"สังศิต" ยกสิงโปร์โมเดล ต้นแบบ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไทย

20 มกราคม 2568 รายการคมชัดลึก ทาง Nation TV ช่อง 22 สัมภาษณ์ รศ.ดร.สังสิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (อดีต สว.) ประเด็น ด้านมืด “กาสิโน-พนันออนไลน์” ทำลายประเทศ? ดำเนินรายการโดย วราวิทย์ ฉิมมณี

 

ภายหลังจาก ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร  หรือ กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ได้ผ่านความเห็นชอบในขั้นรับหลักการ จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 13 มกราคม  2568 ที่ผ่านมา โดยจะต้องผ่านกระบวนการตรวจร่างจากกฤษฎีกาและเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ ต่อไปนั้น

โดย รศ.ดร.สังสิต พิริยะรังสรรค์ ได้นำเสนอ วิธีการคิดของประเทศสิงคโปร์ ที่แตกต่างทุกประเทศ เนื่องจากประเทศสิงคโปร์มุ่งหาเงินจากกลุ่มนักธุรกิจ การจัดแสดงสินค้านานาชาติ การประชุมทางธุรกิจ ทำให้โรงแรมเต็มทุกวัน ขณะที่ประเทศอื่นๆมุ่งหาเฉพาะดึงดูดนักพนันไปเล่นในกาสิโน

 

 

โดยสิงคโปร์มีห้องประชุมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประชุมพร้อมกัน 30,000 คน มีคนมาประชุมมากกว่า ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้รวมกัน ดังนั้นสิ่งที่สิงคโปร์คิดน่าจะเป็นแนวคิดที่ถูกสำหรับประเทศไทย เป็นสิงคโปร์โมเดล น่าจะใช้กับประเทศไทยได้ คือมุ่งไปที่ธุรกิจไมซ์ (MICE Business) มาจัดประชุมนานาชาติในประเทศไทย เราได้เปรียบพื้นที่เราใหญ่กว่าสิงคโปร์ อาหารพืชผักผลไม้ ทำให้ดีกว่า ราคาถูกกว่า นักธุรกิจเหล่านี้เขาไม่จำเป็นต้องเล่นกาสิโน เขาอาจจะอยากไปหัวหิน พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่

แนวคิดนี้ เมื่อสภาฯชุดที่แล้วมีการตั้ง กมธ.ศึกษาเรื่องการทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่การทำไม่ได้มุ่งไปที่การศึกษา มุ่งไปที่แบบเก่า ไม่มีห้องประชุม ห้องแสดงสินค้าเลย เป็นการแข่งแบบมุ่งเอานักพนันมา ถ้าแข่งแบบนั้นเราเหนื่อยมาก

 

และในบัญชีแนบท้าย ร่าง พรบ.สถานบันเทิงครบวงจร เนื้อในพบว่า องค์ประกอบของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่มีห้องประชุมเลย แสดงว่าเน้นแบบเก่า แต่ถ้ามีห้องประชุมเข้าไปผมก็สบายใจขึ้น

 

 

อย่างไรก็ดี แต่ประเด็นอื่นต้องคิดแบบสิงคโปร์ เอาบริษัทที่เสนอกาสิโนทั่วโลกมาแข่ง แต่ของเราเป็นการขายใบอนุญาต ที่สำคัญขายแล้วเงินไม่ได้เข้าคลัง แต่ไปอยู่ที่กองทุนของสำนักงาน ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีรัฐมนตรีหลายคนเป็นกรรมการ อย่างสำนักงานสลากกินแบ่งรับบาล ทุกวันนี้คนเบื่อ เพราะมีการเมืองไปล้วง ถ้าเงินเยอะอย่างนี้ให้นักการเมืองดูแล ไม่ค่อยเหมาะ

 

กฎหมายต้องระบุว่า มีกี่แห่ง กาสิโน ต้องให้ชัด ของไทยอาจเริ่มจาก 1 แห่ง ที่สำคัญเงินนี้อย่าให้นักกาเรมืองไปเกี่ยวข้อง ไม่เกี่ยวว่าพรรคไหนจะขึ้นมาเป็นรัฐบาล ต้องโปร่งใส ต้องเขียนเอาไว้ในกฎหมายให้ชัด อย่าให้อำนาจคณะกรรมการใช้ดุลพินิจ จะเกิดความไม่โปร่งใส่ทันที ซึ่งการขายใบอนุญาตคือการขายสิทธิในการผูกขาดธุรกิจ โอกาสในการเกิดความไม่โปร่งใส เกิน 70-80%

