เปิดศักราชปี 2568 กับจังหวะก้าวของผู้นำหญิง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อการบริหารประเทศนับว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย
ด้วยการตระเวนลงพื้นที่ติดตามโครงการการพัฒนาจังหวัดต่างๆ และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ก็อยู่ในจังหวะที่หลายจังหวัดมีการหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทย หมายมั่นปั้นมือ ต้องการคว้าชัยให้ได้เกือบทุกจังหวัด ทำให้ ภาพการลงพื้นที่ของ "นายกฯแพทองธาร"ในช่วงเวลาดังกล่าวต้องการหวังผลทางการเมืองท้องถิ่นอย่างปฎิเสธไม่ได้
แต่ความน่าสนใจกว่านั้นอีก คือแผนการลงพื้นที่ในปี 2568 นั้น กลับพบหมุดหมายสำคัญ ด้วยการลงพื้นที่ "สามจังหวัดชายแดนใต้"อีกด้วย
"เนชั่นทีวี" รวบรวมแผนการลงพื้นที่ นายกฯแพทองธารและคณะ ในช่วงเริ่มต้นของปี 2568 ไว้ดังนี้
9 มกราคม 2568 จังหวัดภูเก็ต
ถือเป็นการลงพื้นที่ภาคใต้ ครั้งแรกของปี 2568 เมื่อ"นายกฯแพทองธาร" ลงพื้นที่"จังหวัดภูเก็ต" จังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวลำดับต้น ๆ ซึ่งแน่นอนการเดินทางมาภูเก็ตของ นายกฯแพทองธาร จึงมาติดตามการก้ปัญหาในพื้นที่อย่างครบวงจร รองรับการเติบโตภาคท่องเที่ยว ยกระดับสู่ Premium Destination
การเดินทางมาเยือน"ภูเก็ต"คราวนี้ นายกฯยังได้รับเกียรติมาเป็น ประธานพิธีเปิดงานแสดงเรือนานาชาติแห่งประเทศไทยและลักซ์ชูรี่ไลฟ์สไตล์ ณ ท่าเทียบเรือยอร์ช เฮเว่น มารีน่า อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมกับ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ณ อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ
12 มกราคม 2568 จังหวัดนครพนม
ปราศรัย สามเวที ตามรอยอดีตนายกฯผู้พ่อ
ถือเป็นการลงพื้นที่ในส่วนภาคอีสานตอนบน ซึ่ง"แพทองธาร" จะมาในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อหาเสียงช่วย "นายอนุชิต หงษาดี" ผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับการสนับสนุนจาก"นางมนพร เจริญศรี" รมช.คมนาคม ให้ลงสมัครนายก อบจ.นครพนมในครั้งนี้ โดยกำหนดการวางไว้ "วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม" ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ ป้องกันข้อครหา
แต่ความน่าสนใจของการลงพื้นที่อีสานครั้งนี้ คือ ถัดจากนั้นอีก 6 วัน "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ จะมาหาเสียงสำทับในวันที่ 18 มกราคม ซึ่งถือเป็นการยกทัพหลวงของเพื่อไทยสองทัพเข้ามาช่วยเต็มที่ เพื่อต้องการชนะให้ได้ โดยจะมีการใช้สนามกีฬาโรงเรียนนครพนมวิทยาคม เขตเทศบาลเมืองนครพนม เป็นเวทีในการหาเสียงช่วยนายอนุชิต
สำหรับคู่แข่งขันสำคัญของเพื่อไทยคือ "น้องขวัญ-น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ" อดีตนายก อบจ.นครพนมสมัยที่ผ่านมา บุตรสาวนายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาฯ และแกนนำพรรคโซนอีสานใต้ของ"พรรคภูมิใจไทย" หนึ่งในนักการเมืองคนสนิทนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย
ตารางการปราศรัย ของนายกฯ จะเริ่มตั้งแต่ เวลา 09.00 น. สนามกีฬาเทศบาล ต. นาแก อ. นาแก เวทีที่ 11.00 น. ณ หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม หนองญาติ เวลา 12.00 น. ณ อาคารโดมเทศบาล ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม
13 มกราคม 2568 จังหวัดนครสวรรค์
โซนภาคกลางตอนบนที่ถูกปักหมุดไว้ล่วงหน้าของปี 2568 คือ"จังหวัดนครสวรรค์" โดยหลังจาก"นายกฯแพทองธาร" ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำสัปดาห์เสร็จสิ้นในช่วงเช้า จากนั้นช่วงบ่ายก็จะเดินทางไป "นครสวรรค์" เพื่อเป็นประธานพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ โครงการ "ธนารักษ์เอื้อราษฎร์" และติดตามการบริหารจัดการน้ำและการขุดลอกพื้นที่กักเก็บน้ำ อ.เมือง นครสวรรค์
16 มกราคม ยะลา- ปัตตานี - นราธิวาส
