส.ส.พรรคภูมิไทย คดียักยอกเงินสหกรณ์ฯ ครู 431 ล้าน อ้างป่วย-ประวิงเวลา ไม่มาฟังคำพิพากษา ชี้พฤติการณ์โกหกหลอกลวงศาล

จากกรณีพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย จำเลย ในฐานความผิดร่วมกันยักยอกทรัพย์ ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม กรณีทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น กว่า 431 ล้านบาท ระหว่างปี 2554-2562 ในขณะดำรงตำแหน่งผู้จัดการสหกรณ์ฯ ซึ่งศาลจังหวัดขอนแก่น ได้มีการนัดฝ่ายโจทก์และจำเลยมาฟังคำพิพากษาคดีล่าสุดเมื่อวันที่11กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แต่ทีมทนายฝ่ายจำเลย ได้ยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษา โดยอ้างว่า นายเอกราช (จำเลย) ไม่สามารถเดินทางมาที่ศาลเพื่อฟังคำตัดสินได้ เนื่องจากมีอาการป่วยด้วยโรคหลอดลมอักเสบ ขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 กทม. และยังไม่มีกำหนดวันออกจากโรงพยาบาล

“เอกราช ช่างเหลา” ส.ส.พรรคภูมิไทย

17 กุมภาพันธ์ 2567 ความคืบหน้าล่าสุด นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เปิดเผยว่า วันนี้ทนายโจทย์ร่วมสหกรณ์ฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้มีการออกหมายจับ เนื่องจากพฤติกรรมของจำเลยเป็นการโกหกหลอกลวงศาล และประวิงเวลา โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

ยื่นคำร้องศาล ออกหมายจับ “เอกราช” ไม่มาฟังคำพิพากษา อ้างป่วย

  1. คดีนี้ศาลนัดอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่11 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.00 น. แต่นายเอกราช ช่างเหลา จำเลย ไม่มาฟังคำพิพากษา อ้างว่าป่วยหนักจากโรคหลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ กรดไหลย้อน เข้ารักษาโรงพยาบาลตั้งแต่ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 และไม่มีกำหนดออกจากโรงพยาบาล ศาลจึงอนุญาตให้เลือนนัดฟังคำพิพากษาในวันที่17 เมษายน 2568 เวลา 09.00 น. 
  2. ต่อมาปรากฏว่าจำเลยไม่ได้ป่วยหนักดังที่อ้างต่อศาลแต่อย่างใด โดยเมื่อวันที่13 กุมภาพันธ์ 2568 จำเลย ยังได้ปรากฏภาพการเข้าร่วมประชุม ส.ส. โดยไม่มีสภาพของคนเพิ่งหายป่วยเลย และวันที่14 กุมภาพันธ์ 2568 จำเลยยังได้ปรากฏตัวร่วมทีมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ลงพื้นที่จ.ขอนแก่น ยืนตากแดดและถ่ายภาพหมู่อย่างร่าเริง ไม่มีวี่แววเหมือนคนเพิ่งหายป่วยหนักเลย 

ทั้งนี้ ในท้ายคำร้อง ระบุเพิ่มเติมว่า การที่จำเลยอ้างต่อศาลว่าตนเองป่วยหนัก ถึงขนาดต้องนอนโรงพยาบาลและไม่มีกำหนดออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ป่วย เป็นการโกหก หลอกลวงศาล ทำให้คดีต้องล่าช้าออกไป เป็นการประวิงคดี ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง ทั้งเป็นการละเมิดอำนาจศาลอย่างให้อภัยมิได้  ดังนั้น ฝ่ายโจทย์ร่วมสหกรณ์ประสงค์ให้ศาลโปรดออกหมายจับจำเลยมาลงโทษตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

ยื่นคำร้องศาล ออกหมายจับ “เอกราช” ไม่มาฟังคำพิพากษา อ้างป่วย