svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

จี้รัฐรื้อด่วน "ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ฉบับซ่อนรูป

วงเสวนาวิชาการ "นวลน้อย" เตือนรัฐระวังถูกขึ้นบัญชีเทา ประเทศแหล่งฟอกเงิน "มาดามเดียร์"เรียกร้องขอสัดส่วนภาคประชาชนร่วมบอร์ด ถ่วงดุลอำนาจล้นฟ้านายกฯ ด้าน"พรรคปชน." จี้รัฐบอกมาตรงๆ ต้องการทำ"กาสิโน"ถูกกฎหมาย

4 กุมภาพันธ์ 2568  ที่ห้องประชุม A3 -301. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รังสิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้จัดกิจกรรมเสวนา "ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ... "Luck and law" โดยมีผู้ร่วมบรรยาย "รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์" อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน "คุณวทันยา บุนนาค" อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ "คุณกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์" พรรคประชาชน

ทั้งนี้ทางคณะนิติศาสตร์ได้เชิญตัวแทน"พรรคเพื่อไทย" มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย แต่ปรากฎว่า เมื่อถึงช่วงบรรยาย ไม่มีตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยปรากฎตัว

เสวนา "ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ... "Luck and law"

สำหรับการแลกเปลี่ยนความเห็นครั้งนี้ ทั้งสามท่าน ได้แสดงความกังวลต่อเนื้อหา "ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ที่ถูกยกร่างโดยกระทรวงการคลัง และครม. มีมติเห็นชอบในหลักการครม. ส่งให้กฤษฎีกา ตรวจทาน เพราะแตกต่างจากร่างกม.ที่คณะกรรมาธิการศึกษาเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ อีกทั้ง ร่างกม.ฉบับดังกล่าว มีเนื้อหาที่มีความสับสนในตัวเอง เป็น"ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนคอมเพล็กซ์" หรือซ่อนรูป ต้องการทำกาสิโนให้ถูกกม.กันแน่.

"นายกันตพงษ์" จากพรรคประชาชน เสนอว่า ควรทำกฎหมายแยกไปเป็นคนละฉบับไปเลย เนื้อหาร่างกม.ฉบับกระทรวงการคลัง มีความคลุมเครือ ไม่ครอบคลุม ควรศึกษากรอบกฎหมาย จากต่างประเทศ ให้รอบคอบกว่านี้

กันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์" พรรคประชาชน

"อย่างสิงคโปร์ .มี 13 หมวด อินเดีย มี 20 หมวด แต่ของเรามี 9 หมวด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัตถุประสงค์ ต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่กลับจะสร้างแหล่งการพนันถูกกฎหมาย โดยเขียนไว้ในกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ต่างประเทศจริงจัง ในการออกออกกฎหมาย ป้องกันการก่อเหตุจากผลกระทบจากการมีกาสิโน โดยเขียนไว้ในกฎหมายด้วยถ้าจะทำกาสิโนถูกกฎหมาย บอกมาตรงๆ ไม่ใช่เลี่ยงไปว่า. ทำกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ "

ด้าน "รศ.ดร.นวลน้อย" กล่าวว่า จากตัวเลขนักท่องเที่ยวก่อนโควิด เรามีนักท่องเที่ยวเข้ามาสร้างรายได้เข้าประเทศ 40 ล้านคน. หลังโควิด 3 ปี ตอนนี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยว 35 ล้านคน ซึ่งจะใกล้เคียงกับก่อนโควิด โดยที่ยังไม่มีกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ด้วยซ้ำ ตกลงการจะออกกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจริงหรือ"

"รศ.ดร.นวลน้อย" ยกตัวอย่างความสำเร็จอย่างสิงคโปร์ ที่เขามีการศึกษารัดกุม ก่อนจะมีกาสิโน และการที่คนในรัฐบาลพยายามยกตัวอย่าง สิงคโปร์ เป็นแม่แบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ดิฉันก็อยากบอกว่า สิงคโปร์มีการระบุสัดส่วนพื้นที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ชัดเจน คือพื้นที่ทำกาสิโนไม่เกิน 3 เปอร์เซนต์ แต่ของเรากำหนดต้องมีพื้นที่ 10 เปอร์เซนต์ในการทำกาสิโน”

"ปัจจุบันสิงคโปร์มีรายได้ จากนักท่องเที่ยวเข้ามาในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ สองแห่ง แสนกว่าล้าน เก็บภาษีพนันซึ่งแปลงเป็นเงินไทย คือ 2 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ประเทศไทย มีการจำหน่ายล็อตเตอร์รี่ และยังขยายเพิ่มมาอีก ส่งรายได้เข้ากระทรวงการคลัง เป็นจำนวนเงิน 4 หมื่นล้านบาท เยอะกว่ากาสิโนของสิงคโปร์เสียอีก แล้วไม่รู้เงินสี่หมื่นล้านไปทำอะไรบ้าง" รศ.ดร.นวลน้อย เปรียบเทียบรายได้ ให้เห็นว่า ในขณะที่ไทยไม่มีกาสิโนก็มีรายได้จากจำหนายสลากกินแบ่งรัฐบาล หักล้างขอกล่าวอ้างจากคนในรัฐบาล ที่ว่าจำเป็นต้องมีกาสิโน เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ

 

"รศ.ดร.นวลน้อย" กล่าวว่า กรณีมาเก๊า ที่ประสบความสำเร็จ เขาระบุมาก่อนเลยว่า จะทำสถานที่กาสิโนกี่แห่ง และขอประเมินการดำเนินกิจการภายใน 5 ปี จึงทำให้ ทุกคนต้องทำด้วยความระมัดระวัง กาสิโนของเขาจึงไปได้ แต่ของเรา ถ้าไม่มีการเขียนกฎหมายอธิบายไว้อย่างรัดกุม ระมัดระวัง ก็จะเจ๊งเสียก่อน

