17 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ความเคลื่อนไหวการหาเสียงเลือกตั้ง "นายกฯอบจ." ทั่วประเทศ ซึ่งผ่านมาเกินครึ่งทาง ยังเป็นไปด้วยความคึกคักหลายพื้นที่ โดยการเลือกตั้งกำหนดให้มีพร้อมกันในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568
โดยเฉพาะสมรภูมิเลือกตั้งอบจ.โซนภาคเหนือ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นการแข่งขันของผู้สมัครคนสำคัญ "นางสลักจฎดิ์ ติยะไพรัช" อดีตนายกฯอบจ.เชียงราย ภรรยา "นายยงยุทธ ติยะไพรัช" อดีตประธานรัฐสภา แกนนำพรรคเพื่อไทยกับ "นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์" อดีตนายกอบจ. เชียงราย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา "นางสลักจฤฎดิ์" และ "นายยงยุทธ ติยะไพรัช" กับทีมงานหาเสียงเลือกตั้งได้ลงพื้นที่หาเสียงอย่างหนัก มีการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ปราศรัยย่อยทุกอำเภอในจังหวัดเชียงราย บางวันเปิดเวที่ปราศรัยถึง3 - 4 จุด มีการเปิดเวทีปราศรัยที่ตำบลปล้อง,ตำบลหงาว อำเภอเทิง ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของของบ้านใหญ่ "ตระกูล วันไชยธนวงศ์" แต่ปรากฎว่า มีประชาชนไปฟังการปราศรัยเรือนหมื่นคน
"ที่น่าสนใจ ก็คือ ในโค้งสุดท้ายของการหาเสียง ก่อนวันเลือกตั้ง 1 กุมภาพันธ์ นายทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางมาที่เชียงรายเพื่อหาเสียงช่วยนางสลักจฎดิ์ในวันที่ 29 มกราคม โดยจะขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงให้ถึง 3 จุดในวันเดียวที่อำเภอแม่สรวย -อำเภอพานและสนามฟุตบอลเชียงรายยูในเต็ด ที่เป็นสโมสรฟุตบอลประจำจังหวัด หลังก่อนหน้านี้ เคยมาช่วยหาเสียงให้แล้วเมื่อ 5 มกราคม ที่ผ่านมา"
ขณะเดียวกันวันนี้ 17 มกราคม "นายจักรภพ เพ็ญแข" อดีตรมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาช่วยหาเสียงและขึ้นเวทีปราศรัยให้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจาก "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ เตรียมลงพื้นที่ปราศรัยโค้งสุดท้าย ที่จ.เชียงรายแล้ว ในช่วงสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป "นายทักษิณ" มีกำหนดการเดินสายช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.นครพนม ให้นายอนุชิต หงษาดี ในวันที่ 18 มกราคม
ถัดจากนั้น วันที่ 19 มกราคม ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.บึงกาฬ ให้กับนายภูมิพันธ์ บุญมาทุ่ม ตามด้วย จ.หนองคาย นายวุฒิไกร ช่างเหล็ก และวันที่ 24 มกราคม ช่วยหาเสียงให้กับนายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ
"นายยงยุทธ" ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้ "นางสลักจฤฎดิ์" กล่าวถึงการหาเสียงในช่วงที่ผ่านมาว่า พบว่าประชาชนชาวเชียงราย ให้การตอบรับและตื่นตัวกับการเลือกตั้งนายกฯอบจ.เชียงรายครั้งนี้อย่างมาก ส่วนเรื่องความมั่นใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ คงต้องรอจนถึงช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง แต่การหาเสียงในช่วงที่ผ่านมา ได้ใช้รูปแบบการหาเสียงท้องถิ่น-นายกฯอบจ.ที่แตกต่างจากการหาเสียงนายกฯอบจ.ในรูปแบบเดิมๆ เพราะได้นำเสนอนโยบายแนวความคิดหลายอย่างที่ประชาชนจับต้องได้ ไม่ได้พูดถึงแต่เรื่องการทำถนน แต่ได้นำเสนอแนวคิดเรื่องการพัฒนาจังหวัดโดยเชื่อมโยงกับส่วนกลาง-รัฐบาล ในรูปแบบเชียงรายโมเดล
"นายยงยุทธ" กล่าวอธิบายแนวนโยบายเชียงรายโมเดลว่า จะทำให้เชียงรายเป็นโมเดล ให้เห็นถึงการช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ เช่นเรื่องการเกษตร ซึ่งหน่วยงานรัฐมีกระทรวง-กรมที่เกี่ยวข้องหลายแห่ง มีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ มีข้าราชการหลายหน่วยงานในจังหวัด แต่เกษตรกรก็ยังมีปัญหาเรื่องหนี้สินธกส.เรื่องราคาพืชผลการเกษตรที่ขายไม่ได้ราคา แต่ก็จะพบว่าข้าราชการเองบางทีมาอยู่ที่จังหวัด พอทำงานได้สักพักก็ย้ายไปจังหวัดอื่น แต่เกษตรกรยังอยู่ที่จังหวัด ยังประสบปัญหาเหมือนเดิมแล้วก็เจอกับปัญหาเดิม ๆเช่น บอกว่าที่ราคาสินค้าเกษตรขายได้ราคา ก็เพราะผลิต-ปลูกมากเกินไป โดยไม่ได้มีแนวนโยบายใหม่ๆมาแก้ปัญหา ก็เสนอแนวทางว่า ต่อไป ต้องปรับจากที่เกษตรกรเป็นต้นน้ำ -ผู้ผลิต ทางอบจ.เอง ต้องเข้ามาอยู่กลางน้ำ หาพื้นที่ตลาดกลาง ทำmarket place ตลาดเปิดในจังหวัดในพื้นพื้นที่ต่างๆ
เช่น แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดอาทิ น้ำตก ภูเขา โดยให้เกษตรกรนำผลิตผลทางการเกษตรมาขายโดยไม่คิดค่าพื้นที่ขาย เป็นลักษณะ Farm from to Table จากเกษตรกรถึงผู้บริโภค-ลูกค้าโดยตรง แล้วนำเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วย เพื่อลดต้นทุนทุนการผลิตให้เกษตรกร
วันนี้ อบจ.ต้องไม่ได้คิดแต่เรื่องทำถนน อย่างเดียว รวมถึงอบจ.ต้องทำหน้าที่อื่นๆด้วยเช่น เรื่องการสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง การส่งเสริมเรื่องการศึกษาเช่นการสนับสนุนให้ประชาชน นักศึกษาในจังหวัดได้มีโอกาสเรียนภาษามากขึ้น อบจ.ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป
ชมคลิป >>> บรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงราย
คลิป 2 >>> บรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงราย