
หลังเสร็จศึกเลือกตั้งนายก อบจ. “เนชั่นทีวี” เป็นสื่อแรกๆ ที่มีการฟันธงถึงประเด็นการเมืองใน 2 ประเด็น
1.ต้องมีการแก้แค้นเอาคืน จากเพื่อไทย
2.ต้องมีการปรับ ครม. ตามมา
ถึงวันนี้ ทุกสื่อ กูรูทุกสำนัก เห็นตรงกันหมดแล้ว และนำเสนอข่าวกับมุมการวิเคราะห์ไปในทิศทางเดียวกัน คือ ปรับ ครม, และมีเกมเอาคืน หนึ่งในนั้นก็คือเกมล้ม สว. ทำให้นักวิเคราะห์ประเมินภาพรวมการเมืองนับจากนี้ว่า ศึกสองพรรคจะรุนแรง ดุเดือดยิ่งขึ้นไปอีก
1.ข้อมูลวงใน - เพื่อไทยกับภูมิใจไทยมีการต่อรองเรื่องกระทรวงกันสูงมาก
มีการยื่นเงื่อนไขจากมุมแดง ให้มุมน้ำเงินทำตามนโยบายของพรรคแกนนำ และแสดงท่าทีเป็นบวกกับผู้นำรัฐบาล เพื่อภาพการนำที่แท้จริงของนายกฯแพทองธาร ซึ่งอดีตนายกฯทักษิณต้องการวางเกมให้ลูกสาวนั่งนายกฯต่ออีก 1 สมัย
สอดคล้องกับการนำเสนอข่าวก่อนหน้านี้ ว่ามีการพบปะหารือกันระหว่าง “นายใหญ่ กับครูใหญ่” ช่วงหลังปีใหม่ 6 ม.ค.68 ซึ่งมี “เสี่ยหนู” ร่วมวง มีการกล่าวฝากจากฝ่ายหนึ่งถึงอีกฝ่ายหนึ่ง ทำนองว่า “อย่าให้มีแบบนี้อีก” **เราไม่ได้ยินน้ำเสียง จึงไม่แน่ชัดว่า ขู่ หรือ ขอ
2.(กลับไปที่บทวิเคราะห์ของคุณศักดา) เกมต่อรองที่ยังไม่ลงตัว ทำให้เห็นปฏิบัติการหลายเรื่องเพื่อประลองกำลัง
เช่น เขี่ยลูก “ล้ม สว.” VS ภท.ดิ้นสู้ด้วยการแถลงข่าวไม่ร่วมสังฆกรรมแก้รัฐธรรมนูญ
3.เพื่อไทยไม่ได้เผชิญศึกกับ “ค่ายสีน้ำเงิน”หน้าเดียว (คำว่า ค่ายสีน้ำเงิน หมายรวมถึง ภูมิใจไทย และ สว.เขากระโดง)
เพราะวันนี้ “พรรคสีธงชาติ” ขอผนึกกำลังร่วมกับ “พรรคสีน้ำเงิน” เพื่อคานอำนาจเพื่อไทย สอดรับกับข่าวที่เคยมีการเปิดประเด็นไปแล้วว่า ขณะที่มีข่าว “ครูใหญ่ พบนายใหญ่” และ “นายใหญ่คุยคุณพี” ก็มีข่าว “คุณพี พบครูใหญ่” ด้วยเช่นกัน แถมมีความตกลงกันบางอย่าง
4.สองพรรคฐานน้ำเงิน คือ พรรคสีน้ำเงิน และพรรคสีธงชาติ ร่วมกันวาดอนาคตเลือกตั้งปี 70 และมีความหวังจากสถานการณ์ปัจจุบันที่เพื่อไทยออกอาการ “ง่อนแง่น” ว่าอาจมีจังหวะช่วงชิงการเป็นแกนนำจัดตั้วรัฐบาลได้เหมือนกัน เพราะรวบรวมเสียงได้เป็นกอบเป็นกำ และแพ็กกันแน่
**ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 แต่ใช้ “กลุ่มพรรค” สู้กับคู่แข่งรายพรรค
**แต่อาจจับพรรคร่วมรัฐบาลกลุ่มเดิม โดยเสนอชื่อ “เสี่ยหนู” หรือ “คุณพี” เป็นนายกฯ (แล้วแต่สถานการณ์)
5.การสื่อสารของสองพรรคฐานน้ำเงิน เชื่อมถึง “แกนนำอนุรักษ์นิยมตัวตึง” เห็นตรงกันว่า “ค่ายสีแดง” ไว้ใจไม่ได้ มีโอกาสที่จะกลับลำ ข้ามขั้วไปผสมกับ “สีส้ม” ด้วยแผน “ลิงหลอกเจ้า”