เยือนสามจว.ชายแดนใต้ครั้งแรก
หากไม่นับรวม ภารกิจ "นายกฯแพทองธาร" ลงมาติดตามแก้ปัญหาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 9 มกราคม รวมถึงการลงมาติดตามปัญหาอุทกภัยจังหวัดภาคใต้ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี เมื่อปลายปี 2567
นี่อาจถือเป็นการลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ครั้งแรก ของนายกฯแพทองธาร นับตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ บริหารประเทศ และยังเป็นครั้งแรกของปี 2568 อีกด้วย ท่ามกลางการรอคอยของผู้คนในพื้นที่ ไถ่ถามกันมากว่า "นายกฯจะมากี่โมง"
โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ จะเป็นการลงพื้นที่ตามข้อเสนอ ของ "พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง" รมว.ยุติธรรม เพื่อได้รับทราบสภาพปัญหาข้อเท็จจริง ต่อการพัฒนาในพื้นที่ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวบรวมสภาพปัญหาและการพัฒนานำเสนอต่อที่ประชุม คณะรัฐมนตรีอนุมัติ โดยมี 3-4 ประเด็นสำคัญ
โดยจะเริ่มปักหมุดที่"จ.นราธิวาส" เป็นจังหวัดแรก เพื่อติดตามโครงการ ก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก ที่อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พร้อมกับรับฟังรายงาน โครงการถไฟทางคู่หาดใหญ่ –สุไหงโก-ลก จากการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม
-การแก้ปัญหาหนี้สิน ความยากจน ผ่านโครงการ "มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความยุติธรรม" โดยจะได้พบปะนักศึกษาและผู้ปกครอง ที่มหาวิทยาลัยยนราธิวาสราชนครินทร์
โดยเฉพาะเรื่องของการศึกษา ที่มีนักเรียน นักศึกษา กู้ยืมเงิน ผ่านกองทุนกู้ยืมทางการศึกษา (กยศ.) ซึ่งต่อมามีการปรับแก้ไขกฎหมาย ลดเงื่อนไขการกู้ยืมลงมามากแล้ว โดยนายกฯจะได้ลงไปร่วมรับฟังข้อมูลจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม โดยเฉพาะพื้นที่ ยะลา และ นราธิวาส
หลังจากนั้น นายกฯ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ลุยต่อ ที่จังหวัดปัตตานี
-เพื่อติดตามความคืบหน้าการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะ โครงการขุดลอกร่องน้ำชายฝั่งทะเล ปะนาเระ จ.ปัตตานี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขเฉพาะหน้าให้ชาวประมง
-ได้มารับฟังข้อเสนอจาก สภาอุตสาหกรรม หอการค้า ผู้ประกอบการ ภาคเอกชน ในสามจังหวัดชายแดนใต้ เกี่ยวกับ โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) เสริมสภาพคล่องธุรกิจ ในอัตราดอกเบี้ย 1.5 เปอร์เซนต์
เท่านั้นไม่พอ เรียกว่ามาทั้งที ต้องมาให้ครบ จัดหนักอัดเต็ม โดยนายกฯเสร็จภารกิจที่"จังหวัดปัตตานี" ก็จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ มาปิดท้ายภารกิจ ที่"จังหวัดยะลา" โดยเดินทางไปยัง "โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ" พบปะผู้นำศาสนา และนักเรียนโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จังหวัดยะลา ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพ ในช่วงเย็นๆ
16-19 กุมภาพันธ์ จังหวัดสงขลา
ข้ามมาเดือนกุมภาพันธ์กันเลย ระหว่างวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ นายกฯแพทองธาร นำประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร ) ด้วยการปักหมุดที่จังหวัดสงขลา โดยจะออกเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ และเดินทางกลับวันที่ 19 กุมภาพันธ์
หากพิจารณาแล้ว ชีพจรลงเท้าตระเวนทั่วไทยปี 2568 นายกฯแพทองธาร ให้ความสำคัญต่อการลงพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น ทำให้นึกถึงคำพูดของนายกฯแพทองธาร ที่เคยให้สัมภาษณ์เมื่อปลายปีที่ผ่านมาช่วงภาคใต้ประสบอุทกภัย แล้วมีคนตั้งคำถามหานายกฯ ละเลยชาวใต้ จน"นายกฯแพทองธาร" ตอบกลับสื่อมวลชน จนกลายเป็น ประโยคยอดฮิต "ไม่ได้ละเลยคนใต้ อย่าลืมนะคะว่า ดิฉันมีสามีเป็นคนใต้ "