"บทเรียนจากกลุ่มประเทศที่ไม่ระมัดระวัง บางประเทศตอนนี้ (สีหนุวิลล์) เคยมีชื่อเสียง เคยประกาศว่าจะสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวแข่งกับพัทยาของไทย แต่ต่อมาทำเป็นแหล่งกาสิโนไม่ประสบความสำเร็จ นักท่องเที่ยวไม่มี กลายเป็นตึกรกร้าง จนมาเป็นแหล่งฟอกเงิน อาชญากรรมข้ามชาติ คอลเซนเตอร์ตามมา. หรือกรณีฟิลิปปินส์ ที่ถูกติดบัญชีเกรย์ลิสต์( สีเทา ) แหล่งฟอกเงิน เพราะฉะนั้น ถ้าจะทำเรื่องนี้ ทุกอย่างต้องมีความชัดเจน และเป็นเวิล์ดคลาส ด้วยการเลือกบริษัทเวลิ์ดคลาสเข้ามาดำเนินการ เพราะบริษัทเหล่านี้กลัวเสียชื่อ หากติดลิสต์เรื่องการฟอกเงิน ถ้าเราไม่เริ่มต้นด้วยมาตรฐานสูงไว้ก่อน ก็จะมีจุดจบเหมือนประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นแหล่งอาชญากรรม นักท่องเที่ยวก็ไม่มา"

"รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์" อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน

เช่นเดียวกับ "น.ส.วทันยา บุนนาค" กล่าวว่า เราไม่มีปัญหาเรื่องนักท่องเที่ยว และหลังจากโควิด ผ่านมาสามปี ตัวเลขนักท่องเที่ยวก็มาใกล้เคียงก่อนโควิด แม้ไม่มีกาสิโน นักท่องเที่ยวก็มาอยู่แล้ว เนื้อหากม.จึงมีความสับสน ต้องการสร้างเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือสร้างกาสิโนคอมเพล็กซ์เพื่อสนับสนุนให้มีการเล่นการพนันอย่างถูกกฎหมาย

"น.ส.วทันยา" กล่าวว่า รัฐบาลต้องพิจารณาทุกมิติในการออกกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยเฉพาะเรื่องความโปร่งใส การคอร์รัปชั่น ที่จะมีความสัมพันธ์ตามมาจากการมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือ มีแหล่งกาสิโนก็ตาม ในการอนุมัติอนุญาติใบอนุญาติ ตั้งคำถามว่า เราเปรียบเทียบกับสิงคโปร์ ตามที่รัฐบาลกล่าวอ้างได้จริงไหม อยากให้ดูเรื่องสถิติการคอร์รัปชั่น ไทยกับสิงคโปร์ต่างกันมาก ทำไมเราไม่เปรียบเทียบกับประเทศใกล้เคียงกับเรา หรือ เทียบกับฟิลิปปินส์ก็ได้ ฉะนั้นองค์ประกอบนี้ ประเทศไทย จะไปเปรียบเทียบกับประเทศที่ประสบความสำเร็จไม่ได้

 

"สิงคโปร์ใช้เวลาศึกษากาสิโน 10 ปี ตั้งมา 5 ปี หรือ มาเก๊า ตั้งมาตั้งแต่ปี 1962 ตั้งแต่มีซัพพลายน้อย แต่ของไทยคิดกำลังตั้ง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเขามีหมดแล้ว แล้ววัตถุประสงค์เราบอกว่าจะสามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวได้ คำถามว่าดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จริงหรือ การ่างกฎหมายของเราจึงไม่เหมือนกับเขา สรุปรัฐบาลยังสับสนตนเอง"

นอกจากนี้ "มาดามเดียร์" แสดงความเป็นห่วงองค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบาย และบอร์ดบริหาร ตามกม. ที่เหมือน ครม.น้อย อำนาจทั้งหมดอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ในการเสนอ ออกแบบโครงสร้าง พิจารณาใบอนุญาต อะไรต่างๆ โดยที่ไม่มีภาคประชาชน. ภาคสาธารณสุข เข้าไปมีส่วนร่วม หรือจะเสนอปรับแก้ไขอะไรได้ หากกม.ฉบับนี้ออกไปบังคับใช้เหมือนเป็นการตีเช็กเปล่า ฉะนั้น การกำหนดสัดส่วนในคณะกรรมการ ขอให้ประชาชนมีส่วนร่วมได้ไหม

"คุณวทันยา บุนนาค" อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

"คุณจะทำอย่างไรให้เกิดความโปร่งใส เมื่อคณะกรรมการนโยบายมีอำนาจล้นฟ้า ต้องกำหนดลิมิตอำนาจคณะกรรมการให้น้อยลง เพราะหาก ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ผ่านมีผลบังคับใช้ ในระยะ10 - 20 ปี เราจะไม่มีสิทธิ์มาทักท้วงขอแก้ไข ในสิ่งที่ผ่านออกไปแล้ว แล้วเกิดผลกระทบในวงกว้าง วันนี้เท่ากับ ครม.กำลังตีเช็กเปล่า ฉะนั้น เราขอให้มีการกำหนดสัดส่วนคณะกรรมการ ให้ประชาชนมีส่วนร่วม มีอำนาจในการถ่วงดุลได้หรือไม่ เพื่อเข้าไปดูผลกระทบทางสังคมและสาธารณสุข"