svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

แห่แสดงความเห็น "ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ยอดพุ่งเกินครึ่งแสน

"กฤษฏีกา" เผย"ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ได้รับความสนใจจากประชาชน แห่เข้ามาแสดงความเห็นเกินครึ่งแสน เมื่อเทียบกับครั้งแรก แค่หลักพันคน 

11 กุมภาพันธ์  2568  ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า  สืบเนื่องจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568  มีมติ เห็นชอบในหลักการ "ร่างกม.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร" หรือ "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" 

โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกฤษฎีกานำไปตรวจร่าง โดยวางกรอบเวลาทำงาน 50 วัน ก่อนเสนอกลับเข้าที่ประชุม ครม.เพื่อเห็นชอบส่งเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯต่อไปนั้น

แห่แสดงความเห็น "ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ยอดพุ่งเกินครึ่งแสน

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดย"ปกรณ์ นิลประพันธ์" เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ดำเนินการส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ"ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" พร้อมกับเปิดระบบการรับฟังความเห็นจากประชาชนผ่านช่องทางเว็ปไซต์สำนักงาน ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม -14 กุมภาพันธ์  2568 หรือ 15 วัน ซึ่งผ่านมาถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 มีผู้ขอเข้ามาแสดงความเห็นกว่าห้าหมื่นคน เป็นจำนวนตัวเลขที่สูงมากนับตั้งแต่มีการเปิดรับฟังความเห็นร่างกฎหมายฉบับต่างๆ

ทั้งนี้  เว็ปไซต์สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา ได้เปิดรับฟังความเห็นตั้งแต่วันที่  31 มกราคม 2568 – 14 กุมภาพันธ์ 2568 หรือเหลือเวลาเพียง 4 วัน จะปิดระบบการรับฟังความเห็น โดยมีผู้เข้ามาแสดงความเห็น ทั้งเสนอให้ปรับปรุงแก้ไขร่างกม. ทั้งการเสนอผลกระทบมิติต่างๆ  ทั้งการสนับสนุนและคัดค้าน รวมเป็นจำนวน 58,448 คน

การเปิดรับฟังความเห็นครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่สอง หลังจากจากครั้งแรก "สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา" ได้เปิดรับฟังความเห็นตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2567 – 18 สิงหาคม 2567 ปรากฎว่ามีผู้เข้ามาแสดงความเห็นจำนวน 4,908 คน 

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา เปิดรับแสดงความเห็นร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ครั้งที่ 1

 

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาเปิดรับฟังความเห็นร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ครั้งที่ 2

การเปิดรับฟังความเห็นครั้งที่ 2  ที่มีจำนวนผู้แสดงความเห็นกว่าครึ่งแสน  สะท้อนให้เห็นว่า "ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ได้รับความสนใจในวงกว้างมากขึ้น เมื่อเทียบกับการเปิดแสดงความเห็นครั้งแรกเพียงแค่หลักพัน ในระยะเวลาการดำเนินโครงการใกล้เคียงกัน คือ 15 วัน     

นอกจากนี้ "ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ยังถูกจับตามองโดยเฉพาะประเด็นที่รัฐบาลมีความต้องการผลักดัน สถานกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย อยู่ในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ยังไม่สามารถตกผลึกความคิดในเรื่องการกำหนดสัดส่วนพื้นที่เป็นขนาดเท่าใด 

 

อย่างไรก็ดี  สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อธิบาย สภาพปัญหาและสาเหตุของปัญหา ทำให้มีการยกร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 

ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวและสถานบันเทิงหลากหลายประเภทไว้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่สามารถสร้างงานและสร้างรายได้แก่ประเทศเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดี การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงยังคงถูกควบคุมด้วยกฎเกณฑ์ทางกฎหมายและกฎหมายที่ว่าด้วยความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของบ้านเมืองและประชาชน โดยมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ให้คำนิยาม "สถานบริการ" หมายถึง สถานที่ที่ตั้งขึ้นเพื่อให้บริการโดยหวังประโยชน์ในการค้า

เช่น 1) สถานเต้นรำ รำวง หรือ รองเง็ง ประเภทที่มีและประเภทที่ไม่มีคู่บริการ 2) สถานที่มีอาหาร สุรา น้ำชา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่ายและบริการโดยมีผู้บำเรอสำหรับปรนนิบัติลูกค้า 3) สถานอาบน้ำ นวด หรืออบตัว ซึ่งมีผู้บริการให้แก่ลูกค้า และ 4) สถานที่มีอาหาร สุรา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่ายหรือให้บริการ โดยจัดให้มีการแสดงดนตรี หรือการแสดงอย่างอื่นเพื่อความบันเทิง เป็นต้น