 

ทั้งนี้ รศ.ดร.สังศิต เน้นย้ำว่า ก่อนจะทำกาสิโนให้ถูกกฎหมาย ต้องปฏิรูปหน่วยงานที่บังคับใช้เสียก่อน ต้องสุจริต ถ้าไม่สุจริตจะวุ่นวายทั้งประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ ทำกาสิโนไม่มีปัญหา เพราะฝ่ายการเมือง ฝ่ายราชการ เขาสะอาดพอ

 

 

แต่บ้านเราบ่อนผิดกฎหมาย ยังไม่หมดเลย แสดงว่าหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายเขาทำไม่ได้ ขนาดบ่อนเงินยังไม่เยอะเท่ากาสิโน ยังไม่กล้าเลย ถ้ากาสิโนเงินเยอะกว่าคุณจะกล้าหรือ มันจะน่าสังเวชประเทศ ดังนั้นต้องทำโครงสร้างให้รองรับก่อน รวมทั้งการฟอกเงินจะหลีกเลี่ยงได้ยากที่สุด เนื่องจากจะมีการทุจริตเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มต้น

 

อย่างไรก็ดี รศ.ดร.สังศิต เห็นว่า กว่าจะเปิดเป็นกาสิโนในประเทศไทยได้ ต้องใช้เวลาอีกหลายไป ถ้ารัฐบาลอยากได้เร็วๆ ลองใช้พื้นที่ 1 ชั้น ในห้างสรรพสินค้าสักแห่งทำเป็นกาสิโน ไม่ต้องลงทุนเยอะ ไม่ต้องขายใบอนุญาตให้เกิดข่าวอื้อฉาว ถ้าจะทำก็เสนอเป็น พ.ร.บ.กาสิโน ไปเลย แล้วไปกำกับดูแลให้ดี ไปดูให้ชัดว่าทำแล้วมีผลกระทบยังไงก่อน ให้มหาวิทยาลัย นักวิชาการ ศึกษาวิจัยทำผลกระทบ โดยใช้ระบบการประมูลให้โปร่งใส อย่าใช้ใบอนุญาต

 

“อย่างไรก็ดี ผมมองว่า กลุ่มไมซ์ เป็นกลุ่มที่ประเทศไทยจะหาเงินได้ เมื่อกลุ่มนี้เข้ามาใช้ประเทศไทยในการประชุม เขาจะมองถึงเรื่องการลงทุนด้วย ดังนั้น ควรปรับแก้กฎหมายให้กลุ่มนักธุรกิจได้รับใบอนุญาตให้การทำธุรกิจที่รวดเร็วขึ้น ผมเจอคนจีน มาลงทุนธุรกิจในประเทศไทย ที่ กว่าจะเริ่มทำธุรกิจได้นานถึง12 ปี คนถือหุ้นตายไปแล้ว คนมาทำธุรกิจต้องการความเร็ว

 

ส่วนการทำให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมายก็เช่นกัน ยากตรงที่การบังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมายต้องเป็นคนสุจริต ไม่แพ้เงิน ประเทศถึงจะได้ประโยชน์

 

เมื่อถามว่า จากการประเมินคิดว่า กาสิโนในเมืองไทย เป็นไปได้ไหม รศ.ดร.สังศิต กล่าวว่า อยากให้กำลังใจรัฐบาล ให้ทำงานให้ประเทศ อยากให้เห็นผลงาน ฟังเสียงประชาชน มีหลักการความโปร่งใส ความสะอาดต้องเป็นที่ตั้ง เพราะฉะนั้นอยากฝากว่า ประเทศอยู่ในมือของท่านแล้ว ฝากให้คนไทยอยู่ดีกินดีมีงานทำ

 

เมื่อถามถึงการทำประชามติเรื่องกาสิโน รศ.ดร. กล่าวว่า  คนไม่เอาหรอก เพราะคนไม่ไว้ใจรัฐบาล ผมสนับสนุนให้ทำประชามติ แต่เชื่อว่าไม่ผ่าน จะผ่านได้ต้องเป็นรัฐบาลสะอาด สุจริต มีเจตจำนงแน่วแน่ ที่จะทำเพื่อประเทศ