6.การเล่นเกมขวางแก้รัฐธรรมนูญวันนี้ เป็นการวัดพลังยกสำคัญของ “สองพรรคฐานน้ำเงิน” และ “สว.สีน้ำเงิน” โดยมี “มือที่มองไม่เห็น” แอบช่วยประสานอยู่ข้างหลังด้วย
หมากเกมนี้...บอกอะไร
1.ก้าวเข้าสู่ครึ่งทางของรัฐบาล สองพรรคใหญ่ร่วมรัฐบาลเปิดหน้าสู้กันจริงๆ แล้ว เพื่อวัดความนิยม เพราะเป้าหมายของภูมิใจไทย คือ “พรรคต้นขั้ว” หรือ พรรคอันดับ 1 ของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ไม่ยอมเป็นสองรองจากเพื่อไทยไปตลอด
*** โอกาสความเป็นไปได้
- ชนกับเพื่อไทยในอีสาน เหนือตอนล่าง และภาคกลางลุ่มเจ้าพระยา ถ้าชนะพื้นที่ไหน เท่ากับได้ไป-กลับ คือ เพิ่มแต้มน้ำเงิน และลดแต้มแดง
- ลุยเดี่ยวขยายฐานภาคใต้ ทั้งใต้ตอนบน ตอนกลาง และสามจังหวัดชายแดน ถ้าชนะพื้นที่ไหน เท่ากับยิ่งเพิ่มแต้มฝ่ายเดียว เพราะแดงปิดประตูใต้
- พื้นที่ที่ไม่มีน้ำเงินแข่ง แต่แดงก็ไม่ง่าย เพราะเจอส้มขย่มเขย่า ( กทม. ปริมณฑล เขต 1 เมืองใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดเศรษฐกิจ และภาคเหนือตอนบน รวมถึงภาคตะวันออก)
2.การกล้าเล่นเกมหนัก ทั้งจากพรรคสีน้ำเงิน และพรรคสีธงชาติ เพราะทั้งสองพรรคประเมินถี่ถ้วนแล้วว่า เพื่อไทยยังไม่กล้าปรับออก เพราะไม่พร้อม
3.เพื่อไทยกำลังชั่งใจว่า จะสู้ หรือจะยอมหมอบแบบ "แกล้งตาย"
**ถ้าสู้ จะใช้วิธีปรับ ครม.แบบกระชากแรง ริบกระทรวง โดยไม่ปรึกษา (เช่น ดึงกลับ มหาดไทย พลังงาน แล้วไม่เอาคมนาคมไปแลก)
**วัดใจ ปรับแบบนี้จะกล้าออกหรือไม่ เป็นเรื่องของสองพรรคฐานน้ำเงินคิดเอง
4.เพื่อไทยเดินเกม “ดูด สส.” หนักหน่วง
**ทีมยุทธศาสตร์เล่าว่า ตัวเลข 200 ที่อดีตนายกฯพูดทุกเวที จริงๆ คือตัวเลขตั้งต้นที่มีอยู่แล้ว เพราะระหว่างเดินสายพบบ้านใหญ่ และเปิดเวทีอบจ. ก็เปิดปฏิบัติการ “ดูด” เข้าพรรคด้วย
- มีทั้ง สส.สีน้ำเงิน สีธงชาติ (เช่น ขุนศึกที่เคยประดาบกับแม่ทัพอัลไซเมอร์ - ตอนศึกบ้านใหญ่เมืองชลฯ เสี่ยเฮ้งด่าคุณปลื้ม) รวมถึงสีฟ้า และสีส้ม
- ใช้ “อาวุธลับ” ดูด สส.จาก “ค่ายบ้านป่า” จนบ้านร้าง เหลือแต่ลุงกับเงา
**ถ้าจังหวะการเมืองได้ สมการเสียงในสภาเปลี่ยนพอดี ก็อาจได้เห็น “ดีหมีเพื่อไทย” เปิดเกมใหญ่วัดใจสองพรรคฐานน้ำเงิน
5.เกมนี้ถ้าไม่จบสวยตามที่แต่ละฝ่ายคิด จะเข้าทาง “ผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ” กลุ่มไม่เอาทักษิณ และต้องการล้มรัฐบาล เพราะวางเกมสร้างความปั่นป่วน เพื่อเปิดทางอำนาจนอกระบบ หรืออย่างน้อยก็ให้รัฐบาลแพทองธารจบ ปิดฉาก แล้วค่อยเปิดเกมใหม่