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะสถานบริการและสถานบันเทิง ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้รายได้ของประชาชนที่ประกอบอาชีพอยู่ในภาคบริการ และรายได้จากนักท่องเที่ยวในภาพรวมของประเทศลดลงเป็นจำนวนมาก และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มผ่อนคลายลงจึงเป็นช่วงเวลาอันดีที่จะพิจารณากลไกมาตรการต่าง ๆ เพื่อเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมกลุ่ม Fun Economy ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมตั้งแต่การท่องเที่ยว กีฬา สถานบันเทิง ธุรกิจ และการประชุมสัมมนาหรือไมซ์ (MICE) ทั้งยังเป็นอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการต่อยอด โดยหนึ่งในแนวทางที่ดำเนินการได้ คือ การสร้างสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อเป็นสถานที่สำหรับประกอบธุรกิจบันเทิงที่มีองค์ประกอบของธุรกิจหลากหลายประเภทรวมกัน เช่น โรงแรม ศูนย์การประชุม ศูนย์การจัดแสดงสินค้า ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ธนาคาร สวนสนุก สนามกีฬา เป็นต้น ร่วมกับกาสิโน เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่และสร้างรายได้ให้กับประชาชนและประเทศ และเป็นการทำให้ธุรกิจกาสิโนเข้ามาอยู่ในระบบการบริหารจัดการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ภาครัฐสามารถกำกับดูแลและจัดเก็บภาษีจากสถานบันเทิงครบวงจรดังกล่าวเพื่อเป็นรายได้ของประเทศได้

 

ความจำเป็นที่ต้องตรากฎหมาย

กฎหมายที่บังคับใช้ในปัจจุบันที่มีความใกล้เคียงกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ได้แก่

1) พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งได้กำหนดคำนิยาม “สถานบริการ” ไว้ ดังที่ได้แสดงข้างต้น

2) พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ซึ่งได้กำหนดหลักเกณฑ์และประเภทการพนันที่อนุญาตให้มี หรือเข้าเล่น หรือเข้าพนันได้ และ

3) พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงื่อนไขการพนัน ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 (ฉบับที่ 2) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ประกาศ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2482) โดยมาตรา 4 ของพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ ระบุว่า การพนันบางรายการจะจัดให้มี เข้าเล่น หรือเข้าพนันได้ ณ สถานกาสิโนของรัฐบาล ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจัดตั้งขึ้น อย่างไรก็ดี กฎหมายทั้ง 3 ฉบับดังกล่าวได้ถูกใช้บังคับมาเป็นเวลานานมาก และยังไม่ครอบคลุมรูปแบบการดำเนินการและประเภทธุรกิจที่จะจัดให้มีขึ้นในสถานบันเทิงครบวงจร ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมกลุ่ม Fun Economy ของประเทศ ผ่านการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ที่มีหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการ ตลอดจนการกำกับดูแลที่รอบคอบ ครอบคลุม และชัดเจน จึงจำเป็นต้องตรากฎหมายฉบับนี้ 

แห่แสดงความเห็น "ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ยอดพุ่งเกินครึ่งแสน

ความมุ่งหมายและผลสัมฤทธิ์ที่พึงประสงค์

การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรมีกฎหมายรองรับการดำเนินการ มีมาตรการเพื่อกำกับดูแลผู้ประกอบการ (นักลงทุน) แรงงาน ผู้เล่นทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และมีมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบที่ประชาชนอาจได้รับจากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร รวมไปถึงการขยายตัวของนักท่องเที่ยวในอุตสาหกรรมกลุ่ม Fun Economy ซึ่งสร้างรายได้ให้ประชาชนและผู้ประกอบการ และส่งผลให้ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น

 

ไทม์ไลน์ การผลักดันร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์


- ครม.ยุคเศรษฐา มีมติ เห็นชอบรายงานผลการศึกษา กมธ.สภาฯ  และมอบหมายกระทรวงการคลังรับไปยกร่าง กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

- สคก.เปิดรับฟังความเห็นตั้งแต่ 2 สิงหาคม - 18 สิงหาคม มีผู้เข้ามาเสนอความเห็น 4,908 คน  

13 ม.ค. 68  ครม.แพทองธาร เห็นชอบในหลักการร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มอบหมายกฤษฏีกาตรวจพิจารณา

-สคก. เปิดรับฟังความเห็นครั้งที่ 2  ระหว่างวันที่ 31 มกราคม  -14 กุมภาพันธ์ 2568 มีผู้เข้ามาแสดงคงวามเห็น  51,837 คน 

-สคก. เสนอ ครม. เพื่อส่งเข้าสภา ภายใน 1-2 เดือน หรือ กุมภาพันธ์ -มีนาคม 2568 